![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2022/07/2643AB5C-D29C-42C8-BD77-9153CF84D99E-scaled.jpg)
วันนี้วันพระ วันจันทร์ที่ ๓ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ ขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๑๑
เรียนรู้ปฏิปทาพระมหาเถระผู้เป็นประวัติศาสตร์ความทรงจำพระพุทธศาสนาโลก
“ปูชา จ ปูชนียานํ เอตมฺมงฺคลมุตฺตมํ.
ขอนอบน้อมแด่ครู พระอุปัฌชาย์ อาจารย์
ผู้ให้ชีวิตในพระศาสนาของพระพุทธองค์ ด้วยเศียรเกล้าฯ”
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2023/02/S__11714563-1024x688.jpg)
ร่องรอยความทรงจำแห่งอดีต
บอกเล่าปฏิปทาในการครองตน ครองคน ครองงาน
เพื่อจรรโลงความดีงาม ตามครรลอง “วิถีแห่งผู้นำ”
สำหรับตอนนี้ ผู้เขียนเล่าสรุปถึงช่วงเวลาอันยากลำบาก ที่กว่าจะก่อเกิดพระธรรมทูตสายต่างประเทศ หากทว่า ด้วยความมุ่งมั่นที่จะสานต่อปฏิทาท่านเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช (อยู่ ญาโณทยมหาเถร) พระอาจารย์ผู้จุดประกายความคิดที่จะให้พระพุทธศาสนาแผ่ไพศาลไปในโลกตะวันตก จึงทำให้หลวงพ่อสมเด็จฯ ไม่เคยท้อ…
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2022/09/479B005F-EA74-4CA3-A164-08F4974CDDFA-2-scaled.jpg)
วิถีแห่งผู้นำ
: สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสณมหาเถร)
๗๔. ต้องนำพระพุทธศาสนากระจายออกไปทั่วโลกให้ได้
: เรียบเรียงโดย พระครูอมรโฆสิต (ปรีชา สาเส็ง)
![สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) และ เจ้าพระคุณสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (อยู่ ญาโณทยมหาเถร) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายกพระองค์ที่ ๑๕ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2022/05/1A3AA3CF-6DB5-454D-9B21-C8F8B3E2012E-scaled.jpg)
๗๔. ต้องนำพระพุทธศาสนากระจายออกไปทั่วโลกให้ได้
เจ้าประคุณสมเด็จฯ ออกเดินทางไปต่างประเทศทั่วทุกมุมโลก เพื่อหาแนวทางที่จะให้มีวัดเกิดขึ้นในประเทศนั้นๆ อันมีแรงบันดาลใจมาจากเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช (อยู่ ญาโณทยมหาเถร) ผู้เป็นพระอาจารย์
![สังคายนาพระไตรปิฎก ครั้งที่ ๖ : พ.ศ.๒๔๙๗ เจ้าประคุณสมเด็จฯ ไปร่วมประชุมสังคายนาพระไตรปิฎกฉัฏฐสังคีติ ณ ประเทศพม่า นับเป็นการเปิดวิสัยทัศน์ระดับนานาชาติเป็นครั้งแรก และต่อมาในปี พ.ศ.๒๕๐๐ ได้ไปร่วมอรรถกถาสังคายนาฉลอง ๒๕ พุทธศตวรรษ](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2022/06/875960CA-3205-4405-8073-662EA2B621BE-2-1.jpg)
ในปี พ.ศ. ๒๔๙๗ เจ้าประคุณสมเด็จฯ ได้ออกเดินทางไปร่วมประชุมสังคายนาฉัฏฐสังคีติ ณ ประเทศพม่า และในปี พ.ศ.๒๕๐๐ ก็ได้เดินทางไปประชุมอรรถกถาสังคายนา เพื่อฉลอง ๒๕ พุทธศตวรรษ ณ ประเทศพม่า อีกครั้ง
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2022/10/303A016E-DF22-4EBD-8233-F2023FBD1399-2-781x1024.jpg)
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2022/10/EB6FDCFC-1544-4BC8-B00F-3F6E27DD5A4A-2333-658x1024.jpg)
ในปี พ.ศ. ๒๕๐๕ เป็นหัวหน้าคณะเดินทางไปดูการศาสนา และเชื่อมศาสนสัมพันธ์ ที่ประเทศเกาหลี ญี่ปุ่น ไต้หวัน ฮ่องกง ฯลฯ ซึ่งได้กลายเป็นจุดเปลี่ยนอย่างสำคัญแห่งหน้าประวัติศาสตร์ศาสนา ในการเชื่อมพระพุทธศาสนาเถรวาทกับมหายานเข้าด้วยกันอย่างแนบแน่นจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะพระพุทธศาสนามหายานในหลายประเทศ เช่น ญี่ปุ่น และจีน เป็นต้น ได้สร้างภูเขาทองจำลองไว้เป็นอนุสรณ์แห่งสายสัมพันธ์ทางศาสนาในเวลาต่อมา
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2022/10/3907920A-D4EF-48E0-A732-FB69F1FFF562-2-1024x807.jpg)
ในปี พ.ศ. ๒๕๐๗ ภายหลังได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เจ้าประคุณสมเด็จฯ ได้ออกเดินทางไปปฏิบัติศาสนกิจไกลถึงภาคพื้นยุโรป และก่อเกิดวัดไทยแห่งแรกขึ้นในประเทศเนเธอร์แลนด์ ชื่อว่า “วัดพุทธาราม” ต่อมา เมื่อคณะสงฆ์เกิดกองงานพระธรรมทูตสายต่างประเทศ ทำให้วัดไทยเริ่มขยายออกไปตามประเทศต่างๆ ในยุโรปและออสเตรเลียทั้งเยอรมัน อังกฤษ ฝรั่งเศส และอิตาลี เป็นต้น
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2022/08/64B70769-2C7B-413A-A64D-B925AF259514-2.jpg)
ในการเดินทางไปปฏิบัติศาสนกิจนอกอาณาเขตไกลออกไปถึงยุโรป เจ้าประคุณสมเด็จฯ มีโอกาสได้พบกับ ท่านปรีดี พนมยงค์ และชาวไทยผู้ลี้ภัยทางการเมืองที่พำนักอยู่ในยุโรปเป็นจำนวนมาก จึงได้ทราบถึงสภาพความเป็นอยู่และความต้องการของชาวไทยในต่างประเทศ ซึ่งนอกจากจะต้องต่อสู้กับสภาพภูมิอากาศที่หนาวเหน็บตลอดทั้งปี แล้วยังจะต้องปรับตัวให้เข้าวัฒนธรรมของประเทศนั้นๆ ด้วย สิ่งที่ชาวไทยต้องการในขณะนั้น คือ ต้องการให้มีวัดและพระสงฆ์ไปอยู่ประจำ
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2022/08/6EB03EBA-DCEB-4F4E-8032-7E100DF544D4-2.jpg)
สำหรับทางยุโรป โดยเฉพาะประเทศในแถบสแกนดิเนเวีย เป็นดินแดนที่ไม่น่าจะมีพระสงฆ์สามารถไปสร้างวัดไทยได้ เนื่องจากสภาพภูมิประเทศและสภาพภูมิอากาศค่อนข้างเหน็บหนาว ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะเกือบตลอดทั้งปี เจ้าประคุณสมเด็จฯ ได้ยึดเอาประเทศเนเธอร์แลนด์เป็นจุดเริ่มต้นในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในแถบสแกนดิเนเวีย โดยมีความเชื่อมั่นว่า แม้สภาพภูมิอากาศประเทศในแถบสแกนดิเนเวียจะหนาวเกือบตลอดทั้งปี แต่สภาพจิตใจของคนในแถบนี้ กลับอ่อนโยน จึงเกิดความเชื่อมั่นว่าพระพุทธศาสนาน่าจะเจริญได้ในสแกนดิเนเวีย จึงชักธงธรรมจักรขึ้นเหนือหน้าต่างที่พัก เป็นสัญลักษณ์ว่าพระพุทธศาสนาเริ่มหยั่งรากฝังลึกลงบนดินแดนแห่งนี้แล้ว ทำให้วัดไทยเกิดขึ้นอีกมากมายในเวลาต่อมา เช่น วัดพุทธาราม เนเธอร์แลนด์, วัดพุทธาราม กรุงสต็อกโฮล์ม, วัดพุทธาราม เฟรดิก้า ประเทศสวีเดน, วัดไทยนอร์เวย์ ประเทศนอร์เวย์, วัดไทยเดนมาร์ก กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก, วัดไทยฟินแลนด์ กรุงเฮลซิงกิ, วัดไทยในเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี, วัดไทยไอซแลนด์ และวัดไทยเบลเยียม ซึ่งขยายวัดออกไปอีกถึง ๓ วัดในลักเซมเบิร์ก ในเวลาต่อมา
วัดพุทธาราม เนเธอร์แลนด์ นับได้ว่าเป็นวัดไทยแห่งแรกในยุโรป และเป็นศูนย์ฝึกพระธรรมทูตให้รู้จักวิธีการดำรงชีวิตในประเทศแถบสแกนดิเนเวีย จากนั้นพระธรรมทูตก็ถูกส่งออกไปปฏิบัติศาสนกิจในประเทศต่างๆ ในแถบนี้ในเวลาต่อมา
พระพุทธศาสนาในประเทศสวีเดน เป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับการตอบรับจากประชาชนอย่างดียิ่ง และเป็นประเทศแรกในโลกตะวันตก ที่ทั้งภาครัฐและเอกชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างวัด โดยดำริจะให้มีวัดไทยเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้พระพุทธศาสนาในประเทศของตน และได้จัดสรรพื้นที่ให้กว่า ๒๗๐ ไร่ เพื่อดำเนินการสร้างวัดไทย การที่ภาครัฐและเอกชนของประเทศสวีเดนได้เข้ามาดูแลการสร้างวัดไทยเช่นนี้ จึงเป็นสิ่งที่น่าภูมิใจสำหรับชาวไทยที่นับถือพระพุทธศาสนา หากเอาเงินไทยไปสร้างวัดให้ฝรั่ง จะต้องนำเงินไทยออกจากประเทศจำนวนมหาศาลจึงจะสร้างวัดได้สักวัดหนึ่ง
การสร้างวัดไทยในต่างประเทศ โดยเฉพาะทางด้านทวีปยุโรป พระสงฆ์ใช้เงินไทยน้อย แต่จะใช้เงินประเทศนั้นเพื่อสร้างวัดประเทศนั้น ซึ่งเป็นการให้ฝรั่งสร้างวัดพระพุทธศาสนาให้ฝรั่งเอง เพราะเจ้าของผู้สร้างจะได้เกิดความรักความผูกพันในสิ่งที่เขาสร้างขึ้นมา จะทำให้วัดไทยมีความมั่นคง ได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างดี เจ้าประคุณสมเด็จฯ จึงวางเป็นแนวทางการสร้างวัดสำหรับพระธรรมทูตไว้ว่า
“พระสงฆ์ไปปฏิบัติงานประเทศใดต้องใช้เงินของประเทศนั้นสร้างวัด เพราะถ้าจะเอาเงินไทยไปสร้างวัดในต่างประเทศเราจะต้องเอาเงินบาทออกนอกประเทศเท่าไร จึงจะสร้างวัดได้วัดหนึ่ง ค่าเงินบาทกับเงินต่างประเทศแตกต่างกันมาก พระสงฆ์ที่ไปอยู่ต่างประเทศ จึงต้องเก่งและมีความอดทนสูง”
![สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) , สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) และ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ.ปยุตฺโต) เมื่อครั้งจาริกธรรมในอเมริกาเป็นครั้งแรก ปีพ.ศ.๒๕๑๔](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2020/08/สามสมเด็จ-1.jpg)
ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๑๕ เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ได้เดินทางไปสังเกตการณ์งานพระพุทธศาสนาตามมหาวิทยาลัยต่างๆ ในสหรัฐอเมริกา ตามคำนิมนต์ของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา โดยมีคณะผู้ร่วมเดินทางประกอบด้วย เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโน เมื่อครั้งสมณศักดิ์พระเทพคุณาภรณ์) เป็นหัวหน้าคณะ และคณะประกอบด้วย เจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญโญ เมื่อครั้งสมณศักดิ์ พระราชวรเวที) กับ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์(ประยุทธ์ ปยุตฺโต เมื่อครั้งสมณศักดิ์ พระราชวรมุนี) เป็นเหตุให้เห็นหนทางในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ได้เกิดการวางรากฐานพระพุทธศาสนา และเกิดวัดไทยขึ้นทั่วประเทศสหรัฐอเมริกา โดยอาศัยสมาคมชาวไทยต่างๆ เช่น สมาคมชาวไทยอีสาน สมาคมชาวไทยเหนือ และสมาคมชาวไทยทักษิณ ตลอดจนนักศึกษาไทยในอเมริกา
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2022/10/6FE0B8DD-BA12-484E-BFF1-18A8EFADD310-2.jpg)
![สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต) , สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) และ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) ภาพสามสมเด็จในอดีต เมื่อครั้งจาริกธรรมในอเมริกา](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2020/03/A02BB94A84D74B9199DF010748AC5481_0.jpg)
การเดินทางไปปฏิบัติศาสนกิจในดินแดนฝั่งตะวันตกไกลออกไปถึงสหรัฐอเมริกา นับเป็นการเดินทางเผยแผ่พระพุทธศาสนารอบโลกที่ไกลที่สุดเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การเผยแผ่พระศาสนาของคณะสงฆ์ หลังสิ้นสุดยุคพระธรรมทูตทั้ง ๙ สาย ของพระเจ้าอโศกมหาราช รวมระยะเวลาเดินทางถึง ๘๐ วัน ใน ๑๑ประเทศ ประกอบด้วยประเทศญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ เบลเยียม เยอรมนี เดนมาร์ก สวิตเซอร์แลนด์ อิตาลี กรีก และอินเดีย
![พระตำหนักสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (อยู่ ญาโณทโยมหาเถร) วัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2022/06/line_44462541525234-683x1024.jpg)
เมื่อท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ รับตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ ได้สร้างอาคารหลังหนึ่งขึ้นภายในบริเวณวัด และให้ชื่อว่า “อาคารอนุสรณ์สมเด็จฯ ญาโณทยมหาเถระ พ.ศ. ๒๕๑๗” เพื่อเป็นที่พักพระสงฆ์ต่างประเทศ ที่เข้ามาศึกษาเล่าเรียนพระพุทธศาสนาในประเทศไทย ให้ได้รับความสะดวกสบายในเรื่องที่อยู่อาศัย ก็เพื่อเป็นอนุสรณ์แด่ท่านเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช (อยู่ ญาโณทยมหาเถร) พระอาจารย์ผู้จุดประกายความคิดที่จะให้พระพุทธศาสนาแผ่ไพศาลไปในโลกตะวันตก ซึ่งอาคารดังกล่าวได้มีพระสงฆ์จากประเทศลาว กัมพูชา พม่า จีน ญี่ปุ่น เวียดนาม เนปาล และบังคลาเทศ เป็นต้น เข้ามาพำนักอยู่เรื่อยมา หลังจบการศึกษาบางรูปเดินทางกลับประเทศ บางรูปได้ทำหน้าที่เป็นพระธรรมทูตในนามพระสงฆ์ไทยเดินทางไปเผยแผ่พระศาสนายังประเทศตะวันตก
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2022/10/0EFE37A1-647F-4131-81D5-91F555B9B193-2-1024x425.jpg)
แม้การเผยแผ่พระพุทธศาสนาในต่างประเทศ การตั้งวัดในต่างประเทศ และการที่จะให้มีพระธรรมทูตไปประจำที่ต่างประเทศในยุคแรกเริ่ม ต้องพบกับอุปสรรคปัญหานานาประการ แต่ในที่สุด เจ้าประคุณสมเด็จฯ ก็สามารถนำพาพระธรรมทูตสายต่างประเทศ ก้าวข้ามห้วงเวลาแห่งความยากลำบากไปได้
ทุกครั้งที่มีผู้ตำหนิพระธรรมทูตต่างประเทศ เจ้าประคุณสมเด็จฯ ก็จะกล่าวด้วยแววตาอ่อนโยนเสมอว่า “คนไทยไปเมืองนอก เพื่อไหว้ฝรั่ง แต่พระไปเมืองฝรั่งเพื่อให้ฝรั่งไหว้”
แม้กระนั้นก็ตาม การสร้างวัดในต่างประเทศ ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ พระธรรมทูตต้องทำงานอย่างน่าสงสาร น่าเห็นอกเห็นใจ ต้องทุ่มเทสรรพกำลังความสามารถ ต้องใช้เงินจำนวนมหาศาล และต้องเสียสละทุกสิ่งทุกอย่าง แม้กระทั่งชีวิต กว่าจะสร้างวัดได้แต่ละวัด
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2022/10/10CEC673-2FBB-4A0E-88F8-847206A379C0-2-1024x707.jpg)
วิถีแห่งผู้นำ : สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสณมหาเถร) ๗๔. ต้องนำพระพุทธศาสนากระจายออกไปทั่วโลกให้ได้ : เรียบเรียงโดย พระครูอมรโฆสิต (ปรีชา สาเส็ง)
![พระครูอมรโฆสิต (ปรีชา สาเส็ง) และ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ)](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2022/03/1F850FDA-068B-47B1-9C99-0FB76DCBFA16-2999.jpg)