พระครูสมุห์สุพัฒน์ อนาลโย ผู้เขียน กับ โยมพ่อ

จาริกธรรมในอเมริกา​ (ตอนที่​ ๒๐​) “ปฏิบัติบูชาคุณงามความดี คือวิชารักษาจิตใจโดย พระครูสมุห์สุพัฒน์  อนาลโย

การบูชา  คือการยกสิ่งนั้นๆ ไว้เหนือหัว​ การเคารพเทิดทูน​ ยกย่องสรรเสริญ​ กระทำระลึกไว้ภายในจิตใจ เป็นการย้ำเตือนสติไม่ให้ประพฤตินอกลู่นอกทางไปสู่ทางที่ชั่ว​

ในพระพุทธศาสนาของเราองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ได้ตรัสเกี่ยวกับหลักการบูชาไว้​ ๒​ อย่าง​ 

๑.อามิสบูชา​ คือ​ การบูชาด้วยวัตถุสิ่งของ​ธูปเทียนดอกไม้​  สร้างโบสถ์​ วิหาร​ ศาลาการเปรียญ​  กุฏิ​ ห้องน้ำ​ ศาสนวัตถุ​ หรือพุทธสถานอื่นๆ

๒.ธรรมบูชา​ คือ​ การบูชาด้วยการปฏิบัติ   การปฏิบัติธรรมตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า​  ประพฤติปฏิบัติตนถูกต้องตามพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด​  การรักษาศีล​ และเจริญจิตภาวนา​

ผู้เขียนเชื่อว่าท่านที่อ่านนี้ก็กระทำอยู่เป็นประจำตามหลักของการทำบุญ​   ด้วยการให้ทาน​  คือการถวายข้าวปลาอาหาร​ ที่อยู่อาศัย​ เครื่องนุ่งห่ม​ และยารักษาโรค​ แด่พระภิกษุสงฆ์ และบุคคลอื่นทั่วไปเป็นอยู่ประจำ​  ซึ่งเข้ากับหลักการอามิสบูชา​ 

ส่วนการรักษาศีล​ ๕​ ข้อ มีอยู่สองแบบคือ​ หนึ่ง การสมาทาน (เจตนา, ตั้งใจ)​รักษาศีลแบบแยกข้อผิดข้อหนึ่งก็ยังเหลือสี่ข้อ​ และอีกแบบ การสมาทานรักษาศีลทั้งหมดห้าข้อผิดข้อใดข้อหนึ่งคือผิดหมดเลย  

การเจริญจิตภาวนา​ มีอย่างหลายวิธี เช่น​ การเจริญสติแบบเคลื่อนไหว​ กายเคลื่อนไหวใจรับรู้​ และอานาปานสติ​ การกำหนดดูลมหายเข้าใจออก​  เป็นต้น​ จัดเป็นการปฏิบัติบูชา​ 

พระครูปลัดทรัพย์ชู มหาวีโร และ พระครูสมุห์สุพัฒน์ อนาลโย ผู้เขียน
พระครูปลัดทรัพย์ชู มหาวีโร และ พระครูสมุห์สุพัฒน์ อนาลโย ผู้เขียน

การบูชาทั้งหมดนี้สำคัญทุกข้อ​  แต่พระพุทธองค์ทรงสรรเสริญการปฏิบัติบูชามากกว่าอามิสบูชา

วันนี้นั่งทำวัตรเย็นสวดมนต์แล้วเจริญสติสัมปชัญญะจิตใจน้อมไประลึกนึกถึงการบูชากระทำไว้ในจิตใจว่า จะปฏิบัติบูชาคุณของพระพุทธเจ้า​ พระธรรม​ พระสงฆ์​คุณของพ่อแม่​  คุณของครูบาอาจารย์​  และคุณงามความดีในโลก

 พระครูสมุห์สุพัฒน์  อนาลโย ผู้เขียน
พระครูสมุห์สุพัฒน์ อนาลโย ผู้เขียน

การบูชาทั้ง ​๖ ​ข้อนี้เป็นอย่างไรบ้าง

๑.​การปฏิบัติบูชาคุณของพระพุทธเจ้า​ คือ​  คุณงามดีของพระองค์มีพระเมตตาที่ได้ตรัสรู้ธรรมเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้ว​ทรงนำมาอบรมสั่งสอนให้สาวกได้บรรลุธรรมตามพระองค์

๒.​การปฏิบัติบูชาคุณของพระธรรม​ คือ​ ความจริงนิรันดร์ที่ไม่มีวันตาย​ หรือยาใจที่อมตะ​ ความจริงอันประเสริฐที่ช่วยให้สัตว์พ้นจากความทุกข์ได้​   ธรรมะธรรมชาติที่ช่วยให้มนุษย์มีจิตใจที่สูงมีกายและจิตสัมพันธ์กันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันไม่สุขไม่ทุกข์​ใจร่มเย็นเป็นปกติ​ตามธรรมชาติ​  ชีวิตที่สมดุลกับธรรมชาติที่แท้จริง

๓.​การปฏิบัติบูชาคุณของพระสงฆ์​ คือ​​  เป็นผู้ปฏิบัติดี​ : ตามทางสายกลางไม่หย่อนนัก​ ไม่ตึงนัก​ และไม่ถอยหลัง​  ปฏิบัติตรง​ : ไม่ปฏิบัติเป็นคนลวงโลก​ มุ่งปฏิบัติตรงต่อข้อปฏิบัติอันยังสัตว์โลกถึงพระนิพพาน​ ปฏิบัติถูกต้อง​ : ไม่ผิดเพี้ยนจากคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า​ ไม่ผิดไปจากธรรมเนียมอันดีงามหรือถูกต้องตามระเบียบแบบแผน และปฏิบัติสมควร​ : สมควรแก่การถูกเคารพนับถือ​ เป็นผู้ตื่นรู้ไม่งมงาย​ และรู้จักสำรวมกายและวาจาต่อผู้อื่น

๔.​การปฏิบัติบูชาคุณของพ่อแม่​ คือ​ เป็นการตอบแทนพระคุณที่ท่านมีเมตตารักมอบชีวิตให้เกิดขึ้นมาและได้อบรมเลี้ยงดูแลสั่งสอนให้เป็นคนดีมีศีลธรรมและได้ปฏิบัติธรรมตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า

๕.การปฏิบัติบูชาคุณของครูบาอาจารย์ คือ​ ตอนที่เป็นฆราวาสพ่อครูแม่ครูที่พร่ำสอนลูกศิษย์น้อยได้รู้จักการอ่านเขียนคิดเป็นมีระเบียนวินัย เป็นคนดีคนเก่ง มีวิชาเอาตัวรอดเลี้ยงครอบครัวพ่อแม่ได้​ เรียกว่า​ วิชารักษากาย

ตอนเป็นบรรพชิต ครูบาอาจารย์​ที่เป็นพระท่านได้อบรมศีลธรรมขนมธรรมเนียมแบบแผนของวิชารักษาจิตใจให้เรียนรู้ปฏิบัติธรรม ดำรงชีวิตตนให้ลดละเลิกจากความทุกข์ใจให้เบาบางลงได้ รู้จักความเป็นพระที่แท้จริง​ เรียกว่า​ วิชารักษาจิตใจ

๖.การปฏิบัติบูชาคุณงามความดีในโลก​ คือ​ บูชาคุณงามความดีของพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์​   พระมหากษัตริย์ทุกพระองค์​  พ่อแม่ทุกๆ ท่าน​  ครูบาอาจารย์ทุกๆท่าน​  สัตว์น้อยใหญ่ทุกๆ ตัว​ สรรพสัตว์ทั้งทั่วโลกและจักรวาล

การปฏิบัติบูชาหรือการปฏิบัติธรรมบูชาต่อพระพุทธเจ้าหรือบุคคลที่เราเคารพนับถือเบื้องต้นที่กล่าวมาแล้วนั้น​  เป็นสิ่งที่พระองค์ทรงสรรเสริญ​

แต่อย่างไรก็ตาม​ อย่าลืมว่าพระศาสดาเป็นเพียงแค่ผู้ที่ชี้แนะนำหรือบอกทางให้เราเดินเท่านั้น​  ใครประพฤติปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระองค์ก็ได้ริมชิมรสของพระธรรมเหล่านั้นเอง​  หากไม่ทำตามก็ไม่ได้สัมผัสรสของพระธรรมอย่างแท้จริง​ ทำเล่นก็ได้แบบเล่น​ ทำจริงก็ได้ของจริง​ 

เปรียบเสมือนกินข้าวเล่นไปมันก็อิ่มช้าหน่อยเสียเวลา​  หากตั้งใจกินก็อิ่มเร็วหน่อย​มีเวลาเหลือทำประโยชน์อย่างอื่นอีกมาก

การปฏิบัติบูชาก็เป็นเช่นนั้นเหมือนกัน​  เพียงแค่เราศรัทธาเคารพนับถือในพระองค์หรือบุคคลที่เราเคารพหรือแม้แต่เราปฏิบัติธรรม​ เพื่อบูชาธรรมก็ยังได้​  เพื่อยึดเหนี่ยวทางจิตใจ​  เป็นกำลังใจในการปฏิบัติธรรมไปให้ถึงเป้าหมายคือ​ ความดับทุกข์​

สุดท้าย​  การปฏิบัติบูชาคุณงามความดีต่อใคร​  ก็เพื่อเป็นแนวทางกำลังใจในเดินไปให้ถึงฝากฝั่งแห่งความสันติสงบสุขภายในจิตใจอย่างนิรันดร์ได้อย่างแท้จริงด้วยวิธีการลงมือปฏิบัติเอง​

 พระครูสมุห์สุพัฒน์  อนาลโย ผู้เขียน
พระครูสมุห์สุพัฒน์ อนาลโย ผู้เขียน

เช่น การเจริญสติแบบการเคลื่อนไหว​ อันหมายถึงกายเคลื่อนไหวใจรับรู้​ รู้สึกตัวในอาการเคลื่อนไหวกาย​ ใจคิดก็รู้เท่าทันความคิด​ จะเป็นอดีต​ อนาคตก็รู้ว่าคิดก็จบ​แล้ว กลับมาที่ฐานกายที่เคลื่อนไหว​ ให้รู้สึกตัวอยู่ในปัจจุบันธรรม​ ใจก็ปกติเป็นธรรมชาติ​ นี่เรียกว่า​ การเจริญสติสัมปชัญญะ​  รู้สึกตัวทั่วพร้อม

และท้ายที่สุด​  พระพุทธองค์ได้ให้ลูกกุญแจไว้ไขปริศนาธรรมคือ​ ตัวทุกข์​ จิตทุกข์ใจ​ทุกข์ หรือทุกข์เพราะความคิด​  การยึดมั่นถือมั่นเป็นจริงตามความคิดก็กลายเป็นทุกข์​   ฉะนั้นจะแก้ไขปลอดล็อคตัวทุกข์ได้ก็เอาตัวสติมาไขเปิดตัวทุกข์ออก​  ดั่งใจความที่พระพุทธเจ้าก่อนปรินิพพานตรัสไว้ว่า​  “อย่าประมาท” นั่นเอง​

 พระครูสมุห์สุพัฒน์  อนาลโย ผู้เขียน
พระครูสมุห์สุพัฒน์ อนาลโย ผู้เขียน

การบูชาด้วยสิ่งของมันไม่ยั่งยืนมันเสื่อมสูญสลายหายไปได้ การปฏิบัติธรรมบูชา​ยั่งยืนกว่า​  เพื่อความสันติสงบสุขภายในอย่างแท้จริง​  ทั้งสองก็ต้องอาศัยสัมพันธ์กันประดั่งนกมีปีกเดียวก็บินไปได้ไม่ไกลดั่งใจนก มีปีกสองปีกจะบินไปได้ไกลอย่างอิสระตามใจต้องการ​  

จาริกธรรมในอเมริกา (ตอนที่ ๒๐) “ปฏิบัติบูชาคุณงามความดี คือวิชารักษาจิตใจ ” โดย พระครูสมุห์สุพัฒน์ อนาลโย

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here