แม้โลกกลับตาลปัตร ใจเราก็ไม่กลับตาลปัตรไปด้วย เพราะมีสติประคองใจ จึงทำให้เห็นธรรมะในทุกสถานการณ์ เมื่อใจอยู่กับปัจจุบัน …
โชคดีที่มีพระสุปฏิปันโน พระดี พระแท้ให้เราได้เรียนรู้ตามรอยพระพุทธเจ้าตรงตามพระธรรมวินัย พระพุทธศาสนาจึงอยู่รอดปลอดภัยมาจนถึงทุกวันนี้เพื่อช่วยคนทุกข์ในทุกแห่งหน
ท่านอาจารย์เจ้าคุณเทอด
ที่ผู้เขียนเคารพบูชาอย่างสูงสุดกล่าวว่า
อยู่ที่ไหนอย่าหายใจทิ้ง
นอกจากฝึกตนจนกว่าจะเห็นความจริงในกายใจตนแล้วว่ามันไม่เที่ยง เป็นทุกข์และเป็นอนัตตา ในระหว่างการฝึกตนก็ช่วยผู้อื่นต่อไปด้วย แบ่งปันความเมตตากรุณาให้กับผู้คนและสรรพชีวิตต่อไปจนกว่าลมหายใจสุดท้ายมาเยือน
“เพราะการบวช ในทางพระพุทธศาสนาถือว่า เป็นการช่วยสืบอายุพระพุทธศาสนา เพราะช่วงเวลาของการบวชเรียน จะต้องใช้ชีวิตอย่างสมถะ สงบเสงี่ยมเรียบง่าย ไม่กล่าวร้าย ไม่ว่าร้าย ไม่ทำร้ายใครๆ อย่างที่เรียกว่า บรรพชิต คือ เป็นผู้ที่ละเว้นในสิ่งที่ไม่ควร ไม่เหมาะสม การดำเนินชีวิตเช่นนี้ ชื่อว่า เป็นการสืบต่ออายุพระพุทธศาสนาให้ยืนยาวออกไป เพื่อประโยชน์แก่คนในรุ่นหลัง เปรียบเสมือนการนำชีวิตของเราเข้าไปเพื่อสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา…”
และพ่อแม่ก็ได้ชื่อว่า ได้สืบต่ออายุพระพุทธศาสนาด้วย เพราะชีวิตที่ลูกไปบวช ก็เป็นชีวิตที่เกิดจากพ่อแม่ เลือดเนื้อที่เจริญเติบโตอยู่ในร่างกาย เป็นตัวตนของลูก ก็เป็นเลือดเนื้อจากอกของพ่อแม่นั่นเอง
“พระบรมศาสดาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ตรัสกับพระเจ้าปเสนทิโกศลว่า ผู้ใดสำนึกในบุญคุณพ่อแม่แล้ว มีความปรารถนาจะตอบแทนคุณท่านอันมากล้น ต้องได้บวชในพระพุทธศาสนาจึงได้ชื่อว่า ตอบแทนบุญคุณท่านอย่างแท้จริง”
พระอาจารย์ญาณวชิระ (เทอด ญาณวชิโร) พระราชกิจจาภรณ์ ในขณะนั้น