
ในงาน “กาลจักร ครั้งที่ ๓๒ : เพื่อสันติภาพโลก” ( Kalachakra 2012 for World Peace) ที่พุทธคยา สาธารณรัฐอินเดีย
ระหว่างวันที่ ๓๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๑๐ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๕ : ภาพถ่ายโดย มนสิกุล โอวาทเภสัชช์

: งาน “กาลจักร ครั้งที่ ๓๒ : เพื่อสันติภาพโลก” ( Kalachakra 2012 for World Peace) ที่พุทธคยา สาธารณรัฐอินเดีย
ระหว่างวันที่ ๓๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๑๐ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๕ : ภาพถ่ายโดย มนสิกุล โอวาทเภสัชช์
“ในภูเขาหิมะอันเป็นดินแดนแห่งสรวงสวรรค์
ท่านคือต้นธารของความดีงามและสันติสุข
องค์ทะไลลามะที่ ๑๔ ท่านเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังนั้น
ขอให้ท่านมีชีวิตอยู่ตราบจนสิ้นสังสารวัฏเทอญ …”

งาน “กาลจักร ครั้งที่ ๓๒ : เพื่อสันติภาพโลก” ( Kalachakra 2012 for World Peace) ที่พุทธคยา สาธารณรัฐอินเดีย
ระหว่างวันที่ ๓๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๑๐ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๕ : ภาพถ่ายโดย มนสิกุล โอวาทเภสัชช์

งาน “กาลจักร ครั้งที่ ๓๒ : เพื่อสันติภาพโลก” ( Kalachakra 2012 for World Peace) ที่พุทธคยา สาธารณรัฐอินเดีย
ระหว่างวันที่ ๓๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๑๐ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๕ : ภาพถ่ายโดย มนสิกุล โอวาทเภสัชช์
ประชาชนจากทุกสารทิศทั่วโลกหลายแสนคน เปล่งบทภาวนานี้เป็นเสียงเดียวกันในวันสุดท้ายของงาน “กาลจักร ครั้งที่ ๓๒ : เพื่อสันติภาพโลก” ( Kalachakra 2012 for World Peace) ที่พุทธคยา สาธารณรัฐอินเดีย ระหว่างวันที่ ๓๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๑๐ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๕ ซึ่งเป็นช่วงเวลาพุทธชยันตี ๒๖๐๐ ปีที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณพอดี

ระหว่างวันที่ ๓๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๑๐ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๕ : ภาพถ่ายโดย มนสิกุล โอวาทเภสัชช์

ระหว่างวันที่ ๓๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๑๐ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๕ : ภาพถ่ายโดย มนสิกุล โอวาทเภสัชช์
๑๐ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๕ ณ ดินแดนแห่งการตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ฉันยังจำภาพนั้นได้ พระผู้ใหญ่ทุกสายของทิเบตนอกแผ่นดินมาอยู่รวมกันที่นี่ เพื่อสวดมนต์และสอนหนทางของการเป็นพระโพธิสัตว์ให้กับทุกคนอย่างเสมอกัน ในพระราชวังกลางสายรุ้ง สถานปฏิบัติธรรมกลางแจ้งในพุทธคยา ที่ไม่มีตะปูตอกลงไปในไม้ไผ่ที่นำมาผูกกันแม้แต่เพียงตัวเดียว

งาน “กาลจักร ครั้งที่ ๓๒ : เพื่อสันติภาพโลก” ( Kalachakra 2012 for World Peace) ที่พุทธคยา สาธารณรัฐอินเดีย
ระหว่างวันที่ ๓๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๑๐ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๕ : ภาพถ่ายโดย มนสิกุล โอวาทเภสัชช์
และพระราชวังแห่งนี้ ซึ่งเป็นศาลาขนาดใหญ่ที่มีโครงสร้างเช่นเดียวกับมันดาลา ศูนย์กลางของจักรวาล ที่เคลื่อนไหว แปรเปลี่ยนตลอดเวลา หรืออีกความหมายหนึ่งก็คือ อาสนะของพระพุทธเจ้าตอนตรัสรู้ธรรม ที่สามารถจุคนได้หลายหมื่นคน แต่คนที่มาร่วมงานภาวนาเกินกว่านั้นมาก จนคนล้นออกมารอบนอกเป็นแสน ลำโพงสำหรับฟังธรรมบรรยายขององค์ทะไลลามะจึงถูกติดตั้งไปทั่วพุทธคยา แปลเป็นภาษาต่างๆ กว่าสิบภาษา และสามารถฟังผ่านวิทยุคลื่นสั้นในบริเวณพุทธคยาได้

ระหว่างวันที่ ๓๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๑๐ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๕ : ภาพถ่ายโดย มนสิกุล โอวาทเภสัชช์
และหลังจากงานภาวนาจบลง ศาลาขนาดใหญ่ก็พร้อมที่จะสลายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่มีตะปูที่ต้องถอน เช่นเดียวกับสายลมอันบริสุทธิ์ที่มอบความสดชื่นให้กับทุกชีวิต แล้วก็ผ่านไปโดยไม่ต้องการแม้คำขอบคุณ และคำร่ำลา

งาน “กาลจักร ครั้งที่ ๓๒ : เพื่อสันติภาพโลก” ( Kalachakra 2012 for World Peace) ที่พุทธคยา สาธารณรัฐอินเดีย
ระหว่างวันที่ ๓๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๑๐ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๕ : ภาพถ่ายโดย มนสิกุล โอวาทเภสัชช์
องค์ทะไลลามะ ก็เป็นเช่นสายลมอันบริสุทธิ์นั้น ท่านได้เดินทางมายังที่นี่ เพื่อสอนเรื่องปฏิจจสมุปบาท จากอวิชชา ความไม่รู้ สู่ความรู้แจ้งในกายใจ เพื่อการดับแห่งกิเลสตัณหาอันนำมาสู่การเกิดแห่งทุกข์ไม่สิ้นสุด สู่การดับอวิชชา บนเส้นทางที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ความจริงอันประเสริฐ ๔ ประการ คือ ทุกข์เหตุแห่งทุกข์ การดับทุกข์ และหนทางออกจากทุกข์ในสังสารวัฏ อันไม่ต้องให้เรากลับมาเกิดอีก

“กาลจักร ครั้งที่ ๓๒ : เพื่อสันติภาพโลก” ( Kalachakra 2012 for World Peace) ที่พุทธคยา สาธารณรัฐอินเดีย
ระหว่างวันที่ ๓๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๑๐ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๕ : ภาพถ่ายโดย มนสิกุล โอวาทเภสัชช์

ระหว่างวันที่ ๓๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๑๐ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๕ : ภาพถ่ายโดย มนสิกุล โอวาทเภสัชช์

ระหว่างวันที่ ๓๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๑๐ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๕ : ภาพถ่ายโดย มนสิกุล โอวาทเภสัชช์
การค้นพบสายปฏิจจสมุปบาทแห่งการเกิดและดับของอวิชชาทำให้พระพุทธเจ้าออกจากทุกข์ในสังสารวัฏได้อย่างสิ้นเชิง

ระหว่างวันที่ ๓๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๑๐ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๕ : ภาพถ่ายโดย มนสิกุล โอวาทเภสัชช์
กาลจักร หรือ ปฏิจจสมุปบาท คือ วงล้อแห่งชีวิตที่ทำให้เราเวียนเกิดเวียนตาย อันเป็นราชาแห่งตันตระ หรือธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ที่กุมหัวใจมนุษย์และสรรพชีวิตไว้ นี้คือสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบในคืนวันแห่งการตรัสรู้ พระองค์มอบความรู้จากธรรมชาตินี้ให้กับทุกคนอย่างเสมอกัน ไม่ว่าจะเป็นใคร แม้แต่ชาวจีนจากแผ่นดินใหญ่ก็ได้รับสิทธิพิเศษในงานภาวนาที่ใกล้ชิดกับท่านมากที่สุด ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้าย
เหตุผลประการเดียวที่อยู่ในหัวใจของพระโพธิสัตว์บนดินที่เราสัมผัสได้คือ ความเมตตาและกรุณาอันไม่มีประมาณ เพื่อให้ทุกคนได้ค้นพบความจริงแห่งชีวิต ที่จะทำให้เราเห็นว่า แท้จริงแล้ว เราต่างเกิดมาจากครรภ์มารดาเดียวกัน คือ ธรรมชาติ ธาตุสี่ ดิน น้ำ ไฟ ลม และจิตวิญญาณที่ปรุงแต่งมาจากกิเลส กรรม และวิบากของเราเอง และเราจะออกจากสังสารวัฏนี้ไปได้ ก็ด้วยการเห็นตามความเป็นจริง แล้วเราจะหยุดกรรมที่จะเกิดขึ้นในปัจจุบันและอนาคตได้

: งาน “กาลจักร ครั้งที่ ๓๒ : เพื่อสันติภาพโลก” ( Kalachakra 2012 for World Peace) ที่พุทธคยา สาธารณรัฐอินเดีย
ระหว่างวันที่ ๓๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๑๐ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๕ : ภาพถ่ายโดย มนสิกุล โอวาทเภสัชช์
ดังที่ท่านอธิบายไว้ในวันก่อนๆ จากมหาปริพพานสูตรตอนหนึ่งว่า “ สาวกทั้งหลายที่ยังไม่สามารถเห็นซึ่งธรรมชาติแห่งพุทธะได้ เพราะญาณอันจิตรวมเป็นหนึ่งเดียวนั้นมันแข็งแรงกว่า และปัญญานั้นด้อยกว่า ส่วนเหล่าโพธิสัตว์สามารถเห็นได้ แต่ไม่ชัดเจน เพราะปัญญาของเขามั่นคงกว่า แต่สมาธิอันเป็นสมถะนั้นด้อยกว่า ขณะเดียวกัน ตถาคต สามารถเห็นทั้งหมด เพราะว่าเหล่าพระพุทธเจ้ามีจิตซึ่งประกอบไปด้วย สมถะวิปัสสนาเท่าเทียมกัน เนื่องด้วยอำนาจแห่งสมถะวิปัสสนา จิตจะไม่ถูกรบกวนด้วยลมแห่งความคิด เหมือนดังเช่น ตะเกียงไม่ได้รับการรบกวนจากลมฉันใดฉันนั้น …เรามาฝึกก็เพื่อตามรอยพระองค์ฺท่าน ดังนี้

ที่พุทธคยา สาธารณรัฐอินเดีย ระหว่างวันที่ ๓๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๑๐ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๕
ภาพถ่ายโดย มนสิกุล โอวาทเภสัชช์
“สมถะ และวิปัสสนาสามารถกำจัดซึ่งมลทินของทุกสิ่งอันเป็นมิจฉาทิฐิ ดังนั้น เรามาฝึกทั้งสองอย่างตามรอยพระพุทธเจ้า ก็เพื่อที่เราจะได้เห็นแจ้งด้วยตัวเราเอง แล้วท่านจะไม่ถูกรบกวนด้วยทัศนะของผู้อื่นที่จะทำให้ท่านทุกข์อีก
ในพระสูตร ตะเกียงแห่งแสงจันทร์ กล่าวว่า ด้วยพลังแห่งสมถะภาวนา จิตนั้นจะแน่วแน่ และด้วยพลังแห่งปัญญา มันก็จะกลับเป็นดั่งเช่นภูเขา ดังนั้น ให้ดำรงไว้ซึ่งการปฏิบัติแห่งโยคี ในการเจริญสมถะและวิปัสสนาเถิด”

: งาน “กาลจักร ครั้งที่ ๓๒ : เพื่อสันติภาพโลก” ( Kalachakra 2012 for World Peace) ที่พุทธคยา สาธารณรัฐอินเดีย
ระหว่างวันที่ ๓๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๑๐ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๕ : ภาพถ่ายโดย มนสิกุล โอวาทเภสัชช์
ซึ่งในการปฏิบัติมีรายละเอียดมากมาย อยู่ในอริมรรคมีองค์ ๘ ประการ และสติปัฏฐาน ๔ ที่จะนำจิตเราให้เกิดความสงบจากสมาธิและพิจารณาความเป็นจริงจนเห็นไตรลักษณ์ อนิจจัง ทุกขัง และอนัตตา พิธีกรรมการสวดมนต์ภาวนาร่วมกัน ก็เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้จิตเกิดสมาธิ เพราะได้ระลึกถึงพระรัตนตรัย ทำให้จิตของผู้ปฏิบัติเป็นหนึ่งเดียว

ระหว่างวันที่ ๓๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๑๐ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๕ : ภาพถ่ายโดย มนสิกุล โอวาทเภสัชช์
และ การทำมณฑลทราย หรือ มันดาลา ศิลปะภาวนาที่สร้างสรรค์เพื่อเชื่อมโยงจิตกับจักรวาลเป็นหนึ่งเดียว เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา เป็นการแสดงออกแห่งสภาวะของการรู้แจ้งในสัจธรรมอย่างถ่องแท้ของจิต เกี่ยวกับการเกิดขึ้้น ตั้งอยู่ และดับไปของสรรรพสิ่ง เพราะเมื่อทำมณฑลทรายสำเร็จแล้ว ก็จะเป่าให้ภาพนั้นมลายหายไป ซึ่งคล้ายกับสภาวะจิตเดิมแท้ของเราที่ไม่ใช่ตัวเรา แต่หลอมรมสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกับจักรวาลอย่างเป็นหนึ่งเดียว
สำหรับการเปิดตาที่สามด้วยสมาธิก็ทำให้เราพบว่า เราสามารถสื่อสารกับพลังงานทุกชนิดในจักรวาลนี้ได้ เพื่อช่วยเหลือทุกชีวิตโดยการเชื่อมโยงแปรเปลี่ยนพลังงานที่ไม่ดีไปสู่พลังงานที่ดีได้

ในงาน “กาลจักร ครั้งที่ ๓๒ : เพื่อสันติภาพโลก” ( Kalachakra 2012 for World Peace)
ที่พุทธคยา สาธารณรัฐอินเดีย ระหว่างวันที่ ๓๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๑๐ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๕
: ภาพถ่ายโดย มนสิกุล โอวาทเภสัชช์

ที่พุทธคยา สาธารณรัฐอินเดีย ระหว่างวันที่ ๓๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๑๐ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๕
: ภาพถ่ายโดย มนสิกุล โอวาทเภสัชช์

ในงาน”กาลจักร ครั้งที่ ๓๒ : เพื่อสันติภาพโลก” ( Kalachakra 2012 for World Peace)
ที่พุทธคยา สาธารณรัฐอินเดีย ระหว่างวันที่ ๓๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๑๐ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๕
: ภาพถ่ายโดย มนสิกุล โอวาทเภสัชช์
การแจกหญ้ากุศะ ซึ่งเป็นหญ้าชนิดเดียวกับที่พระพุทธองค์นั่งเป็นบัลลังก์ในคืนวันแห่งการตรัสรู้นั้น เพื่อให้ทุกคนได้นำไปรองใต้หมอนและที่นอนเพื่อสำรวจความฝันของตน ซึ่งอาจจะเป็นนิมิตอันเป็นกำลังใจในการปฏิบัติของแต่ละคน

ในงาน”กาลจักร ครั้งที่ ๓๒ : เพื่อสันติภาพโลก” ( Kalachakra 2012 for World Peace)
ที่พุทธคยา สาธารณรัฐอินเดีย ระหว่างวันที่ ๓๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๑๐ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๕
: ภาพถ่ายโดย มนสิกุล โอวาทเภสัชช์
ทั้งหมดนั้น หัวใจสำคัญคือการเข้าถึงสุญญตาอย่างรวดเร็ว เพื่อที่จะใช้เวลาที่เหลืออยู่ในการเกื้อกูลเพื่อนมนุษย์และสรรพชีวิตนั่นเอง

งาน “กาลจักร ครั้งที่ ๓๒ : เพื่อสันติภาพโลก” ( Kalachakra 2012 for World Peace) ที่พุทธคยา สาธารณรัฐอินเดีย
ระหว่างวันที่ ๓๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๑๐ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๕ : ภาพถ่ายโดย มนสิกุล โอวาทเภสัชช์
สิ่งหนึ่งที่ท่านพร่ำสอนตามพระสูตรที่ท่านเป็นตัวอย่างของผู้ที่ปฏิบัติได้จริงก็คือ ให้เราพยายามบ่มเพาะกุศลอันเป็นสิ่งตรงกันข้ามกับอกุศลในจิต เช่นเมตตา ความรัก ความกรุณา ความอดทน ให้ฝึกภาวนาจนอยู่ในทุกลมหายใจเข้า-ออกของเรา
ท่านกล่าวว่า ถ้าเราบ่มเพาะคุณสมบัติที่เป็นอย่างนี้ คุณสมบัติของอกุศลจะค่อยๆ ลดลงไป แล้วความสุขที่แท้จริงคือความสุขทางจิตใจจะมาแทนที่

งาน “กาลจักร ครั้งที่ ๓๒ : เพื่อสันติภาพโลก” ( Kalachakra 2012 for World Peace) ที่พุทธคยา สาธารณรัฐอินเดีย
ระหว่างวันที่ ๓๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๑๐ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๕ : ภาพถ่ายโดย มนสิกุล โอวาทเภสัชช์
“เพราะความสุขทางด้านร่างกาย หรือความสะดวกสบายภายนอกไม่ใช่เรื่องสำคัญที่สุด ความสำคัญคือ สภาวะของจิตที่มีความสุขต่างหาก เพราะฉะนั้น สันติภาพภายนอกมาจากสันติภาพแห่งจิตใจ และถ้ารู้สึกไม่สบายใจ นั่นแสดงว่า เรากำลังเกิดความไม่มั่นคงทางใจเกิดขึ้น เพราะการไขว่คว้าหาอัตตา”
องค์ทะไลลามะที่ ๑๔
“ในการปฏิบัติทางพุทธศาสนา ถ้าเรามอบตัวกับพระพุทธเจ้าอย่างสิโรราบ จะเป็นการหยุดการไขว่คว้าหาอัตตา จากนั้น ตัณหากับอุปาทานก็จะลดลง มันเป็นเรื่องสัมพันธ์กัน เมื่อตัณหา อุปาทานลดลง ความสำคัญที่เราให้กับตัวอัตตาจะเล็กลง แล้วเราจะช่วยเหลือผู้อื่นได้มากขึ้น”

งาน “กาลจักร ครั้งที่ ๓๒ : เพื่อสันติภาพโลก” ( Kalachakra 2012 for World Peace) ที่พุทธคยา สาธารณรัฐอินเดีย
ระหว่างวันที่ ๓๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๑๐ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๕ : ภาพถ่ายโดย มนสิกุล โอวาทเภสัชช์
ดังปรัชญาปารมิตาหทัยสูตร ที่กล่าว่า คเต คเต ปารคเต ปารสํคเต โพธิ สฺวาหา… ดูก่อนสารีบุตร รูปคือความว่าง ความว่างคือรูป รูปไม่เป็นอื่นจากความว่าง ความว่างไม่เป็นอื่นจากรูป แม้เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ ก็เป็นเช่นเดียวกันนี้ … เมื่อเราข้ามพ้นความเห็นผิด ก็จะบรรลุถึงนิพพานอันสมบูรณ์

งาน “กาลจักร ครั้งที่ ๓๒ : เพื่อสันติภาพโลก” ( Kalachakra 2012 for World Peace) ที่พุทธคยา สาธารณรัฐอินเดีย
ระหว่างวันที่ ๓๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๑๐ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๕ : ภาพถ่ายโดย มนสิกุล โอวาทเภสัชช์
จากหัวใจ … ‘ทะไลลามะ’ (Dalai Lama : from the Heart) ตอนที่ ๒๐ ตะเกียงแห่งแสงจันทร์ : บันทึกความทรงจำงานภาวนา “กาลจักร ครั้งที่ ๓๒ เพื่อสันติภาพของโลก” ( Kalachakra 2012 for World Peace) ณ พุทธคยา สาธารณรัฐอินเดีย โดย มนสิกุล โอวาทเภสัชช์ เรื่องและภาพ

มนสิกุล โอวาทเภสัชช์ เรื่องและภาพ / นวรัตน์ ธาระวานิช แปลธรรมบรรยาย
จากนิตยสาร เนชั่นสุดสัปดาห์ (หน้า ๗๙) ปีที่ ๒๐ ฉบับที่ ๑๐๔๕ วันที่ ๘ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๕๕
ขอความเห็นถูก “สัมมาทิฏฐิ” จงบังเกิดมีแก่เราทุกคน
ขออุทิศการทำกุศลทั้งปวงแด่คุณแม่และน้องชายที่รักยิ่งของข้าพเจ้า
และสรรพชีวิตเพื่อนร่วมทุกข์ในสังสารวัฏ