แม้ว่าจะเข้าพรรษามาได้สองสัปดาห์กว่าๆ แล้ว หากทว่า ยังไม่สายเกินไปที่จะทำอะไรดีๆ เป็นของขวัญให้กับตนเองสักครั้งหนึ่งในชีวิต
ของขวัญนี้ในทางธรรม อาจไม่ใช่การซื้อโน่นนี่นั่นให้ตนเอง แต่เป็นการใคร่ครวญดูว่า เรานั้นบกพร่องตรงไหน และอยากจะเติมเต็มให้กับตนเองในส่วนใด ที่จะทำให้จิตใจมั่นคงขึ้น
กับการเอาชนะกิเลสสักตัว ที่มันมีอิทธิพลมาตลอดชีวิตของเรา
พระมหาประสิทธิ์. ญาณปฺปทีโป มีเทคนิกและกำลังใจการต่อสู้กับกิเลสจากพระพุทธเจ้ามาฝาก
แห่งสถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ วัดสระเกศฯ
โชคดีที่มีพระ
“อธิษฐานธรรม”ตั้งใจอะไรดีในพรรษานี้
โดย พระมหาประสิทธิ์. ญาณปฺปทีโป
ในธรรมบทมีเรื่องราวของพระเถระรูปหนึ่งท่านเป็นลูกของมหาเศรษฐีในเมือง แต่พอได้ฟังธรรมแล้วก็มีจิตศรัทธาในพระพุทธเจ้า จึงได้ออกบวชและศึกษาหลักพระธรรมวินัยกับพระอุปัชฌาย์เป็นเวลา ๕ ปีก่อนที่จะขออนุญาตไปจำพรรษาในป่า และในวันที่พระอธิษฐานเข้าพรรษานั่นเอง ท่านก็อธิษฐานตั้งใจอย่างมุ่งมั่นว่า จะไม่ลดละการปฏิบัติและจะไม่นอนตลอดพรรษา ท่านก็ทำตามนั้นจนกระทั่งตาเจ็บ เมื่อหมอมาดูและให้ยาไว้หยอด ผ่านไปหลายวันก็ยังไม่หาย เพราะท่านนั่งหยอดแต่ยานี้หมอให้นอนหยอด หมอมาถึงสามครั้งจึงได้รู้ความจริงว่าท่านไม่ได้หยอดยาตามที่หมอแนะนำ แต่กระนั้นท่านก็ไม่ละจากความตั้งใจของตนเอง จนกระทั่งตาของท่านนั้นบอดพร้อมๆ กับการบรรลุอรหันต์
ชื่อของท่านก็คือ พระจักขุบาล ผู้เขียนเรียนเรื่องนี้ตั้งแต่สมัยเป็นสามเณร พระอาจารย์ที่สอนบอกว่า เราอาจจะไม่ต้องทำขนาดท่านก็ได้ แต่ให้ดูท่านเป็นตัวอย่างถึงการมุ่งมั่นที่จะทำด้วยความตั้งใจ แม้ไม่มีใครสั่งหรือบังคับให้ทำ แต่ท่านอธิฐานปฏิบัติด้วยตนเอง เพราะฉะนั้นทุกๆ ปีเราก็จะมีการอธิษฐานที่จะทำอะไรสักอย่างในช่วงเข้าพรรษา นอกจากกิจวัตรประจำที่ทำอยู่แล้วแต่ก็อาจจะทำให้มีความเข้มข้นมากขึ้น เช่น จะท่องหลักไวยากรณ์ให้จบภายในพรรษา เพื่อนผู้เขียนท่องจบตั้งแต่ยังไม่เข้าพรรษา แต่ผู้เขียนใช้เวลาสี่เดือนกว่าจะท่องจบ แถมยังไม่ค่อยจะคล่องอีกต่างหาก แต่เราก็สามารถทำข้อสอบผ่าน เพราะความตั้งใจทำตามที่ตนเองได้อธิษฐานไว้ แม้จะไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรมากมาย แต่ก็ทำให้เห็นด้วยตนเองแล้วว่า ถ้าเราตั้งใจทำอะไรและลงมือทำอย่างจริงจัง มันก็จะมีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จ
ที่เล่าเรื่องนี้ก็เพราะอยากจะเชิญชวนให้ท่านทั้งหลายได้มาลองอธิษฐานธรรม มาลองลงมือทำอะไรสักอย่างตามที่ตั้งใจไว้สักประมาณ ๓ เดือน อะไรก็ได้ที่ทำง่าย ทำได้จริง เอาแบบที่ทำได้จริงๆ นะ ไม่ใช่ว่าตั้งใจสูงส่งแต่ทำได้แค่วันสองวันก็เลิกเพราะมันยากเกินไป
ถ้าเราตั้งง่ายๆ แต่ทำได้จริง เราจะมีกำลังใจและเป็นการต่อยอดพัฒนาความตั้งใจของเราให้ใหญ่ขึ้นยากขึ้นเองในปีต่อไป
เช่น เด็กคนหนึ่งตั้งใจว่าจะอ่านหนังสือทุกวันตลอดพรรษา เขาทำได้ในปีแรก และการได้อ่านหนังสือทุกวันแม้จะวันละนิดแต่มันกลายเป็นความเคยชิน เขาก็อ่านหนังสือแทบทุกวันตลอดทั้งปี
เด็กอีกคนตั้งใจจะหยอดออมสินทุกวันตลอดพรรษา เขาก็ไม่ได้หยอดได้ทุกวันหรอก เราะส่วนใหญ่กินขนมหมด แต่เมื่อออกพรรษาแล้ว มันก็มีตังค์อยู่ในกระปุก แม้จะไม่ได้มากมายอะไร แต่มันก็ทำให้เขาเห็นจริงๆ ว่า ถ้าเก็บเงินจริงยังไงมันก็จะต้องมีเงินออมแน่นอน
หรืออย่างที่เขารณรงค์กัน ผู้เขียนเองก็พูดและเขียนถึงทุกปี เกี่ยวกับงดเหล้าเข้าพรรษา เคยมีคนถามว่าไม่เบื่อเหรอพูดทุกปีเลย กับเรื่องเดิมๆ ผู้เขียนก็ตอบไปทำนองว่า ก็เบื่อเหมือนกันแต่คล้ายๆ กับพ่อแม่บ่นลูกนั่นแหละ ก็เรื่องเดิมๆ แต่บ่นได้ทุกวัน ด้วยเพราะรักและห่วง มันก็อดไม่ได้ที่จะพูดเตือนบ้าง เราก็พยายามอย่าตีความว่าพ่อแม่หรือครูบ่น จงเอาคำนั้นมาพิจารณาให้ลึกจนถึงเห็นความห่วงใยของพ่อแม่ครูอาจารย์
ฉะนั้นนั้นแล้วก็อยากจะชวนอธิษฐานเพิ่มเติม ไม่ต้องงดเหล้าเข้าพรรษาก็ได้ เอาเป็นว่า ขอหักค่าเหล้าหยอดออมสินสัก ๕% ค่าเหล้า ๑๐๐ บาท ก็หยอดออมสินสัก ๕ บาท อันนี้ยกตัวอย่างนะ ลองปรับใช้ให้เข้ากับตัวเองดู ไม่ต้องสนใจว่าตนเองจะเลิกเหล้าได้ไหม แต่อยากให้ลองทำดูแล้วเปิดกระปุกในวันออกพรรษาออกมาดูว่าเราจะมีตังค์เท่าไหร่ และถ้าให้ใครไม่ดื่มเหล้าอยู่แล้ว ก็อาจจะเป็นอย่างอื่นก็ได้ เช่น ชอบดื่มน้ำที่มีน้ำตาล อันนี้น่าจะเข้ากับหลายคนเลย แก้วหนึ่งอาจเป็นร้อยบาท บางวันดื่มหลายแก้ว รัฐบาลเขาเก็บภาษีน้ำตาล เราก็เก็บของเราก่อนเลย กี่เปอร์เซ็นต์ก็ได้กำหนดเอง ผู้เขียนว่ามันก็น่าสนุกดีนะ ดีต่อสุขภาพด้วย
ตั้งใจอะไรที่ดีต่อตนเองและสังคม ก็ดีทั้งนั้นและขอให้มีกำลังใจที่จะทำอย่างต่อเนื่องแม้จะมีอุปสรรคอยู่บ้างก็ค่อยๆ ปรับไป ทำไป มั่นใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจะคุ้มค่าอย่างแน่นอน
คอลัมน์ โชคดีที่มีพระ หน้าพระไตรสรณคมน์ นสพ. คมชัดลึก
วันพฤหัสบดีที่ ๑ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๖๒
“อธิษฐานธรรม” ตั้งใจอะไรดีในพรรษานี้
โดย พระมหาประสิทธิ์. ญาณปฺปทีโป
