มองด้านนอกเพื่อเข้าใจตน และมองตนเพื่อเข้าใจผู้อื่น

มุมมองจากพระนักเดินทางด้วยบาตรเดียวไปทั่วโลก

สุขสันต์… วันอนัตตา

โดย พระพิทยา ฐานิสสโร

อะไรที่เธอเป็น ฉันเคยเป็น อะไรที่ฉันเป็น เธอจะกลายเป็น”

ข้อความบนคานไม้อยู่เหนือกองกะโหลกที่ได้ถูกจัดเรียงรายไว้อย่างเป็นระเบียบสวยงาม เสมือนฉากหลังอันวิจิตรของไม้กางเขนที่ตรึงพระเยซูไว้บอกกล่าวสัจธรรมเที่ยงแท้แน่นอนของชีวิตที่สุดท้ายเราก็เป็นเช่นนี้เอง

 ข้อความสั้นๆ เป็นสิ่งเตือนสติผู้มาเยี่ยมชม ณ สถานที่แห่งนี้ ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของโบสถ์ที่เมืองบริก(Brig) เขตวาลลิส ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ทำให้เกิดความตระหนักรู้ ไม่ตั้งอยู่บนหนทางแห่งความประมาท

 ความดีอะไรที่ยังไม่ได้กระทำจงรีบพยายามขวนขวายที่จะกระทำ และความคิด คำพูด การกระทำอะไรที่ไม่ดีที่กระทำอยู่ จงรีบลด ละ เลิก เพราะไม่มีอะไรแน่นอนเลยในชีวิต สิ่งที่ไม่คาดคิดสามารถเกิดขึ้นได้เสมอ จงกระทำวินาทีนี้ขณะที่ยังมีลมหายใจอยู่ให้ดีที่สุด จะโกรธ เกลียด อาฆาต กันไปเพื่ออะไร? เพราะวินาทีถัดไปอาจไม่มีจริง จงอย่ากล่าวถึงพรุ่งนี้เลย เพราะอาจสายเกินไป

กรรมเป็นสิ่งแยกการปรากฏที่แตกต่างของสรรพชีวิต ทุกสิ่งมีชีวิตล้วนมีทั้งกรรมทั้งดี กรรมไม่ดี และกรรมที่เป็นกลางๆ ปะปนผสมกันไปทั้งสิ้น

ผู้ที่ได้มีโอกาสเกิดเป็น “มนุษย์” ก็ยังเป็นสิ่งมีชีวิตจำนวนน้อยมากที่มีความอดทนความเพียรกระทำสิ่งดีเพื่อการปล่อยตนเองให้เป็นอิสระจากความยึดมั่นถือมั่น แม้กระทั่งความเพียรที่จะกระทำในสิ่งที่ดีโดยปราศจากความยึดมั่นในสิ่งที่กำลังกระทำอยู่ จนเกิดปัญญาได้เป็นโสดาบัน ไม่มีความยึดติดในความเห็น มั่นคงในพระรัตนตรัยอย่างเต็มกำลังก็ยังน้อยมากในความเป็นจริง เพราะโมหะคลุมโดยไม่รู้ตัว มีความเชื่อแบบผิดๆ  หรือปฏิบัติไปตามศีลพรตที่ไม่เป็นไปเพื่อการดับทุกข์

สุขสันต์ วันอนัตตา โดย พระพิทยา ฐานิสสโร

หากทว่า การปฏิบัตินั้นเป็นไปเพื่อการปล่อย เพื่อการละวางในตัวตน ไม่ยึดว่านี่คือตัวเรา ของเรา ก็ทำให้สามารถมั่นใจได้ว่าชีวิตที่เหลือแม้ต้องเกิดอีกจะไม่ไปเกิดเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีจิตใจตกต่ำกว่าเดิม มีแต่จะพยายามฝึกฝนตนเพื่อจะดับทุกข์ทั้งปวงในจิตใจตน

สิ่งมีชีวิตใดที่สร้างกรรมดี เมื่อผลแห่งกรรมดีนั้นมาถึงก็ปรากฏในสถานที่ดี สิ่งแวดล้อมดี เช่นเดียวกันกับกรรมไม่ดี หรือกรรมที่เป็นกลาง ก็จะส่งผลให้จิตไปเกิดในสถานที่ตามกรรมนั่นเอง

การเข้าใจเรื่องกรรมอย่างถูกต้องชัดเจน เป็นความโชคดีที่จะทำให้จิตใจของผู้เข้าใจเรื่องกรรมอย่างแท้จริงนั้นมั่นคงไม่หวั่นไหวไปกับโลกธรรมที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

แม้ในเวลาที่ต้องประสบกับความยากลำบาก ขัดสน ถูกพรากของรักหรือสูญเสียในสิ่งสมมติทั้งทางวัตถุ เงินทอง เกียรติยศ ชื่อเสียง หรือถูกกล่าวร้าย ได้รับเสียหายไม่ว่าในด้านใดๆ ทั้งแก่ตนเองและคนที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน เขาเหล่านั้นก็ยังคงมีสติ สัมปชัญญะยอมรับความจริงที่ปรากฏ โดยไม่โทษบุคคลหรือสิ่งใดๆ ว่าเป็นเหตุให้ประสบเรื่องราวร้ายๆ เช่นนี้

ที่สำคัญเขายังใช้โอกาสเหล่านั้น ยกระดับจิตใจของตนเองให้สูงขึ้น เมื่อเขาสามารถวางใจอย่างปรกติเมื่อต้องสูญเสียสิ่งสมมติหรือถูกมอง ถูกกล่าวหาว่าไม่ดี และยังคงหล่อเลี้ยงความเมตตา กรุณาในตนเอง สามารถเผื่อแผ่ความเมตตา กรุณา ให้อภัย ให้โอกาสต่อสิ่งมีชีวิตที่กระทำไม่ดีแก่ตน เป็นเหตุให้จิตใจของเขาเหล่านั้นเป็นอิสระจากสิ่งไม่ดีที่มาทดสอบ และไม่สูญเสียความดีในตนเอง ทั้งยังสร้างความดีได้จากเหตุที่ไม่ดี กรรมไม่ดีที่ส่งผลให้ต้องประสบกับสิ่งไม่ดีทั้งปวง จึงได้รับการแปรเปลี่ยนเป็นกรรมดีในทันที ถ้าใครสามารถฝึกฝน ปฏิบัติ กระทำได้เช่นนี้ ชีวิตของเขาเหล่านั้นจะอยู่เหนือกรรมทั้งปวง

ไม่มีความจำเป็นใดๆ เลย ที่ต้องเหนื่อยไปบนบาน ศาลกล่าว ร้องขอ อ้อนวอนต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือทำพิธีตัดกรรม ดูดวง ณ ที่ใดๆ ถ้าบุคคลนั้นมีความเข้าใจเรื่องกรรมอย่างถูกต้องชัดเจน สิ่งที่ต้องทำ เพียงแค่ดำรงอยู่กับปัจจุบันกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในทุกขณะ สังเกต ระลึกรู้ว่าจิตใจรู้สึกอย่างไร เมื่อเกิดการกระทบทางประสาทสัมผัส เมื่อใดที่จิตใจหลงยินดี เพลิดเพลิน กับสิ่งกระทบในสิ่งสมมติต่างๆ ด้านดี นั่นคือ ความอันตราย โชคร้าย ความทุกข์กำลังจะมาเยือน เพราะเมื่อใดที่ถูกกระทบทางประสาทสัมผัสในทางตรงกันข้าม จิตใจดวงนั้น ก็จะปฏิเสธ รังเกียจ ถูกบีบคั้น เป็นความทุกข์ของจิตใจอย่างที่สุด

สุขสันต์ วันอนัตตา โดย พระพิทยา ฐานิสสโร

เมื่อเราพยายามสำรวจ ระลึกรู้ ตระหนักรู้กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับจิตใจอย่างสม่ำเสมอในทุกปัจจุบันขณะ จิตใจจะค่อยเรียนรู้ มีปัญญาที่จะวางสิ่งที่กระทบทั้งปวงด้วยตัวเอง เพราะเมื่อใดที่นำจิตใจไปยึดกับสิ่งใดๆ ทั้งดี และ ไม่ดีตามความเคยชินที่จิตใจเคยรับการปรุงแต่ง จิตใจจะเริ่มเป็นภาระ เกิดความหนัก ความตึง ในจิตใจ ส่งผลให้จิตใจขาดอิสรภาพ สร้างกรรม สร้างภพครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างไม่รู้จักจบสิ้น

จิตใจที่ตื่นรู้จากการระลึกรู้อยู่เสมอ จะค่อยๆ วางสิ่งที่มากระทบไม่ว่าด้านใดๆ อย่างอัตโนมัติ ทำให้ความเป็นกลางของจิตใจปรากฏขึ้น ส่งผลให้ความเบาสบาย สุขสงบเย็นในจิตใจก็ปรากฏเช่นกัน เมื่อจิตใจได้รับผลเช่นนั้น กรรมใหม่ก็ไม่มีโอกาสแสดงตัว เพราะจิตใจดวงนั้น ทำหน้าที่อย่างอิสระ ไร้ตัวฉัน ของฉัน กรรมที่เคยสร้างทั้งด้านดีและไม่ดี กลายเป็นกรรมที่เป็นกลาง การตัดกรรมไม่จำเป็นอีกต่อไป เมื่อไม่มีผู้ที่สร้างกรรมอีก

ทุกชีวิตล้วนมีคุณค่า มีความตื่นรู้ในตัวเอง ขึ้นอยู่กับว่าเราจะใช้โอกาสที่ได้มาหรือไม่ แม้การปรากฏอาจต่างกันตามวาระแห่งกรรม แต่เราสามารถเปลี่ยนแปลงกรรมทั้งปวงด้วยตัวเราเอง

เมื่อเราเริ่มต้นที่จะฝึกฝน ปฏิบัติ ระลึก รู้สึกตัวในสิ่งที่เกิดขึ้นกับจิตใจในทุกการกระทบจากการทำทุกหน้าที่ ทุกการกระทำ ในทุกปัจจุบันขณะ การเกิดมาเป็นมนุษย์จะสร้างคุณค่าของชีวิตในตัวเอง

และเมื่อเราสามารถสละแรงกายแรงใจกระทำเพื่อสรรพชีวิต สามารถสละวัตถุสิ่งของที่ได้ถูกสมมติว่าเป็นของเราด้วยความเบิกบานและปล่อยวาง เพราะเมื่อเราสามารถกระทำได้เช่นนั้น เป็นสิ่งบ่งบอกชัดเจนว่า เราลดความยึดมั่นในตัวตนของตน จิตใจย่อมเป็นอิสระมากขึ้นๆ จากสิ่งที่สมมติทั้งปวง

“อะไรที่เธอเป็น ฉันเคยเป็น อะไรที่ฉันเป็น เธอจะกลายเป็น

ข้อความนี้อาจเปลี่ยนความหมายในทันที เมื่อเราสามารถปฏิบัติให้เป็นอิสระจากความยึดมั่น ถือมั่นในสิ่งทั้งปวง

  อะไรที่เธอเป็น ฉันเคยเป็น อะไรที่ฉันเป็น เธอก็จะไม่เป็น

ไร้เธอ ไร้ฉัน ไร้วันแห่งอัตตา

ไร้อัตตา อนัตตาปรากฏ

ติดตามได้ในคอลัมน์ บาตรเดียวท่องโลก โดยพระพิทยา ฐานิสสโร หน้าธรรมวิจัย นสพ. คมชัดลึก วันอังคารที่ ๑๑ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๖๒

กิจกรรมฟังธรรมจากครูบาอาจารย์
ที่จะช่วยให้ใจของท่าน นำสู่การทำสิ่งที่ดีงาม
ฟังธรรมกถาจาก พระอาจารย์พิทยา ฐานิสฺสโร 
วัดประดู่พัฒนาราม จ.นครศรีธรรมราช 
วันอาทิตย์ที่ ๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๒
เวลา ๑๔.๐๐ – ๑๖.๐๐ น.
ณ อุโบสถวัดญาณเวศกวัน ต.บางกระทึก อ.สามพราน จ.นครปฐมผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรม
ลงชื่อเพื่อสำรองที่นั่งได้
ที่
http://
activity.watnyanaves.net/

คอลัมน์ บาตรเดียวท่องโลก โดย พระพิทยา ฐานิสสโร
หน้าธรรมวิจัย นสพ.คมชัดลึก วันอังคารที่ ๑๑ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๖๒

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here