สายธารแห่งธรรม ๕๐ ปีแห่งความสัมพันธ์ “ธรรมะเป็นหนึ่งเดียว” เถรวาท-มหายาน จาก วัดสระเกศฯ ถึง วัดจงไถซาน จาก หลวงพ่อสมเด็จฯ ถึง พระพรหมสิทธิ และ พระอาจารย์เจี้ยนหวิน กับสหธรรมิกนานาชาติ

วันนี้วันพระ
วันอังคารที่ ๑๗ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๗
ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๐

ศึกษาเรียนรู้”สายธารแห่งธรรม”
๕๐ ปีแห่งความสัมพันธ์ “ธรรมะเป็นหนึ่งเดียว”
เถรวาท-มหายาน
จาก วัดสระเกศฯ ถึง วัดจงไถซาน
จาก หลวงพ่อสมเด็จฯ ถึง พระพรหมสิทธิ
และ พระอาจารย์เจี้ยนหวิน กับสหธรรมิกนานาชาติ

เมื่อวันที่ ๑๔ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๗  ที่ผ่านมา พระอาจารย์เจี้ยนหวิน (Ven. Shi Juan Yun) รองเจ้าอาวาสวัดจงไถซาน (Chung Tai Chan Monastery) จากสาธารณรัฐจีน (ประเทศไต้หวัน) พร้อมด้วยพระมหาสุรศักดิ์ ปจฺจนฺตเสโน รองอธิการบดีฝ่ายกิจการต่างประเทศ และคณะทำงานวิทยาลัยพระธรรมทูต จากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เข้าถวายสักการะมุทิตาพระพรหมสิทธิ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร

พระเดชพระคุณพระพรหมสิทธิ และ พระอาจารย์เจี้ยนหวิน  ได้ปรารภรำลึกถึงท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสณมหาเถระ) อดีตประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร ว่าเคยไปเยือนวัดจงไถซานเมื่อ ๒๐ กว่าปีก่อน ในครั้งนั้นพระพรหมสิทธิได้ติดตามไปด้วย เป็นเหตุให้วัดสระเกศฯ และวัดจงไถซานมีความสัมพันธ์ต่อกัน และเป็นการสืบสายสัมพันธ์ระหว่างเถรวาทกับมหายานที่มีมานาน

ในการสนทนาครั้งนี้ ทำให้ทราบว่าพระอาจารย์เจี้ยนหวิน ก็รู้จักพระอาจารย์เจินตุ้น (Ven. Zhen Dun) เจ้าอาวาสวัดเฉาอิน (Chao Yin Temple) สาธารณรัฐจีน (ประเทศไต้หวัน) ซึ่งเคยพำนักอยู่ที่วัดสระเกศฯ ร่วมกับพระพรหมสิทธิถึง ๖ ปี และยังคุ้นเคยกับพระอาจารย์จีนราชธรรมานุสิฐ ฝ่าเจ้า (Ven. Shi Fa Zhao) เจ้าอาวาสวัดพระธาตุเขี้ยวแก้ว, พระอาจารย์จีนวิเทศศาสนานุวัตร หมิงยี่ (Ven. Shi Ming Yi) เจ้าอาวาสวัดฟู่ไฮ่ฉาน สาธารณรัฐสิงคโปร์ ผู้เป็นสหธรรมิกกับพระพรหมสิทธิด้วย ทำให้พระพรหมสิทธิได้ยกปณิธานของท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสณมหาเถระ) ที่จะให้พระเถรวาทและพระมหายานเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ร่วมมือช่วยเหลือกัน

ดังที่ เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ กล่าวไว้ตอนหนึ่ง หลังการสถาปนา “มหาปัญญาวิทยาลัย” ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยสำหรับคณะสงฆ์อนัมนิกายในประเทศไทย ว่า

“ต่อไปพระเณรจะน้อยลง ไม่ใช่น้อยแต่เฉพาะจีนนิกายอกับอนัมนิกาย พระไทย ก็น้อยลงด้วย เพราะความเปลี่ยนแปลงของบ้านเมือง แต่ที่จะให้มีพระเณรอยู่ได้ ต้องจัดการการศึกษาให้พระเณรได้เรียน จะประกอบพิธีกรรมอย่างเดียวไม่ได้ ให้พระเณรได้ออกบิณฑบาต ได้ปฏิบัติอย่างพระไทย เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน คณะสงฆ์ทั้งจีนนิกายและอนัมนิกายจึงเป็นปึกแผ่นมั่นคง”

จากหนังสือ “สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ)
พระมหาเถระผู้เป็นประวัติศาสตร์ความทรงจำพระพุทธศาสนาโลก ”
รัฐบาลจัดพิมพ์ โดยเสด็จพระราชกุศล
ในพิธีพระราชทานเพลิงศพ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ)
อดีตประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช
เจ้าอาวาสวัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร
ณ เมรุหลวงหน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส
วันอาทิตย์ที่ ๙ มีนาาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗

ซึ่งการเชื่อมโยงความสัมพันธ์ที่ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสณมหาเถระ) ได้วางรากฐานไว้จนถึงวันนี้อย่างน้อย ๕๐ ปี ทำให้เกิดความแน่นแฟ้นมั่นคง เห็นได้จากความสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงถึงกันหมดในวันนี้ ยังสะท้อนผ่านการลงนามบันทึกข้อตกลง MOU ระหว่างมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยกับวัดจงไถซาน ที่จะสนับสนุนด้านการศึกษาพระพุทธศาสนาซึ่งกันและกันด้วย

พระอาจารย์เจี้ยนหวินเสริมว่า

“ที่ผ่านมาท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสณมหาเถระ) ได้เมตตาพวกเราชาวมหายาน และวันนี้ได้ดื่มด่ำความเมตตาของพระพรหมสิทธิ พวกเราขอขอบคุณที่ท่านสืบสานเมตตาธรรมบูรพาจารย์ ที่ว่าเถรวาทกับมหายานต้องไปด้วยกัน…”

ซึ่งวัดจงไถซาน ได้มาเปิดวัดไท่ฝอซื่อ เป็นวัดสาขาที่กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย ด้วย พระพรหมสิทธิจึงสำทับว่า

“อยู่เมืองไทย เป็นพี่น้องกัน อย่าให้เป็นอย่างอื่น”

ถือเป็นการสานต่อปณิธานท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสณมหาเถระ) ในการรวมเถรวาทและมหายานให้เป็นหนึ่งเดียวกันมาจนถึงทุกวันนี้