โรคติดเชื้อจากไวรัสโควิด -๑๙ เป็นข่าวช่วงแรกเกิดขึ้นที่เมืองอู่ฮั่นประเทศจีน ได้แพร่ระบาดไปทั่วบ้านทั่วเมืองกลายเป็นระดับโลก จนก่อให้เกิดความเดือดร้อนวิกฤตหนักถึงขั้นเสียชีวิตกันเป็นหมื่นคนแล้วทั่วโลกวันนี้
จาริกธรรมในอเมริกา
ตอนที่ ๒๖
“ โควิด ๑๙ บิดใจให้มืดมน? ”
พระครูสมุห์สุพัฒน์ อนาลโย
กลุ่มเพื่อชีวิตดีงาม สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคงแห่งสถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ วัดสระเกศ
การแพร่ระบาดของไวรัสชนิดนี้ด้วยวิธีการ จับสัมผัส การจาม เข้าทางปาก จมูก และตา คนที่ป่วยจากการติดเชื้อไวรัส มีคนบางคนตามคลิปสื่อออนไลน์ เกิดความกังวลกลัวและเห็นแก่ตัวที่เข้าไปในลิฟท์แล้วถุยน้ำลายใส่ที่กดปมหมายเลขลิฟท์ เพื่อให้คนอื่นติดเชื้อเหมือนกับตนด้วย เพราะตนไม่อยากเป็นอยากตายคนเดียว นี่คือความเห็นแก่ตัว ไม่มีจิตสำนึกในหมู่เพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
เมื่อเวลาคนปกติเข้าไปในลิฟท์กดหมายเลข เชื้อไวรัสก็ติดมือ แล้วไปจับสัมผัสอาหารเข้าปากลงท้องแล้วไปปอดก็ติดเชื้อ การเอามือจับราวบันไดในที่สาธารณะ จับประตูเข้าออก อยู่ในที่แออัดคนพลุกพล่าน รถไฟ รถบัส นี้ก็เสี่ยงเช่นเดียวกัน
จากคนสู่คนใกล้ชิด โดยเฉพาะคนในครอบครัว ประเทศไทย มีข่าวปู่ย่าที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นกลับมาเมืองไทยก็นำติดเชื้อไวรัสมาติดหลานที่ใกล้ชิด จากนั้นหลานไปโรงเรียน เพื่อนของหลาน ครูและบุคลากรในโรงเรียนก็เสี่ยงติดไวรัส ก็ต้องสั่งปิดทำความสะอาดฆ่าเชื้อกันเลยทีเดียว เจ้าไวรัสติดคนๆ เดียว เข้าสู่ครอบครัว (family) จากหนึ่งเป็นสอง จากสอง เป็นสามสี่ไปเรื่อยๆ
แม้แต่ในสหรัฐอเมริกาตอนนี้เขาก็พากันตื่นตัวมาก ถึงขั้นทางรัฐบาลเขาสั่งปิดสถานที่สุ่มเสี่ยงมีคนมากมาย เช่น โรงเรียน ร้านอาหาร ผับ-บาร์ คาสิโน เป็นต้น ในที่สุดก็ปิดประเทศ
มีคนโยมท่านหนึ่งเล่าให้ฟังว่า เวลาที่เราไปไหนมาไหน เขาเห็นว่าเราเป็นเอเชีย ฝรั่งจะจ้องมองว่าเราจะเป็นโควิดหรือเปล่า เขากลัวนำพาโควิดมาติดเขานะคะ เวลาจะจามต้องกลั้นใจไว้ หรือออกไปจามข้างนอกกลัวเขาจะว่าเอา
ปรากฏการณ์การกักตุนอาหารจากเจ้าพายุเฮอริเคนแล้วยังมีโควิดนี้ล่ะ
สองวันก่อนโยมที่วัดได้โพสต์รูปไปซื้อของกักตุนอาหารไว้ ซื้อข้าวสาร น้ำ กระดาษทิชชู (เปเปอร์ทาวน์) ที่วอมาร์ค เปรียบเสมือนแม็คโคร โลตัสบ้านเรา ปรากฏว่าข้าวของขายดิบขายดีโดยทีเดียว
เข้าสู่ยุคข้าวยากหมากแพงคนจะอดยากแก่งแย่งชิงอาหารกันกิน ต่างคนต่างอยากเอาตัวรอดไม่คิดเห็นคนอื่น คิดเห็นแก่ตนมากขึ้น
บางคนก็ตื่นตระหนกหนักใจกลัวโควิดจะติดตัวเอง ต้องเสพข่าวหาข้อมูลเพื่อป้องกันอันไหนดีเอามาหมด
การไม่ประมาทเป็นหนทางรอดของชีวิต ลดระยะทางของการเสี่ยงติดโควิด แต่ถ้าตื่นตระหนกเหมือนกระต่ายตื่นตูมมากเกินไปก็อาจจะไม่ป่วยเพราะโควิดหลอก แต่จะป่วยเป็นโรคประสาทแทนได้
ต้องมีสติกำกับชีวิตและปัญญา อันไหนเป็นวิธีการป้องกันที่ถูกต้องที่ง่ายสำหรับตนหรือปฏิบัติได้ปลอดภัยไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อตนและผู้อื่น ควรดูแลสิ่งเหล่านี้
ดูแลกาย : ปฏิบัติตนตามกฎระเบียบทางการที่กำหนดให้ปฏิบัติตามขอบเขต กฎของสังคมที่กำหนดไว้ เพื่อดูแลป้องกันกันเชื้อโควิด ต้องมีระเบียบวินัย มีจิตใจเป็นส่วนรวมมากกว่าส่วนตัว
“กินร้อนช้อนกลางล้างมือ”
สร้างภูมิคุ้มกัน รับประทานอาหารครบห้าหมู่ และออกกำลังยืดเส้นยืดสายบ้าง นอนพักผ่อนให้เพียงพอ แต่ไม่นอนแบบขี้เกียจ ระบบขับถ่ายให้เป็นปกติด้วยผลไม้ ส้ม แอปเปิล กล้วย ฝรั่ง เป็นต้น
ดูแลจิตใจ : มีสติรู้สึกตัว ไม่ประมาท ก่อนนอนสวดมนต์เสร็จเจริญสติ หรือทำสมาธิ ๒๐-๓๐ นาที เวลาทำงานดูจิตใจไม่ให้มืดมนกังวลไปกับข่าวเกี่ยวกับโควิดมากเกินไป
แต่ก็อย่าประมาท ดูแลกายให้ดีแล้ว ส่วนเรื่องจิตใจก็ไม่กังวลตื่นตระหนกตกใจจนทำอะไรไม่ได้ จิตใจเข้มแข็งมีสติปัญญาจะเอาตัวรอดจากโควิด กายก็ทำหน้าที่เลี้ยงชีวิตต่อไปได้
หากใจป่วยกายก็แย่ลง
กายป่วยใจเข้มแข็งยังมีสิทธิ์ได้ไปต่อ
กายใจป่วยอ่อนแอก็พ่ายแพ้
ชีวิตก็สิ้นหวังลมหายใจก็จบหมดลง
สุดท้าย ไวรัสโควิด ๑๙ เกิดขึ้นมา เพื่อมาบอกตอกย้ำเตือนคนให้รักกัน หรือให้รักตนเองและคนที่ใกล้ชิด ดูแลรักษาสุขภาพ ก่อนที่เราจะไม่ได้บอกรักคนที่เรารัก ก่อนที่จะไม่เห็นคุณค่าของพ่อแม่ญาติพี่น้องมิตรสหาย
และเป็นสัจธรรมว่า อย่าใช้ชีวิตอย่างประมาท ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นไปตามกฎของธรรมชาติ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป คือ การเปลี่ยนแปลงของชีวิต หรือสั้นๆว่า “ตาย” ทุกคนหนีไม่พ้น
อย่าคิดบิดใจให้มืดมนลุ่มหลงกับสิ่งหลอกล้อตามกระแสของโลกมากเกินไป ควรเปิดใจให้มีแสงของพระธรรมให้สว่างในดวงจิตใจของตนก่อนที่สิ้นลมหายใจอันสั้นนี้ไป
จ๊อด
๑๙ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๓ (ค.ศ.๒๐๒๐)
จาริกธรรมในอเมริกา (ตอนที่ ๒๖) “ โควิด ๑๙ บิดใจให้มืดมน? ” โดย พระครูสมุห์สุพัฒน์ อนาลโย กลุ่มเพื่อชีวิตดีงาม สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคงแห่งสถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ วัดสระเกศ
พระครูสมุห์สุพัฒน์ อนาลโย จากโครงการ “พระนักเขียน” จัดโดย สถาบันพัฒนาพระวิทยากร สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคงแห่ลสถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ วัดสระเกศ ในปี พ.ศ.๒๕๖๐ สู่การเขียนบทความธรรมะมาจนถึงทุกวันนี้