วันนี้ วันพระ วันศุกร์ที่ ๑ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ แรม ๑๕ ค่ำ เดือน ๔
“ปูชา จ ปูชนียานํ เอตมฺมงฺคลมุตฺตมํ.
ขอนอบน้อมแด่ครู พระอุปัฌชาย์ อาจารย์
ผู้ให้ชีวิตในพระศาสนาของพระพุทธองค์ ด้วยเศียรเกล้าฯ”
วิถีแห่งผู้นำ : สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสณมหาเถร)
๘. วัดเฉวงในอดีต ๙. อสุภสัญญา มรณานุสติกรรมฐาน
เรียบเรียงโดย พระครูอมรโฆสิต (ปรีชา สาเส็ง)
๘.
วัดเฉวงในอดีต
วัดสว่างอารมณ์ เดิมชื่อว่า วัดเฉวง แปลว่า สว่าง เป็นวัดประจำหมู่บ้าน ตั้งอยู่ที่ตำบลบ่อผุด อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ตามประวัติระบุว่า สร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๓๓๗ โดยพระอาจารย์แก้ว เป็นผู้มอบที่ดินมรดกเนื้อที่จํานวน ๑๐ ไร่ ๑ งาน ๔๙ ตารางวา เพื่อสร้างวัด พระประธานภายในอุโบสถหลังเดิม ซึ่งเป็นสถานที่ประกอบพิธีบรรพชาสามเณรเกี่ยวนั้น เป็นปางมารวิชัย ขนาดหน้าตัก กว้าง ๒๗ นิ้ว สูง ๔๒ นิ้ว ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ ๑๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๕๕ เขตวิสุงคามสีมา ขนาดกว้าง ๘ เมตร ยาว ๑๐ เมตร โดย พระครูวิบูลธรรมสาร (เพชร ติสฺโส) เจ้าคณะแขวง เป็นผู้ดําเนินการขอพระราชทานวิสุงคามสีมา
ภายหลัง เมื่อ พระครูประภาตธรรมคุณ (สงัด สุธมฺโม) เป็นเจ้าอาวาส เห็นว่า อุโบสถหลังเก่าที่สร้างมาพร้อมกับการตั้งวัดนั้นเล็กไป จึงได้สร้างอุโบสถหลังใหม่แทนหลังเก่าให้มีขนาดใหญ่ขึ้น พระประธานปางมารวิชัย มีขนาดหน้าตักกว้าง ๙๙ นิ้ว โดยได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ ๑๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๘ ผูกพัทธสีมา เมื่อวันที่ ๑๖ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๕๙ เขตวิสุงคามสีมา ขนาดกว้าง ๓๙ เมตร ยาว ๕๓ เมตร
นอกจากนั้น วัดเฉวง (วัดสว่างอารมณ์) ยังมีที่ธรณีสงฆ์อีกแห่ง อยู่บนเขาหัวจุก เป็นที่สำหรับปลีกวิเวกเจริญวิปัสสนาของพระวิปัสสนาจารย์เกาะสมุย โดยในปี พ.ศ.๒๔๗๙ หลวงปู่กลบ อินฺทสุวณฺโณ เจ้าอาวาสวัดเฉวง ได้อัญเชิญรอยพระพุทธบาทจําลองมาประดิษฐานบนเขาหัวจุก เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้สักการบูชา
ต่อมา ที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทได้ผุพังไปตามกาลเวลา พระครูประภาตธรรมคุณ (สงัด สุธมฺโม) ได้หารือเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) ที่จะสร้างเจดีย์สำหรับประดิษฐานรอยพระพุทธบาท ขึ้นบนเขาหัวจุก เจ้าประคุณสมเด็จ ฯ จึงได้มอบเงินสำหรับเริ่มต้นในการก่อสร้าง
พระครูวิสุทธิปัญญาคม(โอวาท ปญฺญาโสภโณ) รักษาการเจ้าอาวาสวัดสว่างอารมณ์(วัดเฉวง) เล่าว่า ตอนนั้น หลวงพ่อสมเด็จ ฯ มอบเงินให้เป็นทุนเริ่มต้นในการก่อสร้างเจดีย์เขาหัวจุก เดิมทีท่านปรารภว่า จะให้สร้างเจดีย์จำลองแบบไปจากภูเขาทอง เวลาเครื่องบินขึ้นลง ก็จะเห็นเจดีย์เขาหัวจุกเป็นสัญลักษณ์ของสมุย
“พระครูประภาตธรรมคุณ ได้รวบรวมเงินจากศรัทธาชาวสมุยและเงินที่ท่านสะสมไว้สร้างเจดีย์จนแล้วเสร็จ ภายหลังจากสร้างเสร็จแล้ว หลวงพ่อสมเด็จ ฯ ได้มอบพระบรมสารีริกธาตุ มาบรรจุไว้ให้เป็นที่สักการบูชาของประชาชนด้วย ”
๙.
อสุภสัญญา มรณานุสติกรรมฐาน
การบรรพชาเป็นสามเณร นับว่า เป็นผู้ทรงศีล แม้จะเป็นเพียงการรักษาศีล ๑๐ ก็ตาม แต่ก็เป็นศีลแห่งพรหมจรรย์ ชื่อว่า เป็นบรรพชิต เมื่อยึดถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ย่อมทำให้ถึงความเป็นผู้บริสุทธิ์แห่งศีลได้ เพราะนอกจากจะเป็นการละเว้นการกระทำในสิ่งอันเป็นบาปอกุศลแล้ว ยังเป็นการไม่สร้างเวรและอกุศลกรรมต่อไปอีกด้วย
จากการที่สามเณรเกี่ยวได้บรรพชาตามคำแนะนำของตาผ้าขาว เพื่อบนให้หายจากอาการเจ็บไข้ และผู้เป็นบิดา มารดา ตั้งใจจะให้บวชเพียงแค่ ๗ วัน ตามที่บนเอาไว้ เมื่อครบเวลาตามกำหนด ก็จะให้ลาสิกขามารับการศึกษาต่อไป
แต่ความอัศจรรย์บนโลกใบนี้ เกิดขึ้นได้เสมอ นับแต่วันที่ได้บนเอาไว้ อาการป่วยของเด็กชายเกี่ยวก็ดีขึ้น และหลังจากบวชได้เพียงไม่กี่วัน อาการเจ็บป่วยซึ่งมีทีท่าว่าจะทรุดลงเรื่อย ๆ ก็ทุเลาลง แล้วหายเป็นปลิดทิ้งในที่สุด
การที่พระอุปัชฌาย์ ไม่ปล่อยสามเณรน้อยผู้เป็นศิษย์ ให้ตกอยู่ในสภาพเซื่องซึมเพราะฤทธิ์ไข้ กลับสอนให้เห็นความไม่ตั้งมั่นแห่งสังขาร ด้วยการให้พิจารณาซากศพเป็นอารมณ์ ในวันแรกที่เข้าสู่ร่มผ้ากาสาวพัสตร์ เหมือนจะเป็นนิมิตหมายแห่งการฝึกจิต ในการเจริญอสุภสัญญา อันจะเป็นเหตุให้เจริญในพระศาสนาต่อไป
“เปลว” เป็นคำเรียกหลุมศพของชาวสมุย ธรรมเนียมคนตายในชนบทสมัยก่อน เมื่อนำศพมาถึงเปลวแล้วต้องเปิดฝาโลงออก ทำพิธีกรรมต่างๆ ตามความเชื่อ พระอุปัชฌาย์ได้นำสามเณรเกี่ยวผู้ซึ่งเพิ่งก้าวเข้าสู่ร่มผ้ากาสาวพัสตร์ในวันนั้น ไปพิจารณาอสุภกรรมฐาน
สามเณรเกี่ยวเห็นศพคนตาย ซึ่งเป็นศพคนแก่ในหมู่บ้าน ที่รู้จักมักคุ้นเป็นอย่างดี จึงเกิดภาพจำติดตา แม้จะรู้สึกหวาดกลัวตามประสาผู้อยู่ในวัยเด็ก แต่ก็ปฏิบัติตามคำสอนของพระอุปัชฌาย์อย่างว่าง่าย
ภาพซากศพบนหลุมศพ ที่พระอุปัชฌาย์ให้สาเณรเกี่ยวไปพิจารณา ได้เกิดเป็นอสุภสัญญา กลายเป็นภาพติดตาสามเณรน้อยเหมือนกล้องที่มีเลนซ์ดี จนไม่อาจสลัดให้หายไปจากความทรงจำได้
แม้จะผ่านไปนานวัน แต่ภาพใบหน้า รูปร่างลักษณะ และเสื้อผ้าอาภรณ์ปรากฏชัดเจนในความทรงจำของสามเณรเกี่ยวตลอดมา