
วันนี้วันพระ วันอาทิตย์ที่ ๒๕ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ แรม ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๐
ศึกษาปฏิปทาพระมหาเถระผู้เป็นประวัติศาสตร์ความทรงจำพระพุทธศาสนาโลก
ร่องรอยความทรงจำแห่งอดีต
บอกเล่าปฏิปทาในการครองตน ครองคน ครองงาน
เพื่อจรรโลงความดีงาม ตามครรลอง “วิถีแห่งผู้นำ”

“ปูชา จ ปูชนียานํ เอตมฺมงฺคลมุตฺตมํ.
ขอนอบน้อมแด่ครู พระอุปัฌชาย์ อาจารย์
ผู้ให้ชีวิตในพระศาสนาของพระพุทธองค์ ด้วยเศียรเกล้าฯ”

สำหรับสองบทนี้ผู้เขียนสรุปสาระสำคัญบางประการเกี่ยวกับที่มาของ “คมความคิด” และจุดกำเนิดสำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคงแห่งสถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์

วิถีแห่งผู้นำ
: สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสณมหาเถร)
๗๒. คมความคิด ๗๓. ความสัมพันธ์ของวัดกับชุมชน
: เรียบเรียงโดย พระครูอมรโฆสิต (ปรีชา สาเส็ง)

๗๒.คมความคิด
“ทำพระเณรตนเองให้ดี”
เจ้าประคุณสมเด็จฯ ให้ความสำคัญกับการศึกษา โดยกล่าวว่า พระ-เณรต้องเรียน เรียนอะไรก็ได้ ที่ไม่ขัดต่อพระธรรมวินัย เพราะพระ-เณรจะเป็นผู้รักษาพระศาสนา และเน้นให้ทำงานช่วยกันปลูกจิตสำนึกด้านคุณธรรม จริยธรรม และศีลธรรมให้กับเยาวชนและประชาชนในชาติ ซึ่งหนทางนี้เท่านั้น จะช่วยให้เกิดความมั่นคงแก่พระศาสนา จึงเป็นจุดเริ่มต้นการจัดตั้ง “สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคง แห่งสถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์”

หลวงพ่อเจ้าประคุณสมเด็จฯ มองเห็นความสำคัญในการที่จะสืบต่ออายุกาลพระพุทธศาสนานั้น จะต้องเริ่มต้นด้วยการส่งพระภิกษุสามเณรได้ศึกษาเล่าเรียนให้มีคุณภาพทางการศึกษา ดังโอวาทธรรมของหลวงพ่อ ได้กล่าวทุกๆ คืนภายในพระอุโบสถ
“ ต้องเรียนหนังสือ ยังไม่อาวุโส อย่างพึ่งคิดเรื่องการทำงาน เมื่อเข้าช่วงวัยศึกษาต้องแสวงหาความรู้ ถือว่าเป็นหน้าที่ต้องประพฤติปฏิบัติเพื่อให้ได้รับการศึกษา”

หลวงพ่อได้ให้การสนับสนุนการศึกษาพระภิกษุสามเณรเป็นประจำทุกปี เพื่อให้ได้รับการศึกษาอันจะเป็นแนวทางในการพัฒนาตนเอง เนื่องจากการศึกษาจะสอนให้เราได้บุคคลที่มีกิริยามารยาทที่งดงาม มีวาจาที่อ่านหวาน พูดจาไพเราะ มีหลักการของเหตุผล มีภูมิความรู้ที่เต็มศักยภาพ ถือว่าเป็นการทำประโยชน์ส่วนตนได้สมบูรณ์
หลังการที่ได้พัฒนาตน ทำประโยชน์ส่วนตนสมบูรณ์แบบแล้ว ต้องฝึกฝนตนเองอยู่เสมอ เพื่อให้ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการช่วยเหลืองานวัด ช่วยทำงานร่วมกับชุมชน ให้เป็นที่พึ่งเขาได้ เมื่อเขาลำบากทั้งทางกาย ทางใจ เราจะได้มีวิธีในการช่วยเขาได้แก้ไขปัญหาอุปสรรคของความทุกข์นั้นได้ คือ
“เอาใจเขามาใส่ใจเรา”
ในการพัฒนาบูรณปฏิสังขรณ์วัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร หลวงพ่อเจ้าประคุณสมเด็จฯ ท่านจะทำไปเรื่อยๆ ค่อยบูรณะในแต่ละที่ทีละส่วน เพื่อจะได้ไม่เบียดเบียนคนอื่นมากเกินไป เพราะว่าหลวงพ่อไม่อยากที่จะไปรบกวนจตุปัจจัยของชาวบ้าน หรือของชุมชน มีเงินก็ค่อยทำไป ทำในส่วนที่สำคัญก่อน มีการวางแผนในการบูรณะวัดเพื่อให้มีความงดงาม พร้อมกับช่วยเหลือชุมชน ประชาชน ให้ได้รับความความสุขในการมากราบไหว้พระ

๗๓. ความสัมพันธ์ของวัดกับชุมชน
เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ มีชีวิตอยู่อย่างสมถะเรียบง่าย ปฏิปทาที่ยึดถือปฏิบัติมาตลอดชีวิต คือ “ไม่บอกบุญ ไม่เรี่ยไร ไม่สร้างวัตถุมงคลใดๆ” ตลอดชีวิตเจ้าประคุณสมเด็จจึงไม่เคยเอ่ยปากขอให้ใครสร้างอะไรให้ท่าน และไม่สร้างวัตถุมงคลใดๆ ส่วนใครจะสร้างท่านก็ไม่ว่าอะไร ถือเป็นการอนุเคราะห์ตามคติโลก เพียงแต่ตัวท่านไม่สร้าง หากใครมาขออนุญาตสร้าง ท่านก็เมตตาอนุญาต

การส่งพระภิกษุสามเณรไปทำงานร่วมกับชุมชน เพื่อพระสงฆ์จะได้ตอบแทนชุมชมได้ให้ความอุปถัมภ์พระพุทธศาสนา หลวงพ่อมองว่าการจะเชื่อมกับชุมชนได้ดี ต้องช่วยเหลือชุมชนให้มาก สิ่งไหนที่เราพอที่จะช่วยได้ให้เข้าไปช่วย เช่น ไปให้ธรรมะ ไปให้กำลังใจ ช่วยเหลือแบ่งปันแจกของอุปโภคบริโภคในสิ่งที่เขาจำเป็นต้องกินต้องใช้ให้กับชุมชน
