เรื่องของขยะที่อาจกลายเป็นพลอยของใครคนหนึ่ง

ขณะเดียวกัน เพชรพลอยก็อาจกลายเป็นขยะของใครอีกคนไป

“มอง” กับ “เห็น” ต่างกันอย่างไร
และ มองอย่างไร จึงจะเห็นธรรม …
บทความนี้ ค่อยๆ อ่าน ค่อยๆ พิจารณาไป เราจะพบความจริงได้ จากใจเราเอง
(การยอมรับความจริงว่า เรายังมองไม่เห็นตามจริง

อาจเป็นการเห็นตามความเป็นจริงอย่างหนึ่ง ? )

เห็นความจริง?

หรือแค่เห็นตามที่คนอื่นอยากให้เห็น

โดย พระมหาประสิทธิ์. ญาณปฺปทีโป

           วันก่อนมีพระมาที่ห้องเพื่อมาขอดูพระเครื่องที่เก็บไว้  โดยส่วนตัวก็เก็บไปแบบธรรมดาไม่ใช่นักสะสมอะไร  แต่ปรากฏว่า พระท่านหยิบจับส่องและเมื่อสัมผัสกับบางองค์ความพิเศษก็บังเกิดขึ้นมาทันที  ท่านบอกว่า “เหมือนเขี่ยขยะแล้วเจอเพชร”   ก็ถวายเพชรเม็ดนั้นให้ท่านไป  เพราะอยู่กับเราแล้วก็เหมือน “ไก่ได้พลอย”  นอนเฝ้ามาตั้งนานก็ไม่รู้สึกเลยว่าตัวเองมีเพชร  แต่พอรู้ว่ามีแล้วก็ต้องรีบให้ท่านเอาไปเสียเดี๋ยวจะกลายเป็นว่า “มีทองแค่หนวดกุ้งนอนสะดุ้งจนเรือนไหว”

         “ราคา”  แปลว่า  “ความต้องการ”  ถ้าอะไรที่เราไม่ต้องการก็จะไม่ให้ราคากับสิ่งนั้น  หรือกลายเป็นของไม่มีค่าไร้ราคา 

           ถ้าต้องการหรือพอใจ  แพงแค่ไหนก็ยินดีจะจ่าย 

           สิ่งของเดียวกันเราก็อาจจะมองเห็นแตกต่างกัน  เวลาแลกเปลี่ยนความเห็นจึงมักจะเอากล่องอะไรสักอย่าง มาเป็นเครื่องมือในการชี้แจง  คือ  ให้ดูรอบด้าน  ถ้าเห็นแค่ด้านใดด้านหนึ่ง  ก็จะไม่เข้าใจสิ่งนั้นๆ ทั้งหมด  เห็นต่างจึงเป็นเครื่องมือในการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง     

           “การด่วนตัดสิน” จึงเป็นสิ่งไม่ควร กระบวนการตัดสินอะไรก็แล้วแต่ ควรเป็นไปบนพื้นฐานของความเข้าใจอย่างถูกต้อง

คำว่า “มุมมอง” จึงไม่ใช่พูดแค่การมอง เพราะไม่สำคัญหรอกว่ามองอะไร

สำคัญที่เราเห็นอะไรต่างหาก  นั่นหมายความว่า เราอาจมองไปมุมเดียวกัน แต่อาจเห็นกันคนละมุม หรือแปรความหมายแตกต่างกัน 

           ดังเช่น…

วันหนึ่งของการอบรมสามเณรภาคฤดูร้อน พระอาจารย์ยกขวดน้ำพลาสติกขึ้นมาแล้วถามสามเณรว่าเห็นอะไร โดยตอบไม่ให้ซ้ำกัน ซึ่งสามเณรก็ตอบกันคนละอย่างได้ ถามว่าคำตอบของใครผิดบ้าง

ไม่มีคำตอบใครผิดเลย

แม้บางคำตอบจะบอกว่า  มันคือขยะ

แต่สำหรับบางคนกลับมองว่า  มันคือเงิน

และหลายครอบครัวก็ใช้ขวดพลาสติกสร้างโอกาสและทางรอดของชีวิต  มีสามเณรบางรูปเล่าถึงความประทับใจที่สามารถหาเงินได้จากการขายสิ่งที่คนอื่นบอกว่าเป็นขยะ  แม้จำนวนจะไม่มาก หากเทียบความเหนื่อยหนัก แต่มากด้วยความหมายของชีวิต และเป็นจุดเปลี่ยนทำให้เห็นค่าของเงินมากขึ้น 

จริงๆ มันเป็นการเรียนเพื่อส่งเสริมวิธีแบบคุณค่าแท้-คุณค่าเทียม และวิธีคิดแบบวิภัชชวาท ซึ่งเป็นการคิดแบบ ไม่ใช่วิธีคิดโดยตรง แต่เป็นวิธีพูดหรือการแสดงหลักการแห่งคำสอนแบบหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้พูดศัพท์เฉพาะอะไรให้กับสามเณร เพราะเรามุ่งฝึกทักษะการคิด ซึ่งมันจะเกิดพัฒนาการที่ดีหากว่าถูกกระตุ้นอย่างเหมาะสม

แต่ในระหว่างการสอนสามเณรสิ่งที่ได้มากน่าจะเป็นตัวเราผู้สอนเอง ได้เห็นมุมมองและวิธีคิดของเด็ก และได้ฝึกกระตุ้นชวนให้คิด ซึ่งเป็นเรื่องยากมาก ด้วยความที่เราคิดว่าเด็กจะต้องคิด แต่เด็กบางคนไม่พร้อมแถมยังชวนเพื่อนให้เล่น การท้าทายจึงกลายเป็นเกม ทำให้เข้าใจเด็กว่าบางคนไม่ได้อยากคิดอะไรมากมาย แต่เขากลับตรงไปตรงมาว่า “อย่าคิดเยอะ” และ “อย่าคิดเลอะเทอะ” แต่เราก็จะต้องจัดบรรยากาศให้สนุกคิด สนุกเรียนรู้ เพราะมันคือเป้าหมายของเรา

 จึงย้ำอีกครั้งว่า “ไม่สำคัญว่าเรามองอะไร แต่สำคัญที่เราเห็นอะไรมากกว่า”

โดยเฉพาะ การเห็นต่าง  ทำให้เราได้รับข้อมูลรอบด้านมากยิ่งขึ้น และรับรู้ความคิดเห็นของคนอื่นซึ่งอาจจะเป็นประโยชน์กับเรา และการ เห็นพร้อมต้องกัน เป็นฉันทามติ หรือสมทิฐิ มีความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน เป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนข้อตกลงร่วมกันของชุมชนและสังคม

สำหรับ เห็นใจ ก็จะช่วยให้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข เพราะคนเรานั้นถึงจะเห็นต่าง แต่แค่เห็นใจกันแนวโน้มพฤติกรรมที่มีต่อกันก็จะเป็นไปในทิศทางที่ดี เพราะว่าเป็นสิ่งสะท้อนถึงความมีเมตตากรุณาต่อกันนี่เอง

และ เห็นจริง  ช่วยให้พ้นทุกข์ไร้อุปาทาน เพราะทันทีที่เราเห็น หรือ รู้เท่าทันตามความเป็นจริง ความยึดมั่นถือมั่นก็จะลดลงทันที ความหนักอึดอัดก็จะเบาว่างและวางเป็น ก็จะเห็นสุขเกิดขึ้นอย่างเบาๆ สบายๆ

เห็นความจริง? หรือแค่เห็นตามที่คนอื่นอยากให้เห็น โดย พระมหาประสิทธิ์. ญาณปฺปทีโป
ห็นความจริง? หรือแค่เห็นตามที่คนอื่นอยากให้เห็น โดย พระมหาประสิทธิ์. ญาณปฺปทีโป

ลองถ่ายภาพเพื่อใช้เป็นสื่อการสอน แค่มุมกล้องก็สามารถบิดเบือนความจริงของการรับรู้เราได้ ฉะนั้นแล้ว ไม่สำคัญหรอกว่าเรามองอะไร เราเห็นความจริงหรือเปล่า หรือแค่เห็นตามที่คนอื่นอยากให้เห็น

พระมหาประสิทธิ์ ญาณปฺปทีโป
พระมหาประสิทธิ์ ญาณปฺปทีโป ผู้เขียน


คนเรานั้นถึงจะเห็นต่าง แต่ก็ควรจะเห็นใจกัน แนวโน้มพฤติกรรมที่มีต่อกันก็จะเป็นไปในทิศทางที่ดี เพราะว่าเป็นสิ่งสะท้อนถึงความมีเมตตากรุณาต่อกันนี่เอง

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here