“ปาฏิหาริย์พระบรมสารีริกธาตุ ณ บรมบรรพต (ภูเขาทอง) วัดสระเกศ ” ภาพยนตร์การ์ตูนอิงประวัติศาสตร์ ถ่ายทอดความเป็นมาของ พระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งได้อัญเชิญมาจากประเทศอินเดีย ในสมัยรัชกาลที่ ๕ พร้อมทั้งประวัติ วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร จุดเริ่มต้นแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ โดยผ่านตัวการ์ตูน สอดแทรกสาระ ความรู้ ความสนุกสนาน และสัมผัสกับ ปาฏิหาริย์ ของพระบรมสารีริกธาตุ ที่ประดิษฐาน ณ บรมบรรพต (ภูเขาทอง) จนเป็นที่น่าอัศจรรย์ใจแก่ผู้พบเห็น และเป็นที่เคารพสักการะ ของปวงชนชาวไทย และชาวพุทธทั่วโลกมาจนถึงทุกวันนี้ จัดทำโดย สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคงแห่งสถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ วัดสระเกศ

๑๒๒ ปี แห่งการเดินทางของพระบรมสารีริกธาตุ

จากกรุงกบิลพัสดุ์ สู่สยามประเทศ

จากภาพยนต์การ์ตูนอิงประวัติศาสตร์

เรื่อง “ปาฏิหาริย์พระบรมสารีริกธาตุ

ณ บรมบรรพต (ภูเขาทอง) วัดสระเกศ ”

ตอนที่ ๔

“ พระบารมีแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ”

ความเดิมตอนที่แล้ว…

หลังจาก พระยาสุขุมนัยวินิต (ปั้น สุขุม) รับมอบพระบรมสารีริกธาตุจากรัฐบาลอังกฤษในประเทศอินเดียแล้ว ก็ออกเดินทางเรือ ในระหว่างการเดินทางนั้นเอง ก็เกิดพายุไต้ฝุ่นลูกใหญ่มาข้างหน้าอย่างรุนแรง ในเวลาวิกฤตินั้นเอง พระยาสุขุมนัยวินิต กราบนมัสการพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมา ตั้งอธิษฐานจิตว่า ขอให้องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า คุ้มครองเหล่าลูกช้างในการเดินทางครั้งนี้ด้วยเทอญ เพื่อที่ลูกช้างจะได้นำพระบรมสารีริกธาตุ ไปประทับที่กรุงสยาม ให้เป็นที่สักการะของชาวพุทธโดยทั่วกัน

หลังจากกล่าวคำอธิษฐานจบลงก็เกิดแสงสว่างโชติช่วงจากพระบรมสารีริกธาตุ จากนั้นพายุไต้ฝุ่นก็สงบลง

ครั้นมาถึงเกาะหมาก เขาก็ไม่อนุญาตให้เรือขึ้นฝั่งได้ เพราะมีข่าวว่า ทางอินเดียมีโรคระบาด คือ กาฬโรค ต้องขอให้ทุกคนรออยู่ในเรือ เพื่อตรวจดูว่า มีเชื้อโรคระบาดหรือไม่ เป็นเวลาสามวัน พระยาสุขุมนัยวินติจึงตัดสินใจย้ายคณะไปลงเรือหลวงดำรงรัตน์ แล้วไปขึ้นฝัางที่ตรังแทน

เมื่อได้ขึ้นฝั่งที่ตรังแล้ว ก็ได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุขึ้นบุษบกแล้วอัญเชิญประดิษฐานที่พลับพลา เพื่อให้บรรดาภิกษุสามเณรตลอดจนพ่อค้า ข้าราชการ ประชาชน ที่มีถิ่นอาศัยในละแวกนั้นได้อาศัยสักการบูชาโดยทั่วกัน

จากนั้น จึงได้จัดขบวนแห่ไปยังเมืองพัทลุง ต่อไปยังเมืองสงขลา เพื่อลงเรือมหาพิชัยเชษฐกลับมาที่ปากน้ำ จังหวัดสมุทรปราการ และได้มีการเฉลิมฉลองกันอย่างยิ่งใหญ่ ที่บริเวณพระสมุทรเจดีย์ เป็นเวลา ๓ วัน ๓ คืน ตั้งแต่วันที่ ๑๕ -๑๗ มีนาคม พ.ศ.๒๔๔๑

และที่พระสมุทรเจดีย์นี่เอง ก็เกิดปาฏิหาริย์ขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ในวันที่ ๑๖ มีนาคม พ.ศ.๒๔๔๑

เมื่อเกิดแสงสว่างรัศมีเปล่งประกายจากพระบรมสารีริกธาตุอีกครั้งหนึ่งจนทำให้ประชาชนอัศจรรย์ใจเป็อย่างยิ่ง ราวกับยืนยันอีกครั้งหนึ่งให้ประชาชนได้ประจักษ์ด้วยตนเอง ถึงอานุภาพแห่งพระพุทธองค์ ด้วยพระบารมีแห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

จากการเล่าขานเรื่องแสงสว่างของพระบรมสารีริกธาตุที่ทำให้พายุใต้ฝุ่นสงบลงระหว่างการเดินทางจากอินเดียกลับมายังสยามประเทศโดยปลอดภัย อีกทั้งยังผ่านกาฬโรค ซึ่งเป็นโรคระบาดในขณะนั้นที่ผ่านมายังประเทศอินเดียด้วย โดยที่คณะทูตทุกท่านที่เดินทางไปกับ พระยาสุขุมนัยวินิต (ปั้น สุขุม) เพื่อไปอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุกลับสยามประเทศปลอดภัยทุกท่าน ทุกประการโดยสวัสดิภาพ

หลังจากนั้น พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ โปรดฯ ให้บรรจุไว้ ณ พระบรมบรรพต (ภูเขาทอง) เมื่อ ร.ศ.๑๑๘ ตรงกับ พ.ศ.๒๔๔๒ โดยโปรดให้จัดขบวนรถม้าหลวงอัญเชิญพระบรมสารีริธาตุ เข้าสู่พระนคร แล้วทรงโปรดฯ ให้มีการเฉลิมฉลองสมโภชพระบรมสารีริกธาตุ เป็นเวลา ๗ วัน ๗ คืน

และขณะนั้นเองที่ประชาชนได้ร่วมเฉลิมฉลองสมโภชพระบรมสารีริกธาตุ ณ บรมบรรพตก็เกิดปรากฏดวงไฟสุกสว่างเปล่งประกายเป็นฉัพพรรณรังษี ลอยออกจากองค์พระบรมบรรพตอีกครั้งหนึ่ง

ยังมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับปาฏิหาริย์พระบรมสารีริกธาตุ เกิดขึ้นอีกหลังจากนั้น ในหนังสือ “๑๑๒ ปี แห่งการบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ จากกรุงกบิลพัสดุ์สุ่สยามมประเทศ” เล่าไว้ตอนหนึ่งว่า

หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดฯ พระราชทานพระบรมสารีริกธาตุ ที่อัญเชิญมาจากอินเดียแล้ว ทรงโปรดฯ พระราชทานพระบรมสารีริกธาตุแก่เจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม) ไว้ในคราวนั้นด้วย

โดยที่พระองค์ทรงพระราชทานถุงบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ที่อัญเชิญมาจากประเทศอินเดียนั้น แก่เจ้าพระยายมราชนำไปเก็บรักษาไว้ เพื่อเป็นบรรณาการ ในการเป็นผู้แทนรับบาลกรุงสยามไปอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ

เมื่อกลับถึงบ้านปรากฏว่า พระบรมสารีริกธาตุ ได้เสด็จมาเพิ่มในถุงบรรจุของเจ้าพระยายมราชนั้นด้วย เมื่อนำความขึ้นกราบบังคมทูล พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาทราบแล้ว ทรงโปรดเกล้าฯให้เจ้าพระยายมราช นำไปเก็บรักษา สักการบูชาไว้ที่บ้านของท่านตามเดิม

ท่านผู้หญิงตลับ ภริยาเจ้าพระยายมราช ก็ได้พบกับเหตุการณ์อันน่าอัศจรรย์ด้ววยตนเอง ขณะท่านผู้หญิงตลับเอนหลังหลับพักอยู่ ได้เกิดเสียงเอะอะจึงตื่นขึ้นมา แลเห็นแสงสีขาวเป็นลำ ส่องเข้าไปทางหน้าต่างห้องของเจ้าพระยายมราช ท่านผู้หญิงตลับรีบเปิดประตูเข้าไปดู จึงเห็นแสงสีขาวเป็นลำ ส่องไปที่ถุงผ้าขาว สำหรับแบ่งพระบรมสารีริกธาตุ ที่เจ้าพระยายมราชวางไว้ จึงได้ปลุกเจ้าพระยายมราชขึ้นมาดู แล้วหยิบถุงมาตรวจอีกครั้งหนึ่ง ก็ปรากฏว่า ยังมีพระบรมสารีริกธาตุติดอยู่กับเศษผงอีก ๓-๔ องค์

ขอขอบคุณ ภาพถ่ายจากพระมหาปฐมพงษ์ ญาณวํโส จริยธรรมแชนแนล สำนักงานส่สเงสริมคุรธรรม จริยธรรมและความมั่นคงแห่งสถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ วัดสระเกศ
ขอขอบคุณ ภาพถ่ายจากพระมหาปฐมพงษ์ ญาณวํโส จริยธรรมแชนแนล สำนักงานส่สเงสริมคุรธรรม จริยธรรมและความมั่นคงแห่งสถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ วัดสระเกศ

หลังจากผ่านไป ๑๑๒ ปีแห่งการบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ

ผู้สืบสกุลเจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม)ได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ที่เก็บรักษาไว้ตามสายสกุลมาถวายเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เจ้าอาวาสวัดสระเกศ ภายหลังคุณเกษม สุขุม และคุณหญิงชื่นจิตต์ สุขุม ผู้เป็นบิดามารดาถึงแก่อนิจกรรม

ขณะอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมาถวายเจ้าประคุณสมเด็จฯ นั้น ปรากฏว่ามีพระบรมสารีริกธาตุเพิ่มขึ้น นับเป็นเหตุอัศจรรย์ที่ปรากฏต่อพระภิกษุสงฆ์ และพุทธศาสนิกชนผู้ร่วมเจริญพระพุทธมนต์ในคืนนั้น เมื่อเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์อัญเชิญขึ้นประดิษฐาน ณ โต๊ะหมู่บูชา ปรากฏว่ามีพระบรมสารีริกธาตุเพิ่มขึ้นอีกเป็นจำนวนมาก

(โปรดติดตามตอนต่อไป)

๑๒๒ ปี แห่งการเดินทางของพระบรมสารีริกธาตุจากกรุงกบิลพัสดุ์ สู่สยามประเทศ จากภาพยนต์การ์ตูนอิงประวัติศาสตร์ เรื่อง “ปาฏิหาริย์พระบรมสารีริกธาตุ ณ บรมบรรพต (ภูเขาทอง) วัดสระเกศ ” ตอนที่ ๔ “ พระบารมีแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ” สร้างสรรค์โดย สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมและความมั่นคงแห่งสถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ วัดสระเกศ

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here