จาริกธรรมในอเมริกา (ตอนที่ ๓๙)  "ชีวิตที่รู้ตัวเอง เป็นชีวิตที่อิ่มใจ" โดย พระครูสมุห์สุพัฒน์  อนาลโย
จาริกธรรมในอเมริกา (ตอนที่ ๓๙) “ชีวิตที่รู้ตัวเอง เป็นชีวิตที่อิ่มใจ” โดย พระครูสมุห์สุพัฒน์ อนาลโย

จาริกธรรมในอเมริกา

(ตอนที่ ๓๙)

ชีวิตที่รู้ตัวเอง เป็นชีวิตที่อิ่มใจ

โดย พระครูสมุห์สุพัฒน์  อนาลโย

จาริกธรรมในอเมริกา (ตอนที่ ๓๙)  "ชีวิตที่รู้ตัวเอง เป็นชีวิตที่อิ่มใจ" โดย พระครูสมุห์สุพัฒน์  อนาลโย
จาริกธรรมในอเมริกา (ตอนที่ ๓๙) “ชีวิตที่รู้ตัวเอง เป็นชีวิตที่อิ่มใจ” โดย พระครูสมุห์สุพัฒน์ อนาลโย

ตอนเช้าๆ นี้ตื่นขึ้นมารับอากาศบริสุทธิ์ บรรยากาศดี เย็นสบาย ใจเงียบสงัด  แต่ก็ยังได้ยินเสียงนกร้อง ปลุกคนให้ตื่น ตอกย้ำด้วยเสียงไก่ขันดังก้องหูชักชวนคนให้กระตือรือร้นทำมาหากินตอนเช้าๆ เป็นช่วงเวลาวินาทีแรกที่ย่างก้าวเข้าสู่วันใหม่ พร้อมเตรียมตัวรับรู้สู้ปัญหาในแต่ละช่วงวินาทีของชีวิต ที่มีทั้งเรื่องราวพึงจดจำ และเรื่องไม่ควรจดจำไว้ในจิตใจ สุดท้ายมันก็เป็นเพียงอดีตความทรงจำเท่านั้น

ชีวิตของคนก็มีช่วงที่เป็นเด็ก สิ่งที่อยากได้ ของเล่นสักชิ้น ก็ขอคุณพ่อคุณแม่ซื้อรถจักรยาน ตุ๊กตา หุ่นยนต์ ขนมนมเนยให้ เป็นต้น

พอเป็นวัยรุ่นก็อ้อนวอนพ่อแม่ซื้อคอมพิวเตอร์  รถจักรยานยนต์ มือถือ ไอแพด เป็นต้น

พอมีการงานทำก็ให้พ่อแม่ไปขอแฟนแต่งงาน เพื่อสร้างครอบครัว หรือเป็นการสร้างความรับผิดชอบต่อตนเองและผู้อื่น

พอเข้าช่วงวัยทอง ปัญหาต่างๆ นานาเข้ามารุมเร้าก่อกวนจิตกวนใจให้รำคาญรอบทิศทางซึ่งเป็นบททดสอบสภาพจิตใจชีวิตที่มีปัญหา เราจะอดทนสู้ฝ่าฟันมันไปได้ไหม

ถ้าจิตใจเราตกหลุมพรางของปัญหาชีวิต เราอ่อนข้อให้กับมัน เราก็แพ้เราก็เสร็จมัน แก้ปัญหาไม่ได้ก็กลับกลายมาเป็นทุกข์ใจ

ถ้าเรารู้เท่าทันตัวปัญหาของชีวิตแล้ว เราก็มีสติที่เข้มแข็งอยู่เหนือปัญหานั้นด้วยตัวปัญญาสามารถแก้ไขปัญหาได้ด้วยตัวเอง หรืออาศัยกัลยาณมิตรเพื่อนฝูงที่ไว้ใจได้ เราก็กลับมาเป็นผู้ชนะปัญหาของตนเองได้

จาริกธรรมในอเมริกา (ตอนที่ ๓๙)  "ชีวิตที่รู้ตัวเอง เป็นชีวิตที่อิ่มใจ" โดย พระครูสมุห์สุพัฒน์  อนาลโย
จาริกธรรมในอเมริกา (ตอนที่ ๓๙) “ชีวิตที่รู้ตัวเอง เป็นชีวิตที่อิ่มใจ” โดย พระครูสมุห์สุพัฒน์ อนาลโย

วันนี้ได้รับอาหารเพลจากชายวัยชราท่านหนึ่งอายุ ๘๐ ปียังดูแข็งแรงไปไหนมาไหนได้ด้วยตนเอง

ท่านมาซื้ออาหารที่วัดรับประทาน (ญาติโยมจิตอาสามาขายอาหาร เพื่อหาจตุปัจจัยมาสร้างวัดทุกวันอาทิตย์)

ขอบอกก่อน ที่นี่คุณจะต้องช่วยเหลือตนเองให้มากที่สุด จะไปแบมือขอใครก็กระไรอยู่ 

แต่ญาติโยมคนไทย คนลาว ก็มีจิตใจทำบุญให้ทานเป็นประจำตามหน้าที่ของชาวพุทธเป็นปกติของวิถีชีวิตอยู่แล้ว

เข้าเรื่องของคุณลุงวัย ๘๐ ปี อาตมาเห็นท่านเดินทางจากรถมายืนเข้าแถวรอสั่งอาหาร พอสั่งและรับเสร็จแล้วก็เดินมานั่งที่โต๊ะรับประทานอาหาร 

อาตมาเห็นก็เดินเข้าไปนั่งใกล้แล้วชวนคุยด้วย  ไม่ใช่พระเก่งภาษานะ แต่คุณลุงคุยพูดภาษาไทยได้นิดหน่อย       

ท่านเคยไปอยู่เมืองไทย ไปทำงานที่สนามบินจังหวัดโคราช ตอนอายุ ๓๓ ปี และชอบอาหารไทยด้วย

คุณลุงว่า

“ผมชอบข้าวผัดไข่ดาวไม่สุกมากครับ และข้าวเหนียวมะม่วง อร่อยๆ มากครับ”

คุณลุงบอกว่า

มีพี่น้อง ๕ คน พี่สาว ๑ คน พี่ชาย ๔ คน และมีลูกสาว ๑ คน กับลูกชาย ๑ คน เขาก็แยกออกไปมีครอบครัวของเขาแล้ว ส่วนตัวคุณลุงก็อยู่ที่บ้านคนเดียว

อาตมาถามว่า

ทำไมพูดภาษาไทยได้ล่ะ

คุณลุงบอกว่า

เรียนรู้ วันละคำครับ ปีหนึ่งมี ๓๖๕ วัน ผมก็ได้คำศัพท์ภาษาไทย ๓๖๕ คำครับ ตอนนี้ไม่ค่อยได้ใช้ก็จำได้นิดหน่อยครับ

พอทานเสร็จแล้วก่อนจะลากลับ ก็ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ แล้วคุยกับอาตมาว่า

 ผมกลัวโรคไวรัสโควิด เพราะอายุมากแล้ว ค่อยเจอกันใหม่ครับ อาทิตย์หน้าครับ บายๆ

พอเราเข้าไปมีส่วนร่วมให้เขาได้พูดคุยด้วย สังเกตเห็นว่า แกมีความสุขมาก เวลาทานข้าวมือสั่นนิดหน่อย ดูเหมือนจะเหนื่อยเล็กน้อย ภาพรวมคือเห็นรอยิ้มได้ยินเสียงหัวเราะก็โอเคแล้ว

กลับมาคิดย้อนใส่ตนเอง เมื่อเรามีอายุเท่านี้ก็คงจะเป็นเช่นนี้ ไม่มีครอบครัว หรือญาติเราได้ล้มตายจากเราไปหมด เราก็จะอยู่คนเดียว ทำก็ต้องอะไรช่วยเหลือตนเอง พึ่งพาตนเองให้มากที่สุด

คนเราเมื่อยังไม่พบจิตใจของตน ไม่เข้าใจตนเอง ปล่อยวางวางใจไม่เป็นก็มีความทุกข์  กลัวความตาย ดูเหมือนเรายังไม่จากโลกนี้เลยนะ ยังเสียดายชีวิตอยู่ ยังมีชีวิตไม่อิ่มอยู่  ชีวิตยังไม่เต็มใจที่จะจากไป

หากเรารู้ตัวเอง พอใจอิ่มใจ ใจเต็ม รู้ปล่อยวางจิตใจได้ เข้าใจธรรมชาติที่เป็นอยู่ของชีวิตที่เต็ม เหมือนเรารับประทานอาหารอิ่มแล้วก็จะไม่หิวอีกในขณะนั้น  อิ่มชีวิตก็เหมือนอิ่มอาหาร

อิ่มอาหารก็คล้ายกับอิ่มชีวิต ชีวิตซื่อๆ ชีวิตที่เป็นกลางธรรมดาๆ

จาริกธรรมในอเมริกา (ตอนที่ ๓๙)  "ชีวิตที่รู้ตัวเอง เป็นชีวิตที่อิ่มใจ" โดย พระครูสมุห์สุพัฒน์  อนาลโย
จาริกธรรมในอเมริกา (ตอนที่ ๓๙) “ชีวิตที่รู้ตัวเอง เป็นชีวิตที่อิ่มใจ” โดย พระครูสมุห์สุพัฒน์ อนาลโย

ชีวิตที่น่าสงสาร ถ้าไม่รู้จักอิ่มก็เหมือนกินข้าวเยอะ โทษก็ตามมาทีหลังจะรู้สึกแน่ท้องอึดอัด ทำให้อ้วนหรือเป็นโรคตามมาภายหลังก็ได้

ถ้ากินให้พอดีกับตนเองก็หาโทษได้น้อย ชีวิตก็เช่นเดียวกัน ใช้ชีวิตให้เป็นกลาง พอดิบพอดีกับตนเองก็จะไม่เดือดร้อนตนเองและคนอื่น

จ๊อดส์

๒๙ มิถุนายน ๒๕๖๓ (๒๐๒๐)

จาริกธรรมในอเมริกา (ตอนที่ ๓๙) "ชีวิตที่รู้ตัวเอง เป็นชีวิตที่อิ่มใจ" โดย พระครูสมุห์สุพัฒน์ อนาลโย
จาริกธรรมในอเมริกา (ตอนที่ ๓๙) “ชีวิตที่รู้ตัวเอง เป็นชีวิตที่อิ่มใจ” โดย พระครูสมุห์สุพัฒน์ อนาลโย

จาริกธรรมในอเมริกา (ตอนที่ ๓๙) “ชีวิตที่รู้ตัวเอง เป็นชีวิตที่อิ่มใจ” โดย พระครูสมุห์สุพัฒน์ อนาลโย

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here