จาริกธรรมในอเมริกา ตอนที่ ๒๓

 เรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร

โดย พระครูสมุห์สุพัฒน์  อนาลโย

ความผิด เสียใจ ใจหดหู่ ไม่สมหวัง ไม่ได้ดั่งใจต้องการ เหมือนมีอะไรมาขัดขวางทางหรือขัดใจทำให้ไม่ประสบผลสำเร็จ

บางครั้งทำให้ติดใจกักขังตนไว้กับสิ่งนั้น และโทษตนเอง ทำไม ฉันเป็นแบบนี้ , ทำไมทำดีกับใครไม่ขึ้น หรือว่า  คิด ทำ พูด อะไรไม่ได้ดั่งใจตนเองเลย

ในการใช้ชีวิตแต่ละวันเกี่ยวข้องกับผู้คนมากมายหลายประเภทที่จะต้องเจอ และเรียนรู้ใจเขาและเราเสมอ

เราเคยสงสัยไหมว่า เราต้องมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร

ทำไมเรามาเป็นคุณครู มาเป็นมาแต่งงานกับคนนี้  ทำไมชอบวาดรูป ทำไมเป็นแม่ค้าขายของ ทำไมเราต้องมาเป็นพนักงานของบริษัท  ทำไมเราเป็นชาวสวนไร่นาล่ะ

ทั้งหมดเป็นชะตากรรม คือ การกระทำของเราที่ปรารถนาไว้ ตั้งใจไว้ หรือเป็นเป้าหมายของชีวิตที่เราเลือกชอบที่จะทำมัน หรืออยากได้มาครอบครองไว้

กรณีทำไมมาเป็นคุณครูสอนเด็กนักเรียน ก็เพราะเรามีแรงบันดาลใจจากคนที่เราใกล้ชิดหรือประทับกับคุณครูที่อบรมสั่งสอนเราดีมีน้ำใจทำให้ประทับใจ มีความสุขรู้สึกดี ก็มีความใฝ่ฝันอยากเป็นเหมือนคุณครู

ก็ตั้งจิตตั่งใจมั่นในความปรารถนานั้น ได้ศึกษาเล่าเรียนในเอกสาขาวิชาชีพครู ก็ได้มาเป็นคุณครูดั่งใจตั้งไว้

นี่เพราะชะตากรรมลิขิตไว้ก็คือ การกระทำของเราล้วนๆ นั่นเอง

ทำไมเราต้องมาแต่งงานกับคนนี้ มันเป็นเรื่องของคนสองคนที่มีความรักปรารถนายินดีและยอมปล่อยจิตปล่อยใจให้อีกฝ่ายหนึ่ง อีกฝ่ายก็ตอบสนองความรักนั้น จากใจดวงหนึ่งมารวมกันก็กลายมาเป็นสองดวง  เป็นที่มาของการศึกษาดูใจช่วงเล่าเรียนดูใจกัน  เข้ากันได้ไหม  ยอมรับกันได้ไหม

 ระยะเวลาระหว่างที่ต้องศึกษาดูใจกันมันมีทั้งสุข ทุกข์ หัวเราะ ร้องไห้ รอคอย ห่วงใย หึงหวง ผ่านช่วงนี้ไปได้ เข้าใจกันยอมรับข้อดีเสียกันได้ จิตใจมั่นคงต่อกัน แล้วก็ตกลงปลงใจแต่งงานกัน มีลูกสร้างครอบครัวด้วยกัน

นี่เพราะชะตากรรมแห่งกามเทพมาดลใจหรือ แรงปรารถนาของเราทั้งสองฝ่ายที่จะเลือกใช้ชีวิตด้วยกันนั้นเอง

ภาพวาด โดย พระครูสมุห์สุพัฒน์ อนาลโย
ภาพวาด โดย พระครูสมุห์สุพัฒน์ อนาลโย

อย่างไรก็ตาม ทำไมที่เราชอบ ที่เราเป็นอยู่นั้น อย่าโทษชะตากรรมเลย ให้เราเฝ้าดูสังเกตดูใจตนเอง ดูการกระทำมันจะบ่งบอกชี้ทางของชีวิตว่าจะไปในเส้นทางใด

เราเลือกการกระทำและมีแรงปรารถนาที่จะเป็นครู หรือเลือกคู่แต่งงานกับใครสักคน ให้ยอมรับในสิ่งที่เราเลือก สิ่งนั้นยอมมีโอกาสสมหวังและผิดหวัง

ชีวิตมันเลือกได้  ผิดหวังก็แก้ไขทำใหม่

สมหวังพัฒนาให้มันขึ้นไปเรื่อยๆ

สรุป ไม่ว่าอาชีพสาขาไหน มันขึ้นกับการกระทำของตนทั้งนั้น จะสำเร็จหรือไม่ มันไม่ใช่แค่การรอคอยวาสนาชะตากรรม แต่มันคือการกระทำของตนล้วนๆ ชะตากรรมคือการกระทำ ตนคือผู้เลือก เป็นชะตากรรมนั้นต่างหาก

ดั่งสอนที่ว่า ตนแลเป็นที่พึ่งของตน

อยากเป็นอะไรอย่างไรก็เลือกทำตนเอง ยอมรับชะตากรรมที่ตนเลือก อย่าโทษชะตากรรม จงโทษการกระทำของเองดีกว่า

“จ๊อด” ๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๓

จาริกธรรมในอเมริกา (ตอนที่ ๒๓) เรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร โดย พระครูสมุห์สุพัฒน์ อนาลโย

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here