จิรํ ติฏฺฐตุ พุทธสาสนํ ฯ
ขอพระพุทธศาสนาจงดำรงอยู่ตลอดกาลนาน
ญาณวชิระ
ทำไม…ลูกผู้ชายต้องบวช (ตอนที่ ๒๒)
บรรพ์ที่ ๔ ขั้นตอนการบรรพชา และ อุปสมบท
(๕) “การทำประทักษิณ (เดินเวียนขวารอบสีมา) ”
โดย ญาณวชิระ
การทำประทักษิณ(เดินเวียนขวารอบสีมา)
การทำประทักษิณ คือ การกระทำที่สุจริตถูกต้องชอบธรรมทั้งทางกาย ทางวาจา และทางใจ การหมุนไปทางขวา คือ การหมุนไปสู่ความดีทั้งทางกาย วาจา และใจ ตรงกันข้ามกับการหมุนไปด้านซ้ายเป็นการหมุนทวนความดี คือ การกระทำที่เป็นทุจริตทางกาย วาจา และใจ
การทำประทักษิณเวียนขวารอบสีมาก่อนเข้าโบสถ์บวชเป็นพระภิกษุ นอกจากจะเป็นการแสดงความเคารพตามธรรมเนียมโบราณแล้ว ยังเป็นอุบายที่คนโบราณสอนให้รู้ว่า สิ่งที่จะทำต่อไปนี้เป็นการกระทำที่สุจริตถูกต้องชอบธรรมทั้งทางกาย ทางวาจา และทางใจ
นอกจากนั้น การทำประทักษิณก่อนเข้าสู่พิธีอุปสมบท ยังเป็นช่วงเวลาให้นาคได้มีโอกาสทำสมาธิ รวบรวมจิตใจไม่ให้ตกประหม่าตื่นเต้นจนเกินเหตุ ญาติของนาคจึงไม่ควรส่งเสียงหรือโห่ร้อง ร้องรำทำเพลง ประโคมดนตรี อันจะเป็นการรบกวนสมาธิของนาค
การทำประทักษิณเวียนขวารอบสีมา เป็นการแสดงความเคารพ เพื่อให้ผู้บวชก้าวไปสู่ความดีงาม จึงไม่ควรให้นาคขี่คอ ขึ้นคานหาม หรือแบกหามซึ่งจะดูไม่เรียบร้อย หากพลัดตกลงมาอาจเป็นอันตรายจนถึงบวชไม่ได้ จึงควรให้นาคเดินตามปกติ
คติเกี่ยวกับการให้นาคขี่คอ สืบเนื่องมาจากความเชื่อที่ว่าพระพุทธเจ้าออกผนวชด้วยการขี่ม้ากัณฑกะ จนได้ตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ เที่ยวสั่งสอนเวไนยสัตว์ ในสมัยต่อมาผู้ที่จะบวชจึงนิยมขี่ม้าแห่แหนกันอย่างเอิกเกริกก่อนเข้าโบสถ์ประกอบพิธีอุปสมบท
แต่เนื่องจากบางท้องถิ่นหาม้าได้ไม่ง่าย จึงให้นาคขี่คอคนแทนม้า บางแห่งให้นาคนั่งบนเตียงที่มีคนหามแทนการขี่คอ จึงกลายเป็นประเพณีที่ยอมรับสืบทอดกันอย่างกว้างขวาง ว่าผู้ที่จะบวชต้องขี่คอ เสมือนหนึ่งพระพุทธองค์ขี่ม้าออกผนวช
เนื่องจากการเดินเวียนขวารอบสีมาเป็นการแสดงความเคารพตามธรรมเนียมโบราณ จะใช้เฉพาะกรณีที่ต้องการแสดงความเคารพเป็นกรณีพิเศษเท่านั้น ผู้บวชจึงต้องให้ความสำคัญอย่างมาก
ข้อปฏิบัติที่เหมาะสมเกี่ยวกับการเดินประทักษิณเวียนขวารอบสีมาควรปฏิบัติ ดังนี้
เมื่อแต่งชุดนาคเสร็จแล้ว ให้นาคประณมมือโดยมีดอกไม้ที่เตรียมไว้อยู่ในมือเดินทำประทักษิณ *(๑) (เวียนขวา) รอบพระอุโบสถ ๓ รอบ จะมีผู้กั้นสัปทนให้นาคก็ได้ การทำประทักษิณให้เริ่มต้นจากสีมาตรงกลางด้านหน้าอุโบสถ (เริ่มจากสีมาที่จะวันทา) ส่วนญาติๆ ถือบริขารพร้อมทั้งเครื่องไทยทานที่จัดเตรียมไว
ตามความนิยมโดยทั่วไป บิดาสะพายบาตรถือตาลปัตร ส่วนมารดาถือพานแว่นฟ้าสำหรับใส่ผ้าไตรครองเดินตามหลังนาค แถวถัดมาเป็นธูปเทียนแพ เครื่องไทยทานสำหรับพระอุปัชฌาย์และพระคู่สวด และเครื่องบริขารอย่างอื่นโดยลำดับ ในขณะเดินให้นาคสวดบทพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ ดังนี้
“อิติปิโส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ ฯลฯ”
หรือจะภาวนา “พุทโธ” ตามจังหวะเท้าที่ก้าวย่างก็ได้
การวันทาสีมา
เมื่อเดินครบ ๓ รอบแล้ว นาคต้องวันทาสีมาหน้าอุโบสถก่อนเข้าไปในเขตสีมา โดยเริ่มต้นตามขั้นตอนการวันทาต่อไปนี้
นาควางดอกไม้เครื่องสักการะไว้บนพานที่เตรียมไว้ บางแห่งให้จุดธูปเทียนด้วย แต่โดยมากนิยมให้ดอกไม้ธูปเทียนไว้บนพานหรืออุปกรณ์อย่างอื่นที่จัดเตรียมไว้ โดยมากไม่จุดธูปเทียน นาคกราบสีมา ๓ หน แล้วยืนขึ้นว่า
คำวันทาสีมา
อุกาสะ วันทามิ ภันเต // สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต// มะยา กะตัง ปุญญัง สามินา อนุโมทิตัพพัง// สามินา กะตัง ปุญญัง มัยหัง ทาตัพพัง// สาธุ/ สาธุ / อนุโมทามิ ฯ
คำแปล
ขอโอกาสขอรับ กระผมขอกราบไหว้ ท่านขอรับ ขอท่าน จงยกโทษที่ได้ล่วงเกินทั้งปวงให้กระผมด้วย ขอท่านโปรดอนุโมทนาบุญที่กระผมได้กระทำ และขอท่านโปรดให้บุญที่ท่านได้ทำแก่กระผมด้วย สาธุ สาธุ กระผมขออนุโมทนา
นั่งคุกเข่าประนมมือว่า
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต // อุกาสะ ทะวารัตตะเยนะ กะตัง / สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต ฯ
คำแปล
ท่านขอรับ ขอท่านโปรดยกโทษที่ได้ล่วงเกินทั้งปวงให้กระผมด้วย ท่านขอรับ ขอท่านโปรดยกโทษที่ได้ล่วงเกินทั้งปวง ที่กระผมได้ทำทางทวารทั้ง ๓ ทาง (คือ กาย วาจา และใจ)
กราบ ๑ หน แล้วยืนขึ้นว่า
วันทามิ ภันเต // สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต // มะยา กะตัง ปุญญัง สามินา อนุโมทิตัพพัง// สามินา กะตัง ปุญญัง มัยหัง ทาตัพพัง// สาธุ / สาธุ / อนุโมทามิ ฯ
คำแปล
ท่านขอรับ กระผมขอกราบไหว้ ขอท่านโปรดยกโทษที่ได้ล่วงเกินทั้งปวงให้กระผมด้วย ขอท่านโปรดอนุโมทนาบุญที่กระผมได้กระทำ และขอท่านโปรดให้บุญที่ท่านได้ทำแก่กระผมด้วย สาธุ สาธุ กระผมขออนุโมทนา
นาคนั่งคุกเข่ากราบ ๓ หน จากนั้นเข้าไปภายในพระอุโบสถ ในขณะเข้าประตูโบสถ์ไม่ควรยกนาคข้ามธรณีประตู หรือยกขึ้นเพื่อเอามือแตะคานประตูตามที่นิยมปฏิบัติกันโดยขาดความเข้าใจ เพราะอาจพลัดตกลงมาแขนขาหักได้ ให้นาคเดินเข้าโบสถ์ตามปกติ โดยบิดามารดาและญาติจะแตะที่ตัวนาคตามเข้าไปก็ได้
การโปรยทาน
การโปรยทาน หมายถึง การสละเงินทองทรัพย์สมบัติเป็นทานแก่ผู้อื่นโดยไม่หวังผลตอบแทน โดยถือคติตามที่พระพุทธเจ้าทรงสละราชสมบัติออกผนวช ไม่ปรารถนาแม้ความเป็นพระเจ้าแผ่นดิน การโปรยทานก่อนเข้าโบสถ์ เป็นการแสดงว่า ต่อจากนี้ไปนาคได้สละสมบัติทุกอย่างแล้ว เพื่อดำเนินชีวิตตามแบบอย่างองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นอกจากนั้น การโปรยทานยังเป็นการสอนคนให้รู้จักเสียสละโดยปราศจากเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น
การโปรยทานนั้นจะมีก็ได้ไม่มีก็ได้ ไม่ใช่ข้อกำหนดตายตัว เนื่องจากไม่ใช่พิธีที่เกี่ยวเนื่องกับการบวช ถึงไม่มีการโปรยทานก็บวชสำเร็จเป็นพระได้
ดังนั้น วัดใหญ่ๆ บางวัด ที่มีแบบแผน และเป็นหลักในการประกอบพิธีบวช จึงไม่นิยมให้มีการโปรยทาน เพราะการโปรยทานไม่เกี่ยวเนื่องกับพิธีบวช โดยยึดเอาขั้นตอนและพิธีบวชเป็นหลัก พิธีกรรมใดไม่เกี่ยวเนื่องกับขั้นตอนการบวชก็ไม่ให้มี เพราะทำให้เกิดความไม่เรียบร้อย เกิดเสียงเอิกเกริกเฮฮา อันเป็นการแสดงความไม่เคารพต่อสถานที่
เจ้าภาพจึงควรปรึกษากับพระสงฆ์ที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลพิธีการบวชให้เข้าใจว่า วัดนั้นโปรยทานได้หรือไม่ เพราะเมื่อเตรียมของสำหรับโปรยทานมาแล้ว พอถึงเวลาปรากฏว่าทางวัดไม่อนุญาต จะได้ไม่รู้สึกเกิดความไม่สบายใจ หรือถ้าเจ้าภาพเตรียมมาแล้ว หากท่านไม่อนุญาตให้โปรยทาน จะถวายเป็นค่าน้ำค่าไฟที่วัดก็เห็นจะเกิดประโยชน์ได้เช่นกัน
*(๑) การทำประทักษิณ คือ การเดินเวียนขวา หมายถึง ขวามือพระประธาน ไม่ใช่ขวามือของนาค เป็นการแสดงความเคารพตามประเพณีโบราณ
ขอขอบคุณ ภาพการบรรพชาอุปสมบท โครงการ พระนวกะโพธิ รุ่นที่ ๖ จัดโดย สำนักงานกำกับพระธรรมทูตไปต่างประเทศ วัดสระเกศ ในขณะนั้น ร่วมกับ พระธรรมทูตสายอินเดีย-เนปาล ระหว่างวันที่ ๑๘ -๒๘ มกราคม พ.ศ.๒๕๖๐ ภาพถ่ายโดย พระมหาปฐมพงษ์ ญาณวํโส จริยธรรมแชนแนล สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคงแห่งสถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ วัดสระเกศ
(โปรดติดตามตอนต่อไป)
ญาณวชิระ เป็นนามปากกาของ ท่านอาจารย์เจ้าคุณพระราชกิจจาภรณ์ (เทอด ญาณวชิโร) ในขณะนั้น ท่านเขียนหนังสือธรรมะมากมาย แต่ละเล่มล้วนเต็มไปด้วยสารัตถะแห่งธรรมที่เข้าใจง่าย และนำมาปฏิบัติแก้ทุกข์ได้ในชีวิตประจำวัน อาทิ หนังสือทำวัตรสวดมนต์แปล ฉบับ คณะสงฆ์วัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร , หลักแห่งการทำบุญและปฏิบัติธรรมในชีวิตประจำวัน , พุทธานุภาพ อานุภาพของพระพุทธองค์ , มหาสมัยสูตร ,การ์ตูนแอนนิเมชั่น เรื่อง ปาฏิหาริย์พระบรมสารีริกธาตุ ,ทฤษฎีเบื้องต้นแห่งปรัชญาไทย, ประทีปแห่งแม่น้ำมูล , ทศชาติ ปณิธานมหาบุรุษไม่เปลี่ยนแปลง ,ตำนานภูเขาทอง , ลูกผู้ชายต้องบวช , สมาธิเบื้องต้นสำหรับชาวบ้าน ,หนึ่งหน้าประวัติศาสตร์แห่งการบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ,บามิยัน ดินแดนแห่งประวัติศาสตร์อันรุ่งเรือง และมืดมนยาวนานแห่งพระพุทธศาสนา, สุวรรณบรรพต สยามพุทธศิลป์ , พุทธชยันตี ๒,๖๐๐ ปี แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า และ ความเป็นมาของพระอภิธรรม เป็นต้น
หนังสือ “ลูกผู้ชายต้องบวช” โดย ญาณวชิระ จัดพิมพ์เป็นธรรมทานโดย สถาบันพัฒนาพระวิทยากร วัดสระเกศ / ที่ปรึกษา : พระเทพรัตนมุนี , พระครูอมรโฆสิต (ปรีชา สาเส็ง) และพระมหาธีระศักดิ์ ธีรปญฺโญ /บรรณาธิการ โดย พระมหาขวัญชัย กิตติเมธี และ มนสิกุล โอวาทเภสัชช์ / ภาพถ่ายโดย พระมหาปฐมพงษ์ ญาณวํโส ภาพวาดประกอบโดย หมอนไม้ / แบบปก – รูปเล่ม โดย พระมหาเดชา ปญฺญาคโม และ พระมหาสมบัติ ภูริปญฺโญ / ภาพปกโดย ศิลปิน พีร์ ขุนจิตกร/ ผู้อุปถัมภ์การจัดพิมพ์ บริษัท โตโยต้าบัสส์ จำกัด / ขอรับหนังสือได้ฟรีที่ศาลาหลวงพ่อดวงดี วัดสระเกศ จนกว่าหนังสือจะหมด