![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2023/01/S__48447516-1024x576.jpg)
๑๑ มกราคม ๒๕๖๖
น้อมรำลึก ๙๕ ปีแห่งชาตกาล
เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว) อุปเสณมหาเถระ
อุปัชฌายาคุณุตตะรา
พระอุปัชฌาย์ผู้เลิศคุณ
เราตายได้แต่พระพุทธศาสนาตายไม่ได้
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2023/01/07เย็นหิมะในรอยธรรม-724x1024.jpg)
ปูชา จ ปูชนียานํ เอตมฺมงฺคลมุตฺตมํ.
ขอนอบน้อมแด่ครู พระอุปัฌชาย์ อาจารย์
ผู้ให้ชีวิตในพระศาสนาของพระพุทธองค์ ด้วยเศียรเกล้าฯ
![สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว) อุปเสณมหาเถระ](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2023/01/S__66297864-1068x711-1-1024x682-1.jpg)
วิถีแห่งผู้นำ : สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสณมหาเถร)
บทนำ (พระพุทธศาสนาเป็นประทีปแห่งโลก)
เรียบเรียงโดย พระครูอมรโฆสิต (ปรีชา สาเส็ง)
แม้ธาตุขันธ์จะดับสูญ แต่ดอกบัวดอกแล้วดอกเล่าที่เจ้าประคุณสมเด็จฯ ส่งออกไปปลูกยังดินแดนที่ปราศจากพระพุทธศาสนา เริ่มเบ่งบานตามปณิธานอันยิ่งใหญ่แห่งเจ้าประคุณสมเด็จฯ ที่อุทิศตนเพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตราบลมหายใจสุดท้าย บัดนี้มีวัดไทยกว่า ๕๐๐ วัด ตั้งมั่นกระจายอยู่ทั่วทุกมุมของโลก เป็นไปตามคำกล่าวของหลวงพ่อเจ้าประคุณสมเด็จฯ ที่ว่า “ดอกบัวจะบานกลางหิมะ”
![เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ)](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2023/01/IMG_9645-1000000-1024x684.jpg)
เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว) อุปเสณมหาเถระ อดีตประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เป็นหนึ่งในพระมหาเถระผู้มุ่งมั่นที่จะเห็นพระพุทธศาสนามีความมั่นคงอยู่บนผืนแผ่นดินไทย และแผ่ไพศาลไปเป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่ชาวโลก
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2023/02/S__11714563-1024x688.jpg)
เมื่อ ๘๐ กว่าปีที่แล้ว เจ้าประคุณสมเด็จฯ ได้ตั้งใจที่จะบวชเป็นสามเณรเพียง ๗ วัน แต่กลับดำรงตนอยู่ในสมณะเพศตลอดมาตราบเข้าสู่วัยชรา ได้สร้างคุณูปการให้แก่พระพุทธศาสนาอย่างมากมายมหาศาล เหมือนมีชีวิตเกิดมาเพื่อต่อลมหายใจให้กับพระพุทธศาสนา
จริยาวัตรและปฏิปทาที่งดงามภายใต้ใบหน้าอ่อนโยน มีรอยยิ้มฉายอยู่บนหน้าตลอดเวลา บ่งบอกถึงพลังแห่งเมตตาธรรม เป็นภาพที่ติดตาและตรึงใจแก่ผู้พบเห็นอยู่ตลอด อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากการฝึกฝนในพระกรรมฐานอย่างหนัก
เจ้าประคุณสมเด็จฯ ได้เรียนพระกรรมฐาน ในเบื้องต้น จากหลวงพ่อพริ้ง ซึ่งเป็นพระวิปัสสนาจารย์องค์สำคัญของเกาะสมุย โดยหลวงพ่อพริ้งได้นำเจริญพระกรรมฐานบนหลุมฝังศพขณะมีอายุ ๑๒ ปี เท่านั้น ต่อมา ได้เรียนพระกรรมฐานจากเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช (อยู่ ญาโณทยมหาเถร) ซึ่งเป็นที่ทราบโดยทั่วไปว่า พระองค์ท่านมีความชำนาญด้านกสิณ และเจ้าประคุณสมเด็จฯ ยังได้ให้ความสนใจวิธีการเจริญพระกรรมฐานตามแนวต่างๆ จนมีความชำนาญ
![สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) และ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (อยู่ ญาโณทยมหาเถร) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก พระอุปัชฌาย์](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2022/04/37924B82-5127-4C27-8F93-6A674FF9919A-3777700-801x1024.jpg)
สามารถสวดพระปาฏิโมกข์ได้ในพรรษาแรกแห่งการอุปสมบทเป็นพระภิกษุ และยังสามารถเรียนสำเร็จเปรียญธรรม ๙ ประโยค อันเป็นการศึกษาพระปริยัติธรรมชั้นสูงสุดของคณะสงฆ์
สำนึกที่มีต่อความรับผิดชอบพระพุทธศาสนาเช่นนี้ ก่อตัวขึ้นท่ามกลางการฝึกฝนอย่างหนักของเจ้าพระสมเด็จพระสังฆราช (อยู่ ญาโณทยมหาเถร) ผู้เป็นพระอาจารย์ ผู้ได้เล็งเห็นอุปนิสัยแล้วว่า
ศิษย์ผู้นี้ คือ ผู้ที่จะนำพาพระพุทธศาสนาผ่านห้วงแห่งความยากลำบากในอนาคต
จากวันที่สำเร็จการศึกษาเปรียญธรรม ๙ ประโยค เพราะความรักที่มีต่อพระพุทธศาสนาอย่างเปี่ยมล้น เมื่อก้าวขึ้นสู่การบริหารคณะสงฆ์ และได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะผู้ปกครอง แม้พระเถระผู้ใหญ่ในสมัยนั้น ต้องการให้เป็นเจ้าคณะผู้ปกครองในภาคกลาง แต่เจ้าประคุณสมเด็จฯ กลับเลือกที่จะไปเป็นผู้ปกครองทางภาคที่กันดารและเดินทางไปยากที่สุด คือ ภาคอีสาน เนื่องจากเจ้าประคุณสมเด็จฯได้เล็งเห็นว่า หากจะพัฒนาประเทศชาติและพระศาสนา จะต้องพัฒนาจากภาคที่มีประชากรมากที่สุดก่อน โดยเน้นที่การให้การศึกษา
![สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) ออกไปเยี่ยมพระนิสิตปฏิบัติธรรม](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2022/06/AF965F36-48A9-4D17-BF59-E3A065340AF0-2-1024x715.jpg)
จากวันนั้น เจ้าประคุณสมเด็จฯ ก็ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยในการที่จะพบปะผู้คน ทุ่มเทกำลังกายและกำลังใจ เพื่องานพระศาสนาอย่างต่อเนื่อง ออกไปเยี่ยมพระสงฆ์ในทุกวัดที่อยู่ในการปกครอง ศึกษาทั้งประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์และสภาพการเป็นอยู่ของถิ่นนั้นๆ เพื่อแนะนำการจัดระบบการศึกษา
![เจ้าพระคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) อดีตประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2022/06/23C26C57-613C-4EDE-85A0-542C53D99906-2-1024x665.jpg)
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2022/06/3123D143-08C0-4BE8-8968-C09D5E5ADBAB-2-776x1024.jpg)
ภายหลังเมื่อลูกศิษย์รูปหนึ่งออกไปปฏิบัติศาสนกิจในจังหวัดที่ห่างไกล เกิดอาพาธไม่มีโรงพยาบาลรักษาจนถึงแก่มรณภาพลง กลายเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดการสร้างตึกสงฆ์อาพาธในจังหวัดชายแดนตามมาอย่างเงียบๆ ภายใต้ชื่อ “ตึกผู้มีพระคุณ” โดยไม่มีการเรี่ยไร ไม่มีการบอกบุญ และไม่ได้ประกาศให้ใครรับรู้ ทุนในการสร้างทั้งหมดได้มาจากการรวบรวมปัจจัยจากผู้มีจิตศรัทธาที่ทำบุญในโอกาสต่างๆ เมื่อครบจำนวนก็ลงมือสร้างตามแบบที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด
จากวันนั้นเป็นต้นมา ตึกสงฆ์อาพาธภายใต้ชื่อ “ตึกผู้มีพระคุณ” จึงเกิดขึ้นในจังหวัดชายแดนตึกแล้วตึกเล่า
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2023/01/F549A4D3-4CF8-43BD-A1C9-ECB9F1E4F12D-2-867x1024.jpg)
เจ้าประคุณสมเด็จฯ เป็นผู้นำพระพุทธศาสนาก้าวเข้าสู่โลกยุคใหม่ ได้ริเริ่มวางรากฐานแนวคิดงานพระศาสนาเชิงรุกที่สำคัญในด้านต่างๆ เช่น ก่อตั้งโรงพิมพ์กรมการศาสนา จัดพิมพ์แถลงการณ์คณะสงฆ์ รวบรวมกิจการต่างๆ เกี่ยวกับการบริหารงานคณะสงฆ์ ตลอดทั้งพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ กฎกระทรวง กฎมหาเถรสมาคม ระเบียบ คำสั่งมหาเถรสมาคม เกี่ยวกับการปกครองคณะสงฆ์และการพระศาสนาออกเป็นรายเดือนทุกวันที่ ๒๕ ของเดือน และหนังสือธรรมะอื่นๆ
ริเริ่มให้มีศูนย์การคณะสงฆ์ประจำภาค ริเริ่มให้มีสำนักงานพระพุทธศาสนาประจำจังหวัดทุกจังหวัด เพื่อรองรับงานคณะสงฆ์ ริเริ่มให้มีพุทธมณฑลประจำจังหวัด ริเริ่มให้จัดตั้งสำนักเรียนบาลีประจำจังหวัด ริเริ่มให้จัดตั้งสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัด ริเริ่มให้ยกร่างหลักสูตรการเรียนการสอนภาคภาษาอังกฤษในมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย ยกร่างหลักสูตรโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญ
![เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ)](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2022/08/21CBE9A7-D7DD-4DD5-86E0-300E272927BC-2-1-657x1024.jpg)
ริเริ่มจัดตั้งโรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย ริเริ่มให้มหาวิทยาลัยสงฆ์เปิดหลักสูตรผู้บริหารสำหรับพระสังฆาธิการ เพื่อยกระดับการศึกษาของพระสังฆาธิการในสังฆมณฑล ริเริ่มจัดตั้งสถานีวิทยุและโทรทัศน์พระพุทธศาสนา ริเริ่มให้พระสงฆ์นำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้กับงานเผยแผ่พระพุทธศาสนา ริเริ่มให้จัดตั้งกลุ่มโรงเรียนการกุศลของวัดในพระพุทธศาสนา จัดการเรียนการสอนตามแนวโรงเรียนวิถีพุทธ และให้เรียกเยาวชนที่เรียนในโรงเรียนการกุศลของวัดในพระพุทธศาสนา ว่า “ลูกพระพุทธเจ้า”
![สวดมนต์ข้ามปีที่วัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2020/08/15774759_1317324544975894_1256829445804632537_o-1024x683.jpg)
ริเริ่มให้ปรับการเจริญพระพุทธชัยมงคลคาถาในวันขึ้นปีใหม่ เป็นการสวดมนต์ข้ามปี เพื่ออนุวัติให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสังคม ริเริ่มการจัดกิจกรรมงานวัด และกิจกรรมวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา อนุวัติให้สอดคล้องกับโลกสมัยใหม่ ริเริ่มจัดตั้งพระธรรมทูตอาสา ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ริเริ่มให้พระสังฆาธิการเกษียรอายุในวัย ๘๐ ปี เพื่อยกขึ้นเป็นปูชนียบุคคลของสังฆมณฑล
ในส่วนงานพระพุทธศาสนาในต่างประเทศ เจ้าประคุณสมเด็จฯ เป็นคณะกรรมการจัดตั้งสภาสงฆ์แห่งโลก เป็นผู้ริเริ่มสานศาสนสัมพันธ์กับพระพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน เป็นผู้ริเริ่มจัดงานวิสาขบูชาโลก เป็นผู้ริเริ่มเผยแผ่พระพุทธศาสนาในต่างประเทศ ริเริ่มการสร้างวัดไทยในต่างประเทศ และริเริ่มให้มีการฝึกอบรมพระธรรมทูตไปประจำ ณ วัดไทยในต่างประเทศ ได้ออกเดินทางไปต่างประเทศทั่วทุกมุมโลก สร้างศาสนาสัมพันธ์อันดีกับผู้นำต่างศาสนา เพื่อหาแนวทางที่จะให้มีวัดเกิดขึ้นในประเทศนั้นๆ อันมีแรงบันดาลใจมาจากเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช (อยู่ ญาโณทยมหาเถร) ผู้เป็นพระอาจารย์
![สังคายนาพระไตรปิฎก ครั้งที่ ๖ : พ.ศ.๒๔๙๗ เจ้าประคุณสมเด็จฯ ไปร่วมประชุมสังคายนาพระไตรปิฎกฉัฏฐสังคีติ ณ ประเทศพม่า นับเป็นการเปิดวิสัยทัศน์ระดับนานาชาติเป็นครั้งแรก และต่อมาในปี พ.ศ.๒๕๐๐ ได้ไปร่วมอรรถกถาสังคายนาฉลอง ๒๕ พุทธศตวรรษ](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2022/06/8FB2120E-7FF2-404C-B653-E94C4D233A73-2-1024x740.jpg)
ในปี พ.ศ. ๒๔๙๗ ได้ออกเดินทางไปร่วมประชุมสังคายนาพระไตรปิฎกฉัฏฐสังคีติ ณ ประเทศพม่า และในปี พ.ศ. ๒๕๐๐ ก็ได้เดินทางไปประชุมอรรถกถาสังคายนา เพื่อฉลองกึ่งพุทธศตวรรษ ณ ประเทศพม่า อีกครั้ง ต่อมา ในปี พ.ศ. ๒๕๐๒ ภายหลังดำรงตำแหน่งผู้ช่วยอธิการบดี และเป็นหัวหน้าแผนกธรรมวิจัย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย ได้เดินทางไปสังเกตการณ์พระศาสนาในประเทศใกล้เคียง ได้แก่ ลาว เวียดนาม กัมพูชา มาเลเซีย อินโดนีเซีย อินเดีย และศรีลังกา เป็นต้น
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2023/01/LINE_ALBUM_เจ้าประคุณสมเด็จ_๒๓๐๑๑๑_1777-1024x656.jpg)
ในปี พ.ศ. ๒๕๐๕ เป็นหัวหน้าคณะเดินทางไปสังเกตการณ์พระศาสนาและเชื่อมศาสนสัมพันธ์ ที่ประเทศเกาหลี ญี่ปุ่น ไต้หวัน ฮ่องกง และจีน ฯลฯ ได้กลายเป็นจุดเปลี่ยนอย่างสำคัญแห่งหน้าประวัติศาสตร์ศาสนา ในการเชื่อมพระพุทธศาสนาเถรวาทกับมหายานเข้าด้วยกันอย่างแนบแน่น จนถึงปัจจุบัน พระพุทธศาสนามหายานในหลายประเทศ เช่น ญี่ปุ่น ไต้หวัน และจีน ได้ขอรับการอุปสมบทตามแบบอย่างพระสงฆ์เถรวาท เกิดประเพณีการบวชตามแบบอย่างพระสงฆ์เถรวาทก่อนบวชตามแบบอย่างพระสงฆ์มหายาน ขึ้นในประเทศญี่ปุ่น จีน และไต้หวัน และได้สร้างภูเขาทองจำลองไว้เป็นอนุสรณ์แห่งสายสัมพันธ์ทางศาสนา ในเวลาต่อมา
![สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) จาริกธรรมไปปฏิบัติศาสนกิจวัดนิไทจิ ประเทศญี่ปุ่น ตามเส้นทางพระบรมสารีริกธาตุ](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2022/11/77E15502-0595-4931-902D-9B7BADC2DA6C-2-1024x673.jpg)
ในปี พ.ศ. ๒๕๐๗ ภายหลังได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้ออกเดินทางไปปฏิบัติศาสนกิจไกลถึงภาคพื้นยุโรป เกิดวัดไทยแห่งแรกขึ้นในเนเธอร์แลนด์ ชื่อว่า “วัดพุทธาราม” ต่อมา เมื่อคณะสงฆ์เกิดกองงานพระธรรมทูตสายต่างประเทศ ทำให้วัดไทยเริ่มขยายออกไปตามประเทศต่างๆ ในยุโรปและออสเตรเลีย ทั้งเยอรมัน อังกฤษ ฝรั่งเศส และอิตาลี เป็นต้น
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2022/10/3907920A-D4EF-48E0-A732-FB69F1FFF562-2-1024x807.jpg)
ในการเดินทางไปปฏิบัติศาสนกิจนอกอาณาเขตพระพุทธศาสนาไกลออกไปถึงยุโรป เจ้าประคุณสมเด็จฯ มีโอกาสได้พบกับท่านอาจารย์ปรีดี พนมยงค์ และชาวไทยผู้ลี้ภัยทางการเมือง ที่พำนักอยู่ในยุโรปเป็นจำนวนมาก จึงได้ทราบถึงสภาพความเป็นอยู่และความต้องการของชาวไทยในต่างประเทศ ซึ่งนอกจากจะต้องต่อสู้กับสภาพภูมิอากาศที่หนาวเหน็บตลอดทั้งปีแล้ว ยังจะต้องปรับตัวให้เข้าวัฒนธรรมของประเทศนั้นๆ ด้วย สิ่งที่ชาวไทยต้องการในขณะนั้น คือ ต้องการให้มีวัด และพระสงฆ์ไปอยู่ประจำ
![เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) ปฏิบัติศาสนกิจในประเทศแถบยุโรป](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2022/10/F03B059F-F870-4E29-B9CC-39F60D1735AC-3-1024x745.jpg)
สำหรับทางยุโรป โดยเฉพาะประเทศในแถบสแกนดิเนเวีย เป็นดินแดนที่ไม่น่าจะมีพระสงฆ์สามารถไปสร้างวัดไทยได้ เนื่องจากสภาพภูมิประเทศและสภาพภูมิอากาศค่อนข้างเหน็บหนาว ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะเกือบตลอดทั้งปี
![สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) และคณะสงฆ์ วางรากฐานการสร้างวัดในทวีปยุโรป เดินทางไปปฏิบัติศาสนกิจประเทศในแถบสแกนดิเนเวีย](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2022/10/CC9E3FEE-6FA5-4E53-92A1-C9A5AADE0FAA-2-636x1024.jpg)
เจ้าประคุณสมเด็จฯ ได้ยึดเอาประเทศเนเธอร์แลนด์เป็นจุดเริ่มต้นในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในแถบสแกนดิเนเวีย โดยมีความเชื่อมั่นว่า แม้สภาพภูมิอากาศประเทศในแถบสแกนดิเนเวียจะหนาวเกือบตลอดทั้งปี แต่สภาพจิตใจของคนในแถบนี้กลับอ่อนโยน จึงเกิดความเชื่อมั่นว่า พระพุทธศาสนาน่าจะเจริญได้ในสแกนดิเนเวีย จึงชักธงธรรมจักรขึ้นเหนือหน้าต่างที่พัก เป็นสัญลักษณ์ว่า พระพุทธศาสนาเริ่มหยั่งรากฝังลึกลงบนดินแดนแห่งนี้แล้ว ทำให้วัดไทยเกิดขึ้นอีกมากมายในเวลาต่อมา เช่น วัดพุทธาราม เนเธอร์แลนด์ วัดพุทธาราม กรุงสต๊อกโฮล์ม วัดพุทธาราม เฟรดิก้า วัดสยามินทร์มังคลาราม ประเทศสวีเดน วัดไทยนอร์เวย์ ประเทศนอร์เวย์ วัดไทยเดนมาร์ค กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ค วัดไทยฟินแลนด์ กรุงเฮลซิงกิ วัดไทยเบอร์ลิน ประเทศเยอรมัน วัดไทยไอซแลนด์ และวัดไทยเบลเยียม ซึ่งขยายวัดออกไปอีกถึง ๓ วัดในลักซัมเบิร์ก ในเวลาต่อมา
วัดพุทธาราม เนเธอร์แลนด์ นับได้ว่า เป็นวัดไทยแห่งแรกในยุโรป และเป็นศูนย์ฝึกพระธรรมทูตให้รู้จักวิธีการดำรงชีวิตในประเทศแถบสแกนดิเนเวีย จากนั้น พระธรรมทูตก็จะถูกส่งออกไปปฏิบัติศาสนกิจในประเทศต่างๆ ในแถบนี้
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2023/01/LINE_ALBUM_เจ้าประคุณสมเด็จ_๒๓๐๑๑๑_59-1024x812.jpg)
พระพุทธศาสนาในประเทศสวีเดน เป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับการตอบรับจากประชาชนอย่างดียิ่ง และเป็นประเทศแรกในโลกตะวันตก ที่ทั้งภาครัฐและเอกชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างวัด โดยดำริจะให้มีวัดไทยเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้พระพุทธศาสนาในประเทศของตน และได้จัดสรรพื้นที่ให้กว่า ๒๗๐ ไร่ เพื่อดำเนินการสร้างวัดไทย การที่ภาครัฐและเอกชนของประเทศสวีเดน ได้เข้ามาดูแลการสร้างวัดไทยเช่นนี้ จึงเป็นสิ่งที่น่าภูมิใจสำหรับชาวไทยที่นับถือพระพุทธศาสนา หากเอาเงินไทยไปสร้างวัดให้ฝรั่ง จะต้องนำเงินไทยออกจากประเทศจำนวนมหาศาลจึงจะสร้างวัดได้สักวัดหนึ่ง
การสร้างวัดไทยในต่างประเทศ โดยเฉพาะทางด้านยุโรป พระสงฆ์ได้ใช้เงินไทยน้อย โดยใช้เงินประเทศนั้นเพื่อสร้างวัดประเทศนั้น ซึ่งเป็นการให้ฝรั่งสร้างวัดพระพุทธศาสนาให้ฝรั่งเอง เพราะเจ้าของผู้สร้างจะได้เกิดความรักความผูกพันในสิ่งที่เขาสร้างขึ้นมา จะทำให้วัดไทยมีความมั่นคง ได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างดี
เจ้าประคุณสมเด็จฯ จึงวางเป็นแนวทางการสร้างวัดสำหรับพระธรรมทูตไว้ว่า
![ประชุมพระธรรมทูตสายต่างประเทศ ๔ ทวีป (Conference Thai Overseas Going Dhammaduta Bhikkhus in Four Continents) ณ ห้องประชุมของโรงแรม PARK ROYAL ประเทศสิงคโปร์ วันที่ ๑๓ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๖๑](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/06/09KLE6S1_28052019-377.jpg)
“พระสงฆ์ไปปฏิบัติงานประเทศใดต้องใช้เงินของประเทศนั้นสร้างวัด เพราะถ้าจะเอาเงินไทยไปสร้างวัดในต่างประเทศ เราจะต้องเอาเงินบาทออกนอกประเทศเท่าไรจึงจะสร้างวัดได้วัดหนึ่ง ค่าเงินบาทกับเงินต่างประเทศแตกต่างกันมาก พระสงฆ์ที่ไปอยู่ต่างประเทศจึงต้องเก่งและมีความอดทนสูง”
ในปี ๒๕๐๘ เจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช (อยู่ ญาโณทยมหาเถระ) มีบัญชาให้เป็นผู้แทนพระองค์ท่านเดินทางไปร่วมพิธีฉลองอัฐิธาตุ ๑,๐๐๐ ปี พระอติษ ทีปังกร ศรีชญาณเถระ ตามคำนิมนต์ของรัฐบาลจีน และในโอกาสเดียวกันได้เดินทางตามเส้นทางสายไหมต่อไปยังปากีสถานและอัฟกานิสถาน โดยความอุปถัมภ์ของพุทธสมาคมจีน เพื่อศึกษาเส้นทางประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา สำหรับพระอติษ ทีปังกร ศรีชญาณเถระ เป็นพระเถระชาวปากีสถานมีชีวิตอยู่เมื่อ ๑,๐๐๐ ปี ที่แล้ว ได้เดินทางไปเผยแผ่พระศาสนาในจีนและธิเบต จนเป็นที่เคารพศรัทธาของประชาชนชาวจีนและชาวธิเบต โดยมีความเชื่อว่า ท่านเป็นพระโพธิสัตว์กลับชาติมาเกิด เพื่อขนมวลสรรพสัตว์ข้ามสังสารวัฏ
![เจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญโญ) , เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) และ พระพรหมคุณาภรณ์ (ปัจจุบัน สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต))](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2023/01/LINE_ALBUM_เจ้าประคุณสมเด็จ_๒๓๐๑๑๑_65.jpg)
ต่อมา ในปี พ.ศ. ๒๕๑๕ เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ได้เดินทางไปสังเกตการณ์พระพุทธศาสนาตามมหาวิทยาลัยต่างๆ ในสหรัฐอเมริกา ตามคำนิมนต์ของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา โดยคณะผู้ร่วมเดินทาง ประกอบด้วย เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) เป็นหัวหน้าคณะ เจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญโญ) และ พระพรหมคุณาภรณ์ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต) เป็นเหตุให้เห็นหนทางในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ได้เกิดการวางรากฐานพระพุทธศาสนา และเกิดวัดไทยขึ้นทั่วประเทศสหรัฐอเมริกา โดยอาศัยสมาคมชาวไทยต่างๆ เช่น สมาคมชาวไทยอีสาน สมาคมชาวไทยเหนือ และสมาคมชาวไทยทักษิณ ตลอดจนนักศึกษาในอเมริกา
![พระพรหมคุณาภรณ์ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต)ปัจจุบัน สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์, เจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญโญ) และ เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ)](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2023/01/LINE_ALBUM_เจ้าประคุณสมเด็จ_๒๓๐๑๑๑_57-1024x755.jpg)
การเดินทางไปปฏิบัติศาสนกิจในดินแดนฝั่งตะวันตก ไกลออกไปถึงสหรัฐอเมริกา นับเป็นการเดินทางเผยแผ่พระพุทธศาสนารอบโลก ที่ไกลที่สุด เป็นครั้งแรก ในประวัติศาสตร์การเผยแผ่พระศาสนาของคณะสงฆ์ หลังสิ้นสุดยุคพระธรรมทูตทั้ง ๙ สาย ของพระเจ้าอโศกมหาราช รวมระยะเวลาเดินทางถึง ๘๐ วัน ใน ๑๑ ประเทศ ประกอบด้วย ประเทศญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ เบลเยี่ยม เยอรมัน เดนมาร์ก สวิสเซอร์แลนด์ อิตาลี กรีก และอินเดีย
![พระพุทธศากยมุนี ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ พระราชทานให้ประเทศญี่ปุ่น พร้อมกับพระบรมสารีริกธาตุ](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2022/11/FC68B192-811F-46F0-A123-C53324D72A26-2-630x1024.jpg)
และ ในปีเดียวกันนี้ ภายหลังกลับจากเดินทางรอบโลก เจ้าประคุณสมเด็จฯ ได้ไปสังเกตการณ์พระศาสนาในประเทศญี่ปุ่นอีกครั้ง เพื่อตามรอยเส้นทางพระบรมสารีกธาตุ รศ. ๑๑๖ ซึ่งขุดพบที่กรุงกบิลพัสดุ์ ประเทศอินเดีย ส่วนเดียวกับที่ประดิษฐานอยู่บนบรมบรรพต (ภูเขาทอง) พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ พระราชทานแก่ประเทศที่นับถือพระพุทธศาสนาต่างๆ เช่น ลังกา พม่า ลาว ญี่ปุ่น เกาหลี และไซบีเรีย เป็นต้น โดยเจ้าประคุณสมเด็จฯ ได้เดินทางไปตามเมืองที่สำคัญต่างๆ ของญี่ปุ่น จนถึงเมืองนาโกย่า แล้วเข้านมัสการพระบรมสารีริกธาตุ ณ พระเจดีย์ วัดนิไทจิ
![สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) จาริกธรรมไปปฏิบัติศาสนกิจวัดนิไทจิ ประเทศญี่ปุ่น ตามเส้นทางพระบรมสารีริกธาตุ](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2022/11/3E5E0C24-CAD5-4BE6-933E-8A0939CB34CF-2-744x1024.jpg)
#เมื่อท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ ได้รับตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดสระเกศ ได้สร้างอาคารหลังหนึ่งขึ้นภายในบริเวณวัด และให้ชื่อว่า “อาคารอนุสรณ์สมเด็จฯ ญาโณทยมหาเถระ พ.ศ.๒๕๑๗” เพื่อเป็นที่พักพระสงฆ์ต่างประเทศ ที่เข้ามาศึกษาเล่าเรียนพระพุทธศาสนาในประเทศไทย ให้ได้รับความสะดวกสบายในเรื่องที่อยู่อาศัย ก็เพื่อเป็นอนุสรณ์ แด่ ท่านเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช (อยู่ ญาโณทยมหาเถร) พระอาจารย์ผู้จุดประกายความคิดที่จะให้พระพุทธศาสนาแผ่ไพศาลไปในโลกตะวันตก ซึ่งอาคารดังกล่าวได้มีพระสงฆ์จากประเทศลาว กัมพูชา พม่า จีน ญี่ปุ่น เวียดนาม ไต้หวันเนปาล และบังคลาเทศ เป็นต้น เข้ามาพำนักอยู่เรื่อยมา หลังจบการศึกษา บางรูปเดินทางกลับประเทศของตน บางรูปได้ทำหน้าที่เป็นพระธรรมทูตในนามพระสงฆ์ไทยเดินไปเผยแผ่พระศาสนายังประเทศตะวันตก
![สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) และคณะสงฆ์ วางรากฐานการสร้างวัดในทวีปยุโรป ปฏิบัติศาสนกิจประเทศในแถบสแกนดิเนเวีย](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2022/11/F1133175-C120-4AB8-A1BF-079A4030091D-2-1024x735.jpg)
แม้การเผยแผ่พระพุทธศาสนาในต่างประเทศ การตั้งวัดในต่างประเทศ และการที่จะให้มีพระธรรมทูตไปประจำที่ต่างประเทศ ในยุคแรกเริ่ม ต้องพบกับอุปสรรคปัญหานานาประการ
แต่ที่สุด เจ้าประคุณสมเด็จฯ ก็สามารถนำพาพระธรรมทูตสายต่างประเทศ ก้าวข้ามห้วงเวลาแห่งความยากลำบากไปได้ ทุกครั้งที่มีผู้ตำหนิพระธรรมทูตต่างประเทศ เจ้าประคุณสมเด็จฯ ก็จะกล่าวด้วยแววตาอ่อนโยนเสมอว่า
“ คนไทยไปเมืองนอกเพื่อไหว้ฝรั่งแต่พระไปเมืองนอกเพื่อให้ฝรั่งไหว้ “
แม้เช่นนั้น การสร้างวัดในต่างประเทศ ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย พระธรรมทูตต้องทำงานอย่างน่าสงสาร ต้องทุ่มเทสรรพกำลังความสามารถ ต้องใช้เงินจำนวนมหาศาล และ ต้องเสียสละทุกสิ่งทุกอย่าง แม้กระทั่งชีวิต กว่าจะสร้างวัดได้แต่ละวัด
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2023/01/LINE_ALBUM_เจ้าประคุณสมเด็จ_๒๓๐๑๑๑_38.jpg)
เจ้าประคุณสมเด็จฯ ให้ความสำคัญกับการศึกษา พระเณรต้องเรียน เรียนอะไรก็ได้ ที่ไม่ขัดต่อพระธรรมวินัย เพราะพระเณรจะเป็นผู้รักษาพระศาสนา และเน้นให้ทำงานช่วยกันปลูก จิตสำนึกด้านคุณธรรม จริยธรรม และศีลธรรมให้กับเยาวชนและประชาชนในชาติ ซึ่งหนทางนี้เท่านั้น จะช่วยให้เกิดความมั่นคงแก่พระศาสนา จึงเป็นจุดเริ่มต้นการจัดตั้ง “สำนักงานส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมและความมั่นคงแห่งสถาบันชาติพระศาสนาพระมหากษัตริย์”
![กราบขอบพระคุณ ภาพสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสณมหาเถร ป.ธ.๙) เปิดสำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคงแห่งสถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ วัดสระเกศฯ ในปี พ.ศ.๒๕๕๑](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2021/08/13100831_1082392061817949_2012637186067318762_n.jpg)
แม้ในยามที่ร่างกายโรยแรง เริ่มชราภาพลง แต่ข่าวคราวที่พระสงฆ์สามเณรและชาวพุทธ ถูกฆ่าที่ภาคใต้ กลับเพิ่มความรุนแรงมากขึ้น พระธรรมทูตอาสา ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน ๒๖๐ รูป ในสะตูล สงขลา ยะลา นาราธิวาส และปัตตานี จึงถูกก่อตั้งขึ้นตามดำริของเจ้าประคุณสมเด็จฯ เพื่อปลุกจิตสำนึกให้พระสงฆ์ร่วมกันทำงาน ในพื้นที่เสี่ยงภัย นับตั้งแต่ ปี พ.ศ.๒๕๕๓ เป็นต้นมา
![เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) และคณะพระธรรมทูตอาสา ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2020/08/พระครูประโชติ2.jpg)
เจ้าประคุณสมเด็จฯ ได้ประทานโอวาท แก่ พระธรรมทูตอาสา ว่า “หากไม่มีพระสงฆ์ ในพื้นที่ ชาวพุทธก็หมดที่พึ่ง …ก็ชื่อว่า พระพุทธศาสนาได้หมดไปแล้ว ขอให้ทุกองค์หนักแน่น มั่นคง อยู่เป็นกำลังใจให้ชาวพุทธ ถึงแม้วันหนึ่งวันใดข้างหน้า พระพุทธศาสนาจะหมดไปจาก ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็ขอให้วันนั้น #มีพระสงฆ์เดินออกจากพื้นที่เป็นคนสุดท้าย”
![สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) มอบโล่เกียรติคุณแก่ พระครูประโชติรัตนานุรักษ์ (สว่าง จนฺทวํโส) ประธานเครือข่ายพระธรรมทูตอาสาจังหวัดนราธิวาส ปี ๒๕๕๕](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2020/08/พระครูประโชติ-1222.jpg)
นับเป็นแสงแห่งจิตวิญญาณความมั่นคงพระพุทธศาสนา แสงสุดท้าย ที่เจ้าประคุณสมเด็จฯ ได้ถ่ายทอดจิตวิญญาณความรักในพระพุทธศาสนา ผ่านพระธรรมทูตอาสา อันเป็นอมตะวาจาที่จะตรึงใจเหล่าพุทธบุตร ผู้ทำหน้าที่พระธรรมทูตอาสา ไปตราบนานเท่านาน
ความสำเร็จของการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในต่างประเทศทั่วโลก จนพระพุทธศาสนาเบ่งบานกลางหิมะในโลกตะวันตกอย่างแข็งแกร่ง เกิดจากการวางรากฐานที่สำคัญของเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) ผู้ริเริ่มการเผยแผ่พระพุทธศาสนาไปทั่วโลก ริเริ่มการสร้างวัดไทยในต่างประเทศ และริเริ่มให้มีการฝึกอบรมพระธรรมทูตไปประจำ ณ วัดไทยในต่างประเทศ เป็นเหตุให้พระสงฆ์ผู้ปฏิบัติหน้าที่เป็นพระธรรมทูตได้ยึดเป็นแนวทางอันเดียวกัน เป็นที่มาแห่งความสำเร็จของงานพระศาสนาในต่างประเทศ นับได้ว่า เจ้าประคุณสมเด็จฯ เป็นผู้เปิดวิสัยทัศน์ธรรมสู่วิสัยทัศน์โลก ทำให้พระพุทธศาสนาแผ่ไพศาลไป เป็นที่พักพิงทางด้านจิตใจแก่ชาวไทย และประชาชนในต่างประเทศทั่วโลก
![เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสณมหาเถระ) อดีตประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช, อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2023/01/IMG_959099999-1024x684.jpg)
เรื่องราวทั้งหมดเหล่านี้ จะถูกจดจำ เล่าขานถ่ายทอดสืบต่อกัน จนกลายเป็นตำนาน จากตำนานกลายเป็นประวัติศาสตร์ จากประวัติศาสตร์กลายเป็นความทรงจำของโลก
ที่สุดแล้ว นามของพระมหาเถระท่านนี้ ก็จะถูกจารึกบนหน้าประวัติศาสตร์แห่งความทรงจำของโลก ในนามผู้นำพระพุทธศาสนาไปประดิษฐานยังแผ่นดินตะวันตกอันไกลโพ้น ตลอดไป
![พระครูอมรโฆสิต (ปรีชา สาเส็ง) และ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ)](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2022/03/1F850FDA-068B-47B1-9C99-0FB76DCBFA16-2999-1024x899.jpg)