วันหนึ่งหลังจากที่พระสงฆ์ฉันภัตตาหารเพลเสร็จแล้ว ก็นั่งสนทนาธรรมกันอยู่ในห้องพัก เสียงลูกศิษย์วัดก็มาเคาะประตูเรียก พระอาจารย์ครับมีโยมมาพบครับ ผู้เขียนก็ออกไปต้อนรับพูดคุย ถามถึงธุระที่มา มาจากไหน

แต่พอมีช่วงหนึ่งของชีวิตที่ตัวเองมีความลำบาก ตกงาน ข้าวสารก็ไม่เหลือพอที่จะหุง หันหน้าไปพึ่งใครก็ไม่มีใครช่วยเหลือ ลำบากสุดๆ ไม่มีใครยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเลย แล้วโยมก็ตบท้ายด้วยคำถามว่า แล้วเราจะทำความดีไปเพื่ออะไร เราจะทำบุญไปเพื่ออะไร

ชวนกันค้นหาบุญ …

คุณค่าแห่งการทำความดี อยู่ที่ไหน

โดย พระมหาอภิชาติ ธมฺมาภินนฺโท วัดพุทธารามเกาหลี เมืองอันซัน ประเทศเกาหลีใต้

ฟังเรื่องราวของโยมจบลงก็เข้าใจความรู้สึกของคุณโยมนะ แต่ก็อยากทำความเข้าใจ เป็นการออกความเห็นในมุมมองหนึ่งเท่านั้น บางทีคนที่ถามคำถามนี้อาจจะรู้อยู่แก่ใจแล้วก็ได้ว่า เราทำดีไปเพื่ออะไร บางครั้งเราอาจจะไม่ได้ต้องการอะไรในการทำความดี บางครั้งกับบางคนที่ทำดีก็มีท้อใจไปบ้าง กับบางอย่างที่ทำแล้วผลไม่ได้ดั่งที่คาดหวัง หรือกับบางคนที่ทุ่มเทให้แต่ก็ไม่เห็นค่าของเรา

 กล่าวถึงประเด็นเรื่องของการทำความดีก่อน หลายคนอาจจะเคยคิดว่า ทำดีต้องได้ดี ใช่ถูกต้อง ทำดีต้องได้ดี ไม่มีใครปฏิเสธ แต่หลายคนทำดีมาตลอดชีวิต เวลาที่ซวยคิดว่าไม่มีใครช่วยเลย ต้องทำความเข้าใจให้ชัดก่อน เวลาเราซวยมีปัญหา ต้องหาทางออก ไม่ใช่มาน้อยเนื้อต่ำใจในโชคชะตา พลางตำหนิคนอื่นไปทั่วว่า ทีเราลำบากไม่มีใครช่วย เราจะทำความดี ช่วยเหลือคนอื่นไปทำไม ซึ่งมันคนละประเด็นกัน

รู้ไหมเราทำความดี ทำไปทำไม เราทำเพื่ออะไร

การทำความดี การช่วยเหลือคนอื่นเป็นเรื่องปกติ เป็นมนุยธรรม เป็นธรรมะอย่างหนึ่ง เป็นหน้าที่ เป็นสิ่งที่เราจะต้องทำ เห็นคนแก่ข้ามถนนลำบาก เราช่วย เห็นคนตกน้ำ เราช่วย เห็นคนลำบากเราก็ควรช่วยเหลือ การทำความดี คือการทำสิ่งที่ถูกต้อง ไม่ได้หมายความว่า ชีวิตเราจะต้องดีขึ้น มีอยู่ มีกิน ร่ำรวย เวลาลำบากแล้วจะมีคนคอยช่วยเหลือ แต่เราทำความดีเพื่อให้ความดีงามเกิดขึ้นกับใจของเรา ทำเพื่อให้คุณธรรมเกิดขึ้นกับใจของเรา เป็นความภูมิใจ

ส่วนตัวไม่ได้สนใจว่า เราทำดีไปเพื่ออะไร แต่ตรงกันข้ามจะถามใจตัวเองอยู่เสมอว่า แต่ละวันเราทำความดีอะไรบ้าง เราทำอะไรให้ใจเราซึมซับความดีบ้าง อย่างน้อยๆ แม้ตลอดทั้งวันไม่ได้ทำความดีอะไร ก่อนที่จะจำวัดหลับตาลงมีโอกาสได้ทำดีให้กับใจ  ไหว้พระสวดมนต์ ทำใจให้ระลึกถึงคุณของพระพุทธ คุณของพระธรรม คุณของพระสงฆ์ ทำจิตใจให้ผ่องใส แค่นี้ก็เป็นความดีของชีวิตแล้ว

วันนี้หลายคนทำดีแล้วก็ยังทุกข์ ก็ขอให้เข้าใจว่าเรายังไม่หมดกิเลส ปัญญายังไม่ถึง ก็ต้องทุกข์ต่อไป ทำความดีอย่าให้ติดดี เจ้าประคุณสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต)ท่านกล่าวถึงคนดี และการทำดีว่า โลกต้องการคนดี ไม่ใช่เพื่อให้มารับรางวัล แต่เพื่อมาช่วยกันทำชีวิต และสังคมให้ดีขึ้น ไม่พึงทำความดีเพื่อนำความดีมาเสริมตัวตน แต่พึงสละตนเพื่อเสริมความดี คนดีอย่างแท้จริง เสียสละแม้กระทั่ง การที่จะให้คนอื่นรู้ว่า ตนได้ทำความดี

           ส่วนเรื่องของการทำบุญ เราทำบุญเพื่ออะไร หลายคนอาจมีเป้าหมายที่หลากหลาย ทำบุญเพื่อขัดเกลาจิตใจ ลดความโลภ ความโกรธ ความหลง ทำให้จิตใจปลอดโปร่งเบาสบาย ได้ความสบายใจ การทำบุญในอีกความหมายหนึ่ง คือ การสละความตระหนี่ถี่เหนียวออกจากใจ ทำให้การเสียสละเกิดขึ้นเบิกบานอยู่ในใจ ก่อนที่จะให้ ขณะให้ และหลังจากให้ ก็ไม่นึกเสียดาย นึกทีไรก็สุขใจ สบายใจ เพราะว่าบุญเป็นชื่อของความสุข

ผู้เขียนเคยได้อ่านถึงข้อเขียนของเรื่องการทำบุญ ของพระธรรมโกศาจารย์ (หลวงพ่อพุทธทาส) ท่านได้เปรียบเทียบเรื่องการบุญไว้ ๓ แบบ คือ

๑. อาบน้ำด้วยโคลน

เป็นการทำบุญที่เจือด้วยบาป คราบสกปรก เช่น ฆ่าสัตว์ชีวิต เพื่อทำบุญ มีเลี้ยงเหล้ายาปลาปิ้ง แถมท้ายด้วยการทะเลาะวิวาท อุปมาดั่งคนอาบน้ำด้วยโคลน ทำอย่างไรก็มีคราบกลิ่นเน่าเหม็นติดตัวอยู่ตลอดเวลา เนื้อตัวก็ไม่สะอาดสักที

  ๒. อาบน้ำด้วยน้ำหอม

เป็นการทำบุญที่แฝงด้วยการยึดติด ทำบุญแล้วหวังผลในสวรรค์ชั้นฟ้า ยึดติดแต่สวรรค์ วิมาน เป็นการทำบุญเพราะเมาดี หลงดี และอวดดี อุปมาดั่งอาบน้ำด้วยน้ำหอมเจือด้วยแป้งอบ อาบเสร็จก็มีกลิ่นติดตัวคละคลุ้ง ก็ยังถือว่าไม่สะอาดอยู่ดี

  ๓. อาบน้ำสะอาด

คือการทำบุญด้วยใจสงบ ไม่ยึดติดนรก-สวรรค์ ไม่ได้ทำบุญแบบค้ากำไรเกินควร แต่ทำบุญเพื่อสร้างกุศลกรรม อุปมาดั่งอาบน้ำด้วยน้ำสะอาด เมื่ออาบแล้วผู้อาบย่อมสดชื่น เย็นกายสบายตัว

"ชวนกันค้นหาบุญ ... คุณค่าแห่งการทำความดี อยู่ที่ไหน" โดย พระมหาอภิชาติ ธมฺมาภินนฺโท วัดพุทธารามเกาหลี เมืองอันซัน ประเทศเกาหลีใต้
ชวนกันค้นหาบุญ … คุณค่าแห่งการทำความดี อยู่ที่ไหน”
โดย พระมหาอภิชาติ ธมฺมาภินนฺโท
วัดพุทธารามเกาหลี เมืองอันซัน ประเทศเกาหลีใต้

           เล่าถึงเรื่องการทำความดี การทำบุญ แล้วทำให้นึกถึงเรื่องหนึ่ง ชายคนหนึ่งมีหน้าที่ขับเรือรับจ้างข้ามฟาก ในแต่ละวันก็ทำหน้าที่ตามปกติ

วันหนึ่งมีพระภิกษุรูปหนึ่งมีความจำเป็นต้องเดินทางข้ามฟาก แต่ไม่มีเงินติดตัว ก็เลยไปขอขึ้นเรือข้ามฟากแล้วบอกว่า จะให้บุญเป็นค่าจ้าง พอเรือข้ามไปอีกฝั่งหนึ่งคนในเรือก็จ่ายเงินแล้วก็ลงจากเรือ พระภิกษุก็กล่าวว่าอนุโมทนาบุญด้วยนะแล้วก็เดินลงจากเรือ

ในขณะที่เดินลงจากเรือ คนขับเรือก็เอ๋ยปากถามว่า พระคุณเจ้าครับ ไหนบุญจะให้ผมเป็นค่าจ้าง

พระรูปนั้นก็คิดว่า คนขับเรือคงไม่รู้จักบุญ ถ้าไม่เอาอะไรให้ก็คงไม่ยอม ก็เลยเอามือล้วงเข้าไปเคาะสิ่งหนึ่งที่อยู่ในจมูก แล้วก็ปั้นเป็นก้อนกลมๆ แล้วก็มอบให้พร้อมกับบอกว่า รักษาไว้ดีๆ นะ คนขับเรือเมื่อได้ก้อนบุญ ครั้นจะกำไว้ในมือก็กลัวหาย ก็เลยใส่ปากอมไว้ พออมเสร็จก็อุทานออกมาว่า เอ้อ บุญนี้รู้สึกเค็มๆ นะ

           เล่าเรื่องการทำความดี การทำบุญมาพอเป็นตัวอย่างให้ทุกท่านพอได้ทำความเข้าใจ แต่คงไม่มีบทสรุปอะไรที่เป็นหลักตายตัวว่า ทำบุญดีเพื่ออะไร ทำบุญเพื่ออะไร ขอฝากให้ทุกคนช่วยได้ค้นหาคุณค่าของการทำความดี ทำความเข้าใจความหมายของการทำบุญที่แท้จริงว่า เรารู้จักบุญจริงๆแล้วหรือยัง  

ชวนกันค้นหาบุญ …คุณค่าแห่งการทำความดี อยู่ที่ไหน

จากคอลัมน์ จาริกบ้าน จารึกธรรม (หน้าพระไตรสรณคมน์ นสพ.คมชัดลึก วันพฤหัสบดีที่ ๓๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๒)

โดย พระมหาอภิชาติ ธมฺมาภินนฺโท  วัดพุทธารามเกาหลี  เมืองอันซัน ประเทศเกาหลีใต้

พระมหาอภิชาติ ธมฺมาภินนฺโท ผู้เขียน พระธรรมทูต วัดพุทธารามเกาหลี เมืองอันซัน ประเทศเกาหลีใต้ สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคงแห่งสถาบันชาติ พระศาสนา และพระมหากษัตริย์ วัดสระเกศ
พระมหาอภิชาติ ธมฺมาภินนฺโท ผู้เขียน พระธรรมทูต วัดพุทธารามเกาหลี เมืองอันซัน ประเทศเกาหลีใต้ สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคงแห่งสถาบันชาติ พระศาสนา และพระมหากษัตริย์ วัดสระเกศ

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here