เขียนจดหมายถึงพระพุทธเจ้า
เรื่องที่อยากเล่าให้พระพุทธเจ้าฟัง ตอนที่ ๖
“คิดถึงแม่ แค่ตั้งใจทำงาน”
โดย พระใบฎีกาคทาวุธ คเวสกธมฺโม
จดหมายสองสามฉบับที่ผ่านมา เป็นเรื่องที่อาจารย์พระมหาขวัญชัย กิตฺติเมธี ป.ธ. ๙.ดร. อดีตประธานกลุ่มเพื่อชีวิตดีงาม ได้เล่าถึงบรรยากาศ การรวมตัวทำงานครั้งแรกของกลุ่มเพื่อชีวิตดีงาม และอาตมาได้ถอดบทเรียนจากเรื่องของพระอาจารย์
จะเห็นว่าการทำงานของกลุ่มเพื่อชีวิตดีงามที่รวมตัวกันได้ เพราะทุกท่านมีอุดมการณ์เหมือนกัน และมีความเป็นกัลยาณมิตร กลุ่มเพื่อชีวิตดีงามจึงเป็นต้นแบบ ต้นธรรม ให้กับสังคมได้ในเรื่องของการทำงานเป็นทีม การเสียสละ ฯ เป็นต้น
และพระอาจายร์อีกรูปหนึ่ง ที่อาจารย์พระมหาขวัญชัย กิตฺติเมธี ได้กล่าวถึงว่าท่านเป็นคนชักชวนเพื่อน ๆ มาร่วมทำงานด้วยกัน ทั้งยังเป็นผู้ออกแบบกิจกรรมการอบรมของกลุ่มเพื่อชีวิตดีงามก็คือ อาจารย์พระมหานภันต์ สนฺติภทฺโท ป.ธ.๙ ศศ.บ., ศศ.ม ผู้ช่วยเจ้าอวาสวัดสระเกศ, ผู้อำนวยการสถาบันการจัดการวิถีพุทธเพื่อสุขและสันติ (สกพ.) และเป็นอดีตประธานกลุ่มเพื่อชีวิตดีงาม ซึ่งเป็นบุคคลที่อาตมาอยากจะเล่าให้พระพุทธองค์ได้รู้ว่าท่านทำอะไรบ้าง
เพราะเท่าที่อาตมารู้จักท่านพระอาจารย์มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันนี้ ลมหายใจของพระอาจารย์ในแต่ละวันคือ “การทำงานเพื่อพระศาสนา” ซึ่งบุคคลที่รู้จักท่านจะเข้าใจเรื่องนี้ดีลึกซึ้งมาก
สำหรับอาจารย์พระมหานภันต์ สนฺติภทฺโท นอกจากท่านจะเป็นพระนักการศึกษา และพระนักเผยแผ่ ท่านยังเป็นพระสงฆ์รูปแรกที่สอบได้ทุนการศึกษาชีฟนิ่ง ของรัฐบาลอังกฤษ เข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาโท หลักสูตรการสื่อสารองค์กร มหาวิทยาลัยลีดส์ สหราชอาณาจักร ซึ่งในปีที่พระอาจารย์ท่านสมัครทุน มีผู้ได้รับทุนดังกล่าวจากทั่วโลกรวม ๑,๖๐๐ คน คิดเป็นร้อยละ ๓ ของผู้สมัครทั้งหมด หรือประมาณกว่า ๕๓,๐๐๐ คน
และทุกวันนี้พระอาจารย์นอกจากจะเป็นพระนักเผยแผ่ บรรยายธรรม ทั้งในและต่างประเทศ งานที่พระอาจารย์กำลังขับเคลื่อนอยู่คืองานด้าน “สันติภาพ” ร่วมกับเครือข่าย หรือองค์กรงานด้านสันติภาพทั่วโลก
จากการที่พระอาจารย์เป็นคนให้ความสำคัญกับงานพระศาสนากว่าเรื่องใด ๆ จึงมีเรื่องสะเทือนใจที่เกิดขึ้น ซึ่งอาตมาเองก็ได้ยินจากครูบาอาจารย์ที่ทำงานในยุคแรก ๆ ท่านเล่าให้ฟังว่า
ในขณะที่ท่านกำลังสอบเปรียญ ๙ ประโยคในวันสุดท้าย โยมแม่ก็จากไป ซึ่งท่านได้ทำในสิ่งที่โยมแม่ตั้งความปรารถนาที่จะเห็นท่านสอบผ่านเปรียญธรรม ๙ ประโยคในที่สุดในเวลาต่อมา
ที่สำคัญท่านพระอาจารย์ก็ยังคงเป็นคนให้ความสำคัญกับงาน ทุ่มเท ทำงานเผยแผ่พระศาสนา และมีคติหนึ่งที่ท่านมักจะพูดเสมอ หากใครเคยเข้าไปในกุฏิพระอาจารย์ก็จะเห็นประโยคนี้เขียนติดอยู่บนโต๊ะทำงานของท่าน ประโยคนั้นก็คือ
“คิดถึงแม่ แค่ตั้งใจทำงาน”
และอีกประโยคหนึ่งที่ท่านจะพูดกับรุ่นลูกศิษย์หรือรุ่นน้อง ๆ และประโยคนี้จึงเป็นที่คุ้นชิน และหลักการปฏิบัติทำงานของพระวิทยากรกลุ่มเพื่อชีวิตดีงามเสมอที่ว่า
“คนดี ไม่จำเป็นต้องทำเพื่อคนอื่น
เพราะสำหรับคนดี
ไม่มีใครเป็นคนอื่น”
และพระอาจารย์ก็ได้เล่าอธิบายว่า
“คนดี เวลาทำดี ไม่มีแบ่งแยกเขา-เรา เชื้อชาติ ศาสนา คนดีจริง ทำดี ก็เพราะนั่นคือสิ่งดีที่ต้องทำ ไม่ใช่ทำดีเฉพาะเพื่อคนรู้จัก ญาติพี่น้อง พวกพ้องเท่านั้น คนดีจริง จะไม่คิดว่าจะทำดีกับคนนี้ เพราะคนนี้เรารู้จัก ดีกับเขาวันนี้ วันหน้าเขาจะดีตอบแทนเราบ้าง ส่วนคนนี้ ไม่รู้จัก เป็นคนอื่น ช่วยไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร
“คนดีจริง เมื่อเห็นว่าสิ่งใดดีเป็นประโยชน์เกื้อกูลแล้ว ก็ตั้งใจทำ เพื่อเพื่อนมนุษย์ผู้ร่วมเกิด แก่ เจ็บ ตาย ได้ทั้งหมด และสามารถชวนเพื่อนมนุษย์ มาร่วมทำดีด้วยกันได้ โดยไม่รู้สึกหวงดี อวดดี เพราะทำดี ก็ด้วยความตั้งใจเสียสละ ลดละตัวตน จึงเต็มใจทำดีได้ ไม่ว่าเพื่อใคร โดยไม่ต้องฝืน นี่คือที่บอกว่า
“คนดี ไม่จำเป็นต้องทำเพื่อคนอื่น..เพราะสำหรับคนดี..ไม่มีใครเป็นคนอื่น“
นี่คือสิ่งที่อยากให้พระพุทธองค์ได้รับฟัง เพราะท่านพระอาจารย์เป็นผู้ที่อุทิศตนเพื่องานเผยแผ่พระศาสนา และได้มีส่วนวางรากฐานกระบวนการอบรมให้กับกลุ่มเพื่อชีวิตดีงาม จัดกระบวนการฝึกอบรมบนฐานของไตรสิกขา โดยประยุกต์ใช้กระบวนการให้คำปรึกษาเชิงจิตวิทยาแบบกลุ่ม เน้นผู้เข้าอบรมเป็นศูนย์กลาง ซึ่งพัฒนามาสู่หลักสูตรการอบรมในปัจจุบันคือ “พระวิทยากรกระบวนธรรม”
และได้พัฒนามาเป็นสถาบันพัฒนาพระวิทยากร ภายใต้สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมฯ วัดสระเกศ โดยมีอาจารย์พระมหาขวัญชัย กิตฺติเมธี เป็นผู้อำนวยการ
(โปรดติดตามตอนต่อไป)
เขียนจดหมายถึงพระพุทธเจ้า…เรื่องที่อยากเล่าให้พระพุทธเจ้าฟัง ตอนที่ ๖
“คิดถึงแม่ แค่ตั้งใจทำงาน”
โดย พระใบฎีกาคทาวุธ คเวสกธมฺโม
จากคอลัมน์ เขียนจดหมายถึงพระพุทธเจ้า (หน้าพระไตรสรณคมน์ นสพ.คมชัดลึก วันพฤหัสบดีที่ ๑๒ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๒)