การเปลี่ยนแปลงชีวิตเป็นสิ่งที่เราต้องเรียนรู้
การเริ่มต้นใหม่ ทำอะไรก็ตาม ต้องศุึกษา ใจเย็น
การให้คุณค่ากับตนเองในทุกสถานการณ์เป็นสิ่งจำเป็น …
หลังเกษียณในวัยที่ยังมีแรงทำงาน และไม่มีเงินออมจะทำอย่างไร …
Q&A ตอบปัญหาธรรม โดย พระมหาขวัญชัย กิตติเมธี
ให้นำธรรมมาใช้กับโลก ไม่ใช่ให้โลกใช้เรา
“คุณค่าและมูลค่าควรไปในทิศทางเดียวกัน”
มนสิกุล คำถาม : กราบนมัสการค่ะ พระอาจารย์ โยมทำงานเป็นนักเขียน และบรรณาธิการอิสระมาได้เกือบสองปีเต็ม มีคำถามมากราบเรียนถามพระอาจารย์ว่า นิตยสารเล่มหนึ่งที่โยมทำงานเป็นฟรีแลนซ์ เขาขอชื่อโยมไปใส่ในนิตยสารเป็นนักเขียนอาวุโส แต่ที่ผ่านมา โยมไม่ได้ให้เขาลงชื่อไป ด้วยรายได้จากการเขียนและการบรรณาธิการนั้นน้อยเต็มที และการรับผิดชอบก็มากมาย ความกังวลใจที่ตามมาคือ ไม่มีใครรู้ว่าเราทำอะไร ที่ไหน อย่างไร งานที่อื่นๆ ก็เลยไม่ค่อยเข้ามาหา จะปรับสมดุลนี้อย่างไร
พระมหาขวัญชัย ตอบ : เจริญพร โยมต้องเข้าใจว่า เมื่ออยู่กับโลกก็ต้องใช้ชีวิตกับโลกให้เป็น นำธรรมมาใช้กับโลก ไม่ใช่ให้โลกใช้เรา แม้เราอาจจะเรียกร้องค่าแรงไม่ได้มากกว่านี้ แม้ว่าบริษัทจะมีรายได้จากการทำงานของเรามากเพียงใด แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น ประเด็นอยู่ที่ว่า เราไปตกลงกับเขาแล้ว และการตกลงนี้ ถ้าเราไม่ยอม เขาก็ไม่มีทางที่จะให้ได้มากกว่านี้
ตอนนี้ถ้าจะให้ชื่อเขาไปตอนนี้ เพื่อให้รู้ว่าโยมทำงานเขียนให้นิตยสารเล่มนั้นด้วย จะเป็นการเสียสัจจะไหม เป็นประเด็นหนึ่ง อีกประเด็นหนึ่งคือ ถ้ามีชื่อแต่รายได้น้อย ก็ยังทำให้ชื่อนี้ไปต่อยอดการทำงานอื่นๆ ของโยมได้ดีกว่าไม่มีชื่อหรือไม่ เพราะต้องยอมรับว่า การมีชื่อ บางครั้งก็มีความหมายมากกว่ารายได้ เพราะชื่อเสียงนั้นสามารถนำไปหารายได้เพิ่มขึ้นมาได้ เพราะวัยวุฒิกับคุณวุฒิ หรือ คุณค่า กับมูลค่า ควรไปด้วยกัน
และการมีชื่อในนิตยสารนี้ แม้ว่านิตยสารจะแจกฟรี แต่เขาก็ทำธุรกิจ ทุกหน้าคือ ธุรกิจ และแม้ว่าโยมจะได้รายได้น้อยก็ตาม แต่การมีชื่อปรากฏว่าเป็นนักเขียนก็จะทำให้ลูกค้าของหนังสือที่อาจเคยอ่านงานของโยมจากหนังสือพิมพ์และนิตยสารที่โยมเคยทำประจำมาก่อนจำได้ และอาจจะมาซื้อหน้าลงโฆษณาประชาสัมพันธ์ ซึ่งก็ทำให้นิตยสารมีลูกค้ามากขึ้น และแม้ว่า เขาไม่รู้จักโยม แต่อ่านนิตยสารเล่มนี้แล้วได้สาระ น่าอ่าน อ่านสนุกเพลิดเพลิน เขาก็อยากมาลงโฆษณาประชาสัมพันธ์ และมากไปกว่านั้น เผื่อเขาต้องการให้โยมเขียนเรื่องของเขาโดยเฉพาะ เขาก็อาจติดต่อผ่านนิตยสาร เพื่อให้โยมทำงานพิเศษเพิ่มขึ้น ซึ่งก็จะทำให้โยมมีรายได้มากขึ้น
อาตมาเห็นด้วยว่า ในวัยขนาดนี้ คือเกษียณจากการทำงานประจำแล้ว อายุก็ห้าสิบสี่ห้าสิบห้าแล้ว ก็น่าจะมีงานมีรายได้ที่มั่นคง ยิ่งไม่มีเงินเก็บสะสมหลังเกษียณที่จะทำให้ชีวิตรู้สึกสบายและปลอดภัย ปัญหานี้ก็จะถูกถามอีก ไม่สิ้นสุด การแก้ปัญหาเรื่องปากท้องให้เพียงพอต่อการดำรงชีวิตอยู่บนโลกที่เป็นจริง จึงเป็นสิ่งที่ต้องทำอันดับแรก ก่อนที่จะไปช่วยใคร โยมต้องช่วยตนเองให้ได้ก่อน พึ่งตนเองให้ได้ก่อน และไม่ต้องย้อนคิดวนไปในอดีตว่าเคยทำงานประจำได้เงินเดือนมากขนาดนั้น มันผ่านไปแล้ว
พยายามมองหาข้อดีจากการสูญเสีย และการเปลี่ยนแปลง การเรียนรู้ใหม่ๆ จะเกิดขึ้นจากงานใหม่ๆ ที่เราสร้างสรรค์ด้วยกำลังกายและกำลังปัญญาของเราเอง เมื่อก่อนทำงานประจำอาจเหมือนราชสีห์ในกรง มีอาหารเลี้ยง เมื่อออกจากกรงเลยไปไหนไม่เป็น โยมจะต้องออกสู่ป่าใหญ่ได้แล้ว ไม่ต้องหวนคิดหวนคืน กลับไปหากรงอีก
โยมต้องทำได้ ถ้าค่อยๆ ทำไปไม่ท้อถอย วิริยะคือ ความเพียร และอุเบกขาธรรม เป็นสิ่งที่สำคัญที่พระพุทธองค์ทรงมอบไว้ให้ก่อนการตรัสรู้ของพระองค์ สองสิ่งนี้หากมี และทำไม่หยุด ผลจักปรากฏในวันหนึ่ง อุเบกขา ก็จำเป็นมากเพราะโยมจะต้องเดินผ่านแรงเสียดทานอีกมากมายกว่าจะได้คุณค่าและมูลค่าต้องไปด้วยกัน
ทุกปัญหามีไว้แก้
Q&A กับ พระอาจารย์พระมหาขวัญชัย กิตติเมธี ดร. ป.ธ.๙
คิดไม่ออกบอก Manasikul.com
ส่งคำถามได้ที่นี่และmanasikul@gmail.com