
หลังจากพระครูสมุห์สุพัฒน์ อนาลโย กลุ่มเพื่อชีวิตดีงาม ผ่านโครงการ “พระนักเขียน” ซึ่งจัดโดย สถาบันพัฒนาพระวิทยากร สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมและความมั่นคงแห่งชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ วัดสระเกศ ในปีพ.ศ.๒๕๖๐ ท่านก็พยายามเขียนเรื่อยๆ มาจนถึงปัจจุบัน …
จาริกธรรมในอเมริกา (ตอนที่ ๒๕) “ถ้าชีวิตมีโอกาสเลือกได้” โดย พระครูสมุห์สุพัฒน์ อนาลโย
ทุกวันนี้ การใช้ชีวิตก็ลำบาก บ้านเมืองไม่ค่อยสงบ เศรษฐกิจก็แย่ ปัญหาของสังคมก็มีเยอะมากมาย ปล้นจี้ ชิงทรัพย์ ข่มขืน เข่นฆ่ากันเหมือนไม่ใช่คน และโรคระบาดจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-๑๙ ก็มาแรงแซงโค้งไปกว่าร้อยประเทศแล้วในเวลาไม่กี่เดือน
คนมีกินก็กลัวจะตายเพราะโควิด-๑๙ ส่วนคนไม่มีจะกินก็ตกงานกันมากขึ้น ก็ไม่รู้ว่า เราจะต้องตายเพราะอะไรกันแน่ แต่ที่แน่ๆ จะต้องตายกันทุกคน ไม่ช้าก็เร็ว อันนี้เป็นความจริง มรณานุสติ พระพุทธเจ้าทรงบอกกับพระอานนท์ไว้ ทุกลมหายใจเข้าออก

ยิ่งยุคนี้ยุคของคนจิตใจตกหลุมแห่งความมืดบอดทางด้านศีลธรรม คุณงามความดีและธรรมะธัมโมที่คนหลงลืมปล่อยปละละเลย
ชีวิตเรามีทางเลือกบ้างไหมตอนนี้…
แม้แต่พ่อแม่ลูก เป็นผู้ที่มีพระคุณและให้ชีวิตเกิดขึ้นมาในโลกใบนี้นามว่า พ่อแม่ ผู้ที่มีบุญคุณต่อลูก ให้กำเนิดทั้งเป็นผู้บังเกิดเกล้า ควรเคารพบูชาอยู่เหนือหัวเป็นอย่างยิ่ง
จากข่าวเห็นว่า ลูกปลิดชีพพ่อแม่ เห็นแล้วเกิดความสลดใจ ลูกคนนั้นได้ทำกรรมหนักหมายถึงลูกคนนั้น ตกนรก ห้ามสวรรค์ ห้ามนิพพาน
ที่ว่า ตกนรก คือตายตั้งแต่ยังเป็นมนุษย์ ทำไมว่าอย่างนั้น
ลูกที่ฆ่าพ่อแม่แล้วจะเป็นบาดแผลในจิตใจ ภาพเหล่านั้นจะติดตาติดใจตลอดเวลา การใช้ชีวิตก็ไม่มีความสุข เพราะพ่อแม่ลูกมีความรักความผูกพันกันตั้งแต่เกิดจนวันตาย
เอาง่ายๆ เราไม่ได้ฆ่าท่าน แต่ท่านมาด่วนจากลาไปอย่างไม่มีวันกลับมาให้เราได้เห็นหน้าอีก เสียงก็ไม่ฟัง ร่างก็ไม่ได้กอด ความอบอุ่นก็จางหายไป เหลือไว้เพียงแค่ความทรงจำดีไว้
นี่หละคือความรักผูกพันที่มีต่อกันระหว่างพ่อแม่ลูก ได้ยินแม่ท่านหนึ่งว่า “ลูกจะดีหรือชั่ว แม่ก็ยังรักให้อภัยเสมอ”

เราเป็นลูกเคยคิดที่จะให้อภัยท่านบ้างไหม
อานุภาพแห่งความรักความผูกพันกัน จะเห็นได้ว่าพ่อแม่ตายจากเราโดยธรรมชาติ เรายังคิดถึงอดีตความหลังเก่าเลย มีทั้งเรื่องดีและไม่ดีให้ได้คิดถึงตลอด ถ้าคนที่ฆ่าพ่อแม่ภาพแห่งความทรงจำที่ทำชั่วจะไม่ผุดขึ้นในดวงจิตใจคนทำชั่วบ้างหรือ ?
เมื่อจิตตก ความเศร้าเหงา ท้อแท้ เหนื่อยล้า คิดตอกย้ำตนเอง โทษตนเอง อย่างนั้นอย่างนี้สารพัดเรื่อง ทำให้ทุกข์ใจคิดมากปวดหัว หนักใจกังวลมืดมนหาทางออกไม่ได้
ขาดสติความรู้สึกตัว ไม่รู้เนื้อรู้ตัว ไม่ยับยั้งความคิด ตามอารมณ์มากเกินกว่าเหตุ จนเกิดความทุกข์ใจ หรือหนักใจนั่นเอง
ใครที่มีพ่อแม่ดีลูกดี ญาติมิตรสหายดี ยิ่งกว่าถูกรางวัลลอตเตอรี่ที่หนึ่ง เพราะคนดีไม่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนใจให้ ยิ่งได้ใกล้ชิดรู้สึกอบอุ่นเย็นใจสบายใจ มีความสุขทั้งตนเองและคนอื่นด้วย
ชีวิตคือการมีลมหายใจเข้าออก หน้าที่ของชีวิตทำให้ชีวิตยืดยาว คุณค่าของชีวิตใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาท
เรารู้ชีวิตมันสั้นจุดจบของชีวิตคือ การหมดลมหายใจ
ถ้าคุณมีโอกาสที่จะวางแผนในการใช้ชีวิตก่อนจะตายทำอย่างไรบ้าง
หนึ่ง คุณมีความฝันเป็นของตนเองหรือยังและทำความฝันนั้นสำเร็จกี่อย่างแล้ว
สอง คุณทำให้พ่อแม่ยิ้มทั้งน้ำตาได้หรือยัง และทำให้ภาคภูมิใจในตัวตนของเราได้หรือยัง ก่อนที่เราจะไม่มีโอกาสได้พูดว่า รัก ขอบคุณ ขอโทษท่าน แม้แต่เรื่องค้างคาใจ อย่าให้ความอายมาปิดกั้นใจระหว่างเรากับพ่อแม่ ถ้ายังรีบเลยไม่รู้ว่าใครจะอยู่หรือไปก่อนกัน
สาม การใช้ชีวิตด้วยการให้คนอื่นมามากพอแล้วหรือจะให้อีกต่อไป แต่ก็อย่าลืมที่จะให้รางวัลชีวิตของตนเองบ้าง
สี่ เรามีตัวอย่างและวิธีการใช้ชีวิตอย่างมีเป้าหมายที่ชัดเจน ภาคภูมิใจกับงานที่ตนรักพร้อมด้วยคติธรรมประจำใจในการดำเนินชีวิตหรือยัง
ห้า เราเคยแบ่งปันเวลาให้โอกาสชีวิตได้สัมผัสรสแห่งพระธรรมปฏิบัติธรรมเจริญสติบ้างหรือยัง ? และก่อนตายเราจะวางแผนก่อนที่จะตายทำอะไรบ้าง ถ้าชีวิตเรามีโอกาสเลือกได้ เราเลือกที่ทำอะไรก่อนตัวตายจากโลกนี้
สุดท้าย โลกกาลเวลาก็หมุนไปตามกฎของธรรมชาติ ยิ่งฝืนธรรมชาติ จะเอาชนะธรรมชาติก็ยิ่งเหนื่อยและเจ็บตัวในภายหลัง ชีวิตเป็นของเรา มีสิทธิ์ที่จะเลือกเดินไปสู่เส้นทางแห่งความดีและความชั่วได้เท่ากัน มันอยู่ที่ใจมันจะฝักฝ่ายดีหรือชั่ว
ถ้าชีวิตมีโอกาสเลือกได้ ก็เลือกทำในสิ่งที่ใจต้องการทำจริงและไม่ผิดศีลธรรมและกฎหมายไม่เดือดร้อนตนและคนอื่น
อย่าให้มีคำว่าเสียดายจัง เสียดายเวลาที่เสียไป เสียดายโอกาสที่เข้ามาแล้วผ่านไป เสียความรู้สึกเสียใจกับคนที่เรารักเคารพ ไม่มีโอกาสที่จะบอกรัก ขอบคุณ ขอโทษ หลังจากท่านลาจากเราไปเสียแล้ว
ขอโอกาสบอกทุกท่านว่า ขอบคุณ ที่ท่านได้อ่านบทความนี้ คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์แก่ท่านไม่มากก็น้อย

จ๊อดส์
๘ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๓ (ค.ศ. ๒๐๒๐)

จาริกธรรมในอเมริกา (ตอนที่ ๒๕) “ถ้าชีวิตมีโอกาสเลือกได้” โดย พระครูสมุห์สุพัฒน์ อนาลโย กลุ่มเพื่อชีวิตดีงาม