โชคดีที่เห็น “ความคิด”

0
1186

โชคดีที่เห็น’ความคิด’

          การที่เราจะเห็นว่า ตัวเรานั้นต่างเป็นคนโชคดี ไม่ใช่เรื่องง่าย อย่างที่ตั้งข้อสังเกตกับตัวเองไปคราวที่แล้ว เพราะความคิดลบๆ มักจะมากลบให้ใจห่อเหี่ยวเสมอ แต่ก่อนที่จะไปสู่รากที่มาของความคิดลบๆ นั้นมาจากไหน ฉันอยากจะบอกถึงความโชคดีของเรากันก่อนสักเล็กน้อย

          ที่ว่า เราต่างเป็นคนโชคดีนั้นก็ไม่ได้เป็นเรื่องของคนที่จะมีโชค แต่หมายถึง “ เราโชคดีที่เกิดเป็นมนุษย์ และได้พบพระพุทธศาสนา” ต่างหาก ทำไมจึงกล่าวเช่นนั้น

          เพราะพระพุทธศาสนาไม่ใช่เรื่องของความเชื่อ หรือเป็นเรื่องของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นเรื่องของความจริงในกายและใจเราเองที่เมื่อเราศึกษาเรียนรู้ ค้นหา ธรรมวิจัยไปตามแผนที่ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงวางไว้โดยอาศัยอริยสัจ 4 เป็นแนวทาง คือ เมื่อรู้ว่า เรามีความทุกข์ ก็หาเหตุแห่งทุกข์ แล้วเราก็จะพบหนทางการดับทุกข์ คือ อริยมรรคมีองค์ 8 ประการ คือ สัมมาทิฐิ ความเห็นที่ถูกตรงกับความเป็นจริง เป็นลำดับแรกไปจนถึง สัมมาสมาธิเป็นลำดับสุดท้าย หากเราปฏิบัติไปตามหนทางนี้ได้ด้วยความเพียร เราก็จะพบกับตัวเองได้ในวันหนึ่ง และเมื่อเราพบกับตัวเองอย่างตรงไปตรงมาอย่างแท้จริง ก็จะถึงบางอ้อว่า ทำไมเราจึงเป็นคนโชคดี

           เพราะคนส่วนใหญ่ มักมีความคิดที่ติดลบโดยไม่รู้ตัว จนเราไม่รู้ว่า หนทางการออกจากความคิดลบๆ นั้นมีอยู่ แต่เราไม่รู้ และถ้ารู้แล้ว  เมาลองไล่เลียงกันดูว่า เราบ่มเพาะความคิดลบๆ กันมาแต่ไหนกัน  

          หากจะมองใกล้ที่สุดก็คือ ครอบครัวของเราเอง

          ไหน ใครบ้างที่เติบโตมากับครอบครัวที่มีพ่อแม่พี่น้องมีทัศนคติที่ดีที่เป็นบวกบ้าง ยกมือขึ้น  และใครบ้างที่เติบโตมากับครอบครัวที่อยู่กับความเป็นจริง มองเห็นความคิดลบๆ ว่าเป็นเพียงความคิด และไม่ตามมันไป แล้วก็มีชีวิตที่สร้างสรรค์ เพราะสามารถใช้ความคิดดีๆ สร้างสรรค์ครอบครัว และสังคมที่เขาอยู่ได้อย่างมีความสุข

          หากเกิดมาในครอบครัวแบบหลังก็ดีใจด้วยค่ะ แต่หากเกิดมาในครอบครัวแบบแรกก็ไม่ต้องเสียใจ เพราะทำให้เราจะได้มาธรรมวิจัยกันล่ะ  

          เมื่อมองโดยภาพรวมของสังคม เราสังเกตไหมว่า มีครอบครัวมากมายที่โดนความคิดลบๆ มันเล่นงานจนสะบักสะบอมไปเลย ใช่หรือไม่ ยกตัวอย่างสักเรื่องหนึ่ง สามีระแวงภรรยาว่าจะมีชู้ จนทำร้ายภรรยาและลูกตัวเอง สุดท้ายก็ทำร้ายตัวเอง และสูญเสียทุกอย่างไปในที่สุด แต่ความจริงไม่ใช่อย่างที่สามีคนนั้นคิดเลย

          การเชื่อความคิดลบๆ จนมันกลับมาทำร้ายตัวเองได้ เป็นเพราะเรายังไม่มีสติ สมาธิ และปัญญาเพียงพอที่จะเห็นเจ้าตัว ’ความคิด’ ว่ามันทรงพลังเพียงใดกับชีวิต แล้วเจ้าความคิดลบๆ นี้ มันถูกส่งผ่านมายังสิ่งแวดล้อมรอบตัวเรา พุ่งตรงเข้ามาสิงสถิตย์อยู่ในใจ แล้วรุมถล่มใจเราให้ย่อยยับและพินาศได้อย่างที่มันทำกับคนบนโลกนี้มามากมายมหาศาล

          ลองสังเกตดู … หากพ่อมีความคิดลบๆ ลูกก็มีแนวโน้มที่จะมีความคิดลบๆ ไปด้วยอย่างไม่รู้ตัว แต่ถ้าเมื่อไรเรารู้ตัว ว่าเรากำลังถูกความคิดมันหลอก ก็จะรู้ว่า นั่นเป็นเพียงความไม่มั่นคงทางจิตใจของเขา หรือของคนเหล่านั้นที่แวดล้อมเรา เมื่อไม่มั่นคงทางใจ ก็แน่นอนว่าย่อมมีความกลัว ความกังวล ที่ส่งผ่านมาให้

          ที่สำคัญที่จะบอกตรงนี้คือ บนโลกนี้เราอาจเลี่ยงความคิดลบๆ ซึ่งเป็นคลื่นพลังงานอยู่เต็มไปหมดทั้งภายนอกและภายในใจเราไม่ได้ แต่เรา เลือกที่จะไม่ให้ความคิดลบๆ นั้นมันมาทำร้ายใจเราได้

หมอนไม้

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here