หลังจากพิธีบำเพ็ญกุศลสัตตมวาร (ทำบุญ ๗ วัน) แห่งการคืนสู่ธรรมชาติของ คุณแม่สุพร เหมประไพ สิริอายุ ๗๒ ปี (โยมมารดา พระมหาขวัญชัย กิตฺติเมธี ป.ธ.๙,ผศ.ดร.) ณ วัดลำโพง ตำบลพุดซา อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันศุกร์ที่ ๒๒ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ ที่ผ่านมา จากนั้นเคลื่อนศพไปตั้งเก็บไว้ ณ ศาลาบำเพ็ญวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร
เมื่อครบกำหนด ๑๐๐ วัน จะมีพิธีบำเพ็ญกุศล ซึ่งรายละเอียดเพิ่มเติมจะแจ้งให้ทราบในภายหลัง โดยในวันดังกล่าว มีคณะสงฆ์วัดสระเกศฯ พร้อมกับบุตรหลาน ญาติสนิท และกัลยาณมิตรทางธรรม มารอรับสรีรสังขารของคุณแม่สุพร เหมประไพ ด้วยความอบอุ่น
จึงขอน้อมนำคติธรรมจากหลวงพ่อสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสณมหาเถระ) อดีตประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็นพระสังฆราช และอดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาววิหาร จากหนังสือ “ธรรมะให้ลูกดี” มาเป็นกำลังใจในการดำเนินชีวิตอย่างไม่ประมาท ตอนหนึ่งว่า
เป็นคติธรรมที่สร้างสรรค์สังคมให้เกิดความสงบร่มเย็นจนปรากฏเป็นจริยาที่งดงาม เป็นความงามแห่งโลกอย่างแท้จริง
จัดพิมพ์โดย สำนักพิมพ์อนันตะ
พระพุทธองค์ตรัสว่า
“การให้ธรรมะเป็นธรรมทาน ชนะการให้ทุกอย่าง”
การให้ธรรม คือ การบอกทางที่จะเดินไปสู่ความดี
คุณพ่อ คุณแม่สอนลูกให้เป็นลูกที่ดี
“คือการบอกทางแห่งความดี คือ การให้ธรรมเป็นทานนั่นเอง”
โยมแม่สุพร เหมประไพ คือจุดเริ่มต้นของความเสียสละที่ได้ฝากพระมหาขวัญชัย กิตฺติเมธี ลูกพระไว้ในบวรพระพุทธศาสนา ให้เป็นศาสนทายาทที่สำคัญอีกรูปหนึ่งของคณะสงฆ์ไทย ซึ่งท่านได้ทำหน้าที่ของพระลูกชายโดยสมบูรณ์แล้ว
สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสณมหาเถระ) ปรารภธรรมไว้ในหนังสือ “ธรรมะให้ลูกดี” อีกตอนหนึ่งว่า
พ่อแม่คือพระพรหมของบุตรธิดา
พระพุทธองค์ทรงสอนเรื่อง ความสำคัญของบิดามารดา ปรากฏใน “พระไตรปิฎก” ทั้งใน “พระวินัย” , “พระสูตร” และ “พระอภิธรรม” เช่นใน “สพรหมสูตร” เป็นต้น ทรงยกย่องบิดา มารดา ไว้ในฐานะที่สูง เช่น ทรงยกย่องว่า “เป็นพระพรหมของบุตร ธิดา”
ทรงปฏิบัติด้วยพระองค์เอง ตามที่ทรงสอน เช่น ทรงปฏิบัติใน “พระเจ้าสุทโธทนะ” พระพุทธบิดา และทรงแสดงพระอภิธรรมบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ จนพระพุทธมารดาบรรลุธรรม เป็นเหตุให้ผู้นับถือพระพุทธศาสนา ปฏิบัติต่อบิดา มารดา ตามที่ทรงสอน และปฏิบัติตามพระพุทธจริยาที่พระองค์ทรงปฏิบัติ
สังคมไทยตั้งแต่ระดับครอบครัว ที่ปฏิบัติตามที่กล่าวมาแล้ว จึงมีความมั่นคง แนบแน่น ดังความมั่นคงแนบแน่น ระหว่างบิดามารดากับบุตรธิดา “เป็นเหตุให้ความมั่นคง ร่มเย็นเป็นสุข แก่ชาติบ้านเมืองโดยส่วนรวม”
ตราบใดที่สังคมไทยยังปฏิบัติตามที่พระพุทธองค์ทรงสอน และตามที่พระพุทธองค์ทรงปฏิบัติ ประเทศชาติบ้านเมืองก็จะมั่นคง และร่มเย็นเป็นสุขอยู่ตราบนั้น
มารดาบิดา เป็นพระประจำบ้าน เป็นเทวดาประจำเรือน
สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสณมหาเถระ) ให้คติธรรมต่อมาอีกว่า “โบราณท่านกล่าวว่า มารดา บิดา เป็นพระประจำบ้าน เป็นเทวดาประจำเรือน” แม้จะไปไหว้พระที่ไหน ที่เขาลือกันว่าสำคัญ ก็อย่าลืมไหว้พระที่เป็นมารดาบิดาที่บ้าน แม้จะไปไหว้เทวดาที่ไหน ที่เขาลือกันว่าสำคัญ ก็อย่าลืมไหว้เทวดาที่ประจำอยู่ที่บ้าน ได้แก่ มารดา บิดา
ในเวลาที่ท่านมีชีวิตอยู่ก็ให้ไหว้ จะไหว้ต่อหน้า หรือไหว้ลับหลัง จะไหว้ก่อนนอน หรืออย่างไรก็ตาม ควรไหว้ทั้งนั้น
“สำคัญอยู่ที่การระลึกถึงพระคุณของท่าน”
สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสณมหาเถระ)
ในเวลาที่มารดาบิดายังมีชีวิตอยู่ แต่อยู่ห่างไกล ไม่สามารถที่จะไหว้ที่ตัวท่านได้ ก็ให้ไหว้ระลึกถึงความดีของท่าน เมื่อท่านจากไปแล้วไม่สามารถที่จะไหว้ที่ตัวท่านได้ “ก็ให้ไหว้ระลึกถึงความดีของท่าน”
คุณแม่เป็นพระประจำบ้าน
คติโบราณว่า มารดาบิดาเป็นพระประจำบ้าน เทวดาประจำเรือน เป็นคติตามแนวคำสอนทางพระพุทธศาสนา สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสสอนเรื่อง ความสำคัญของมารดาบิดา ปรากฏอยู่ในคัมภีร์มากแห่ง เช่น ใน สพรหมสูตร เป็นต้น มีข้อความว่า
“มารดาบิดาเป็นพระพรหม เป็นบูรพาจารย์ เป็นดุจพระอรหันต์”
สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสณมหาเถระ)
เพราะท่านมีจิตใจประกอบด้วยพรหมวิหารธรรม มีเมตตา เป็นต้น ต่อชีวิตจิตใจของลูก มีจิตใจที่จะแนะนำพร่ำสอนลูก มีจิตใจบริสุทธิ์ ต่อชีวิตจิตใจของลูกอยู่เสมอ
ผู้ปฏิบัติดูแลผู้มีพระคุณดีอย่างไร
ใน “สพรหมสูตร” พระพุทธองค์ทรงยกย่องบิดามารดา ว่าเป็นพรหม เป็นบูรพาจารย์ และเป็นอาหุเนยยบุคคลของบุตรธิดา เพราะท่านมีพระคุณอย่างยิ่งต่อบุตรธิดา บิดามารดาจึงชื่อว่า
“ผู้มีพระคุณ”
ผู้ปฏิบัติดูแลมารดาบิดาชื่อว่า ผู้ปฏิบัติดูแลผู้มีพระคุณ ตามที่พระพุทธองค์ตรัสยกย่องบิดามารดา ว่าเป็นอาหุยบุคคล มีความหมายสูงสุด เพราะอาหุเนยยบุคคล หมายถึง พระอริยเจ้า ตั้งแต่พระโสดาบันขึ้นไปจนถึงพระอรหันต์
ผู้ปฏิบัติดูแลมารดาบิดา จึงเท่ากับดูแลพระอริยเจ้าประจำชีวิตตน การปฏิบัติดูแลพระอริยเจ้า มีผลดีมากอย่างไร การปฎิบัติดูแลมารดาบิดาก็ย่อมมีผลดีอย่างนั้น
บุตรธิดามีโอกาสปฏิบัติดูแลบิดามารดา จึงชื่อว่ามีโอกาสที่เป็นมงคลยิ่ง ดังพระพุทธองค์ตรัสไว้ในมงคลสูตร ว่า
“การปฎิบัติบำรุงบิดามารดาเป็นมงคลอย่างสูงยิ่ง”
พระคุณขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ผู้มีพระคุณ มีความสำคัญอย่างสูงยิ่งทางจิตใจของผู้รู้จักพระคุณ เช่น พระคุณขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีความสำคัญยิ่งทางจิตใจของพุทธศาสนิกชน ทางพระพุทธศาสนา แสดงผลแห่งจิตใจ ที่รู้จักพระคุณไว้อย่างสูงส่ง จนนำจิตใจให้เข้าถึงพระนิพพาน
“ผู้รู้จักพระคุณของผู้มีพระคุณโดยตรง
และโดยอ้อมจึงไม่ตกต่ำ
มีแต่ความเจริญรุ่งเรือง ร่มเย็นใจ”
สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสณมหาเถระ)
เมตตาธรรมค้ำจุนโลก
ในพระพุทธศาสนา ความรักที่บริสุทธิ์ เรียกว่า “เมตตาธรรม” คนทั้งโลกปรารถนาเมตตาธรรม ผู้ที่มีเมตตาธรรมเพียงคนเดียว สร้างความชุ่มชื่น เช่น มารดาบิดา สร้างความชุ่มชื่นให้แก่บุตรธิดา เป็นต้น
ในปัจจุบันชาวโลกที่อยู่กันได้ เพราะเมตตาธรรมเป็นเครื่องค้ำจุน สิ่งที่ตรงกันข้ามกับเมตตาธรรม มีแต่ทำลาย รุ่มร้อน ในพระพุทธศาสนาสอนให้คนมีเมตตาธรรม ทั้งในระดับธรรมดา และในระดับสูง ด้วยการทำใจให้สงบด้วยเมตตาธรรม ที่เรียกว่า
“กรรมฐานเมตตาพรหมวิหาร”
พระพุทธเจ้าทรงสอนเรื่อง ผลดีแห่งเมตตาธรรมไว้ ๑๑ อย่าง มีเป็นที่รักของเพื่อนมนุษย์และเทวดาทั้งหลาย เป็นต้น