“พ่อเล่าถึงความทุกข์ยากช่วงสร้างเนื้อสร้างตัวว่า พ่อไม่มีความรู้ทางหาอยู่หากินด้านใด นอกจากหากินกับบุ่งกับท่า รับจ้างเลื่อยไม้ หาปลา เผาถ่านขาย ไม้แก่นหล่อน (*ไม้แก่นหล่อน คือ ไม้ยืนต้นแห้งตาย) มีที่ไหน ใครให้ พ่อก็ไปตัดเผาถ่านขาย …
“การเผาถ่านขายจึงกลายเป็นอาชีพหลักในการสร้างรายได้อย่างหนึ่งของคนเผาถ่านในยุคของพ่อ”
ญาณวชิระ

เมื่อความชรามาเยือน
๕๕ ความเรียงว่าด้วยบทสนทนาของพระลูกชายกับโยมพ่อผู้ชรา
ISBN : ๙๗๘ – ๖๑๖ – ๙๓๓๗๘ – ๖ – ๗
ผู้เขียน : ญาณวชิระ
(พระมหาเทอด ญาณวชิโร,วงศ์ชะอุ่ม)
อดีต พระราชกิจจาภรณ์
ปีที่พิมพ์ : ๒๕๖๗
จำนวนพิมพ์ : ๑,๐๐๐ เล่ม
จำนวนหน้า : ๓๐๔ หน้า
จัดพิมพ์ โดย : สถาบันพัฒนาพระวิทยากร
เลขที่ ๓๔๔ อาคารสันติวัคคีย์ แขวงบ้านบาตร เขตป้อมปราบ กรุงเทพมหานคร ๑๐๑๐๐
พิมพ์ที่ : หจก.นิวไพศาลการพิมพ์
เลขที่ ๕๓ เจริญนคร ๔๖ บางลำพูล่าง เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร
ชรัง อนตีโต : เมื่อความชรามาเยือน ๑๓ “เรื่องของพ่อ เรื่องของคนเผาถ่าน” ผู้เขียน ญาณวชิระ (พระมหาเทอด ญาณวชิโร,วงศ์ชะอุ่ม) อดีต พระราชกิจจาภรณ์

๑๓ เรื่องของพ่อ เรื่องของคนเผาถ่าน

ในยุคที่ไม่มีเตาแก๊ส ไม่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าหุงหาอาหาร ถ่าน คือ สิ่งจำเป็นอย่างหนึ่ง โดยเฉพาะคนที่มีบ้านอยู่ในเมือง ไม่มีป่าให้หาไม้ทำฟืนหุงหาอาหาร จึงต้องซื้อถ่านไว้ใช้ตามตลาด และในครัวเรือน
ส่วนจะซื้อวันเวลาไหนก็ขึ้นอยู่กับว่า บ้านนั้นถ่านหมดครัวเมื่อไหร่ บางเจ้าใช้ไม้ดีเผาถ่าน ทำให้ถ่านไม่มีขี้เถ้า ไม่มีควัน ใช้ถ่านน้อย แต่ให้ไฟแรง ก็ถูกผูกขาดซื้อเป็นเจ้าประจำ

การเผาถ่านขายจึงกลายเป็นอาชีพหลักในการสร้างรายได้อย่างหนึ่งของคนเผาถ่านในยุคของพ่อ

พ่อเล่าถึงความทุกข์ยากช่วงสร้างเนื้อสร้างตัวว่า

พ่อไม่มีความรู้ทางหาอยู่หากินด้านใด นอกจากหากินกับบุ่งกับท่า รับจ้างเลื่อยไม้ หาปลา เผาถ่านขาย ไม้แก่นหล่อน (*ไม้แก่นหล่อน คือ ไม้ยืนต้นแห้งตาย) มีที่ไหน ใครให้ พ่อก็ไปตัดเผาถ่านขาย

สมัยนั้น ไม้แก่นหล่อน ปีกไม้ ปลายไม้ ไม้ยืนต้นตายตามหัวไร่ปลายนา ให้กันฟรี ไม่ต้องซื้อขาย แค่บอกกล่าวกัน ใครมีแรงก็ไปตัดเอา

ไม้หัวลิง ไม้พี้ ไม้เปือย (*ไม้เปือย หรือ ไม้สามพันตา) ขึ้นตามฟากบุ่ง ฟากฮ่อง มีอยู่ตรงไหน พ่อก็ไปตัดเผาถ่าน หาเงินซื้อข้าวเลี้ยงลูก

พ่อบอกว่าที่ฟากบุ่ง เวลาอุ่มพี้ถูกฝนแตกใบใหม่ จะเป็นพุ่มดกหนาเขียวชอุ่มงามตามาก มองดูแล้วสบายใจ ร่มก็ทึบเย็นดี ต้องเอาลูกเล็ก ๆ ผูกเปลนอนไว้ใต้อุ่มพี้ (*อุ่มพี้ คือ พุ่มไม้ที่ขึ้นอยู่ริมน้ำตามทามฟากบุ่ง) แล้วพ่อกับแม่ก็ช่วยกันตัดไม้เผาถ่าน
ตอนแรกตัดไม้หัวลิง ไม้พี้เผาถ่านกองเล็ก ๆ ก่อน ต้องหาบน้ำจากบุ่ง จากชลประทานมารดให้ถ่านมอดทันขาย เผาเสร็จก็ขนใส่เรือข้ามฟากบุ่งมา ให้แม่หาบไปขายในเมือง

แม่หาบถ่านไปเดินขายที่ตลาดบ้านดู่ ตลาดคิวตะการ หาบละ ๒๕ – ๓๐ บาท ร้องถามขาย “เอาถ่านบ่ เอาถ่านบ่” ไปตามร้านค้าต่าง ๆ คนบ้านกระโสบเห็นเข้าก็ล้อว่า พ่อให้แม่หาบถ่านขาย พ่อก็รู้สึกอายที่ให้แม่หาบถ่านขายจึงคิดหาลายใหม่* (*ลาย คือ วิธี รูปแบบ) เห็นเขาขายกระสอบป่านอยู่ในตลาดจึงไปซื้อกระสอบป่านมา แล้วเผาถ่านฮ่าย*ใส่กระสอบป่าน (*ฮ่าย คือ เท,กรอก,บรรจุ) ให้แม่ไปเดินถามขายตามตลาดว่ามีใครต้องการถ่านบ้าง ถ้ามีใครต้องการ แม่ก็จะกลับมาบอก พ่อจึงแบกไปส่ง บางคนต้องการเป็นหาบก็แบ่งออกใส่หาบไปส่ง
สมัยนั้น ถ่านกระสอบละ ๔๐ บาท ถ้าแยกขายเป็นหาบก็หาบละ ๒๕ – ๓๐ บาท ขึ้นอยู่กับชนิดของไม้ ทุกวันนี้ ไม้ทำถ่านหายาก ถ่านกระสอบหนึ่งไม้รวมก็ราคาราว ๑๗๐ บาท ถ้าไม้ดีหน่อยก็ร่วม ๒๐๐ บาท

“เผาถ่านให้แม่เพิ่นหาบไปขายนำเมืองนำนา พวกหมู่คนบ้านกระโสบว่าให้ ว่าให้เมียหาบถ่านขาย เจ้าของกะคึดอาย เลยหาลายใหม่”
บางที เผาถ่านเสร็จก็ขนกระสอบถ่านขึ้นเกวียนแก่มาไว้ใต้ถุนบ้าน พ่อใหญ่เล็ด(*คือ ตา พ่อของแม่) ไปไหนมาไหนก็ช่วยบอกขายให้ตามหมู่บ้านต่าง ๆ เพราะพ่อใหญ่เล็ดเป็นคนกว้างขวาง คบคนต่างถิ่น เป็นพ่อค้าวัวพ่อค้าควาย ไปมาหลายที่ รู้จักคนมาก ไปทางไหนก็บอกขายถ่านให้ลูก ถ้ามีใครต้องการถ่าน พ่อใหญ่เล็ดก็จะมาบอก

พ่อเล่าว่า คราวหนึ่งพ่อใหญ่เล็ดบอกว่าพวกตีพร้าอยากได้ถ่านไม้แดง ไม้กะยอม* (*ไม้กะยอม คือ ไม้พะยอม) เพราะให้ถ่านกล้า ไฟแรง ใช้เผาเหล็กตีมีด ตีพร้าดี พ่อกับแม่ก็ไปตัดไม้แดงที่ดงบะเฮนเผาถ่านให้ บางที คนตีพร้าหาเงินค่าถ่านไม่ทัน ก็ให้พ่อใหญ่เล็ดเอาพร้ามาขายแทน

บางที ด้วยความเร่งรีบอยากขายหาเงินซื้อข้าวกิโล ถ่านมอดไม่ทันแม่ต้องเอาเสียมซัวะ*ถ่านออกจากเตา (*ซัวะ คือ สับให้แหว่ง) แล้วตักน้ำมาดับ ให้ทันขายตามที่เขาต้องการ

พ่อบอกว่า เวลาดูเตาถ่านว่าไม้เป็นถ่านหรือยัง ให้ดูแปวไฟ*ที่เจาะไว้เป็นช่วง ๆ เพื่อให้เตาถ่านมีอากาศ (*แปว คือ รู หรือปล่องไฟ หรือปล่องที่เจาะไว้ระบายอากาศ) ถ้าควันออกมาจากแปวเตาถ่านยังดำ แสดงว่าไม้ยังไหม้ไม่หมด ถ้าแปวไหนมีไฟสีอมเขียวออกมา แสดงว่า ไม้เป็นถ่านหมดแล้ว ต้องค่อย ๆ ไล่ปิดแปวนั้นไปเรื่อย ๆ ปล่อยให้ไฟหม*ระอุอยู่ข้างใน(*หม คือ โหม,ระอุ) แล้วดับไปเองจะได้เป็นถ่านงาม ถ้าไม่ปิดแปวเตาถ่าน ไฟจะไหม้ไม้หมดจนกลายเป็นขี้เถ้า แทนที่จะได้ถ่านก็จะเหลือแต่ขี้เถ้า

แต่ต้องระวัง บางทีไฟไหม้ถ่านหมอยู่ข้างใน หลายคนนึกว่าเตาถ่านมอดแล้วหลงขึ้นเหยียบไม่ระมัดระวัง เตาถ่านหลู*ถูกไฟเตาถ่านลวกมานักต่อนักแล้ว (*หลู,หลุ คือ หยุบ ถล่มลง หรือ ทะลุ แต่ในบางบริบท คำว่า หลู ใช้ในความหมายว่า ขยัน)

พ่อบอกว่า หลังแม่ใหญ่*ตายเพราะคลอดลูกคนเล็ก(*คือ ยาย แม่ของแม่) ถึงแม้พ่อใหญ่เล็ดจะมีครอบครัวใหม่กับแม่ใหญ่มี ทั้งพ่อใหญ่เล็ดและแม่ใหญ่มี ต่างคนต่างก็มีลูกติดมาด้วยกันทั้งสองฝ่าย แล้วก็มามีน้าน้อย น้าปุ้ม เพิ่มอีกสองคน น้าปุ้มเป็นลูกสาวคนเล็ก พ่อใหญ่เล็ดรักมาก อยากให้เรียนหนังสือ
“อีปุ้มเป็นลูกสาวหล้า พ่อเถ้าเลาฮักหลาย บ่อยากให้เฮ็ดหยัง ตักน้ำตักในกะบ่ให้เฮ็ดนำหมู่ อยากให้เฮียนหนังสือ พอพ่อเถ้ามาตาย มันเลยหนีลงไปกรุงเทพกรุงไท ฮอดสู่มื้อนี้ จังว่า มันบ่ได้หยังนำเขาพอปานใด๋”
ตอนนั้นน้องของแม่หลายคนก็ยังเล็กมาก พ่อใหญ่เล็ดมีภาระต้องดูแลหลายทาง ถึงอย่างนั้นพ่อใหญ่เล็ดก็คอยเป็นห่วงเป็นใย ถามไถ่ถึงความเป็นอยู่ตลอด

แต่พ่อก็มีมานะของลูกเขย ถึงทุกข์ยากก็ไม่เคยเอ่ยปากหยิบยืมเงินจากพ่อใหญ่เล็ดเลย
ตอนพ่อใหญ่เล็ดตาย พ่อกำลังยามมองอยู่บุ่ง ครูบายังเล็ก ๆ ยังไม่เรียนหนังสือ นั่งหัวเรือไปยามมองด้วย พ่อใหญ่พันตามายืนเรียกที่ท่าซาละวันว่า “เกิน พ่อเถ้ามึงตาย ให้ขึ้นเมือบ้าน จำได้ว่า ลูกสองคนยังน้อย ๆ แล่นตามหลังขึ้นเมือบ้าน ครูบากะคือสิยังบ่ทันได้เฮียนหนังสือ”

“บ่เฮ็ดกะบ่มีปลาแดกอยู่ไห บ่ทำกะมีถ่านอยู่เตา บ่สร้างบ่แปลงกะบ่มีข้าวอยู่เล้า”
พ่อไม่มีความรู้ทางหาอยู่หากินด้านใด นอกจากหากินกับบุ่งกับท่า รับจ้างเลื่อยไม้ หาปลา เผาถ่านขาย ไม้แก่นหล่อนมีที่ไหน ใครให้ พ่อก็ไปตัดเผาถ่าน สู้ทุกข์สู้ยาก เรือและเลื่อยจึงเป็นเหมือนชีวิตของพ่อ
“บ่เฮ็ดกะบ่มีปลาแดกอยู่ไห บ่ทำกะบ่มีถ่านอยู่เตา บ่สร้างบ่แปลงกะบ่มีข้าวอยู่เล้า” (คำเว้าอีพ่อ)

ชรัง อนตีโต : เมื่อความชรามาเยือน ๑๓ “เรื่องของพ่อ เรื่องของคนเผาถ่าน” ผู้เขียน ญาณวชิระ (พระมหาเทอด ญาณวชิโร,วงศ์ชะอุ่ม) อดีต พระราชกิจจาภรณ์


เมื่อความชรามาเยือน
๕๕ ความเรียงว่าด้วยบทสนทนาของพระลูกชายกับโยมพ่อผู้ชรา
ISBN : ๙๗๘ – ๖๑๖ – ๙๓๓๗๘ – ๖ – ๗
ผู้เขียน : ญาณวชิระ
(พระมหาเทอด ญาณวชิโร,วงศ์ชะอุ่ม)
อดีต พระราชกิจจาภรณ์
ปีที่พิมพ์ : ๒๕๖๗
จำนวนพิมพ์ : ๑,๐๐๐ เล่ม
จำนวนหน้า : ๓๐๔ หน้า
จัดพิมพ์ โดย : สถาบันพัฒนาพระวิทยากร
เลขที่ ๓๔๔ อาคารสันติวัคคีย์ แขวงบ้านบาตร เขตป้อมปราบ กรุงเทพมหานคร ๑๐๑๐๐
พิมพ์ที่ : หจก.นิวไพศาลการพิมพ์
เลขที่ ๕๓ เจริญนคร ๔๖ บางลำพูล่าง เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร

ดื่มอรรถรสแห่งชีวิต
“แพรว COFFEE” พิกัด บุ่งสะพัง
ความสดชื่นจากเมล็ดกาแฟคั่วธรรมชาติจากถ่านไม้
สัมผัสรสชาติเครื่องดื่มหลากเมนูที่ปรุงด้วยหัวใจ





