หลังจากที่พระครูสมุห์สุพัฒน์ อนาลโย พระธรรมทูต กลุ่มเพื่อชีวิตดีงาม สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคงแห่งสถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ วัดสระเกศ ฯ เดินทางถึง วัดพุทธเมตตามหาบารมี ประเทศสหรัฐอเมริกา ยังไม่ทันได้พักหายเหนื่อย ท่านและพระสงฆ์ที่มาด้วยกันก็ต้องเดินทางไปปฏิบัติศาสนกิจสำคัญแรก ณ วัดปากน้ำอเมริกา รัฐโอไฮโอ ด้วยความยินดีอย่างยิ่งของท่านเจ้าอาวาส
งานนี้ไม่ใช่ใครๆ ก็ทำได้ ยกเว้นพระที่มีความสามารถทางช่างอยู่บ้าง
มาเรียนรู้การเจริญสติกับการสร้างฐานพระพุทธรูปประธาน
เมื่อโต๊ะ และเก้าอี้แสดงธรรม อะไรจะเกิดขึ้น…
ธรรมลิขิต
โดย พระครูสมุห์สุพัฒน์ อนาลโย
“พระพุทธศาสนากำลังต้องการกำลังสติปัญญาจากพระหนุ่มเณรน้อยพอดี”
จาริกธรรมในอเมริกา ตอนที่ ๓
วันที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๖๒ เดินทางมาถึงอเมริกาสนามบินนิวออรีน มีอุบาสกมานะขับรถไปรับส่งที่วัดพุทธเมตตามหาบารมี รัฐมิสซิสซิปปี มาถึงเวลา ๓ ทุ่ม ได้กราบพระสมุห์พิสิษฐ์ จิตตปัญโญ เจ้าอาวาสวัดพุทธเมตตามหาบารมี
พรุ่งนี้จะเดินทางไปช่วยงานเจ้าอาวาสวัดปากน้ำอเมริกา รัฐโอไฮโอ จัดงานฉลองสมโภชยกช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ ศาลาการเปรียญ เราไปช่วยกัน… พักผ่อนนอนพักเอาแรงก่อนเวลา๘:๐๐ น. ออกเดินทางหลังจากฉันอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อยพร้อมเพียงกันแล้วเดินทางเลยนะ
พระอาทิตย์ขึ้นส่องแสงบ่งบอกให้เราได้ตื่นเตรียมตัวทำหน้าที่ของตนกับควันหมอกสีขาวมัวๆ รับแสงแดดสวยงาม บรรยากาศพาให้ใจมันสดชื่นในวันใหม่กับชีวิตใหม่ที่อเมริกาวันที่สองได้เวลาเดินทางแล้ว
เก็บของใช้ส่วนตัว ผู้โดยสารพร้อม โชว์เฟอร์พร้อม อ้าว… เดินทางล้อรถเคลื่อนวิ่งไปตามเส้นทางถนนยามเช้าอยู่ที่เมืองมิสซิสซิปปี วัดพุทธเมตตามหาบารมี แวะเข้าห้องน้ำเป็นจุดพักจอดรถและทานข้าว ได้เวลาฉันเพลพอดีก็ตระเตรียมจัดอาหารฉันด้วยกันสามรูป เป็นอาหารเพลมื้อแรกได้บรรยากาศมากที่ศาลาในสวนพักรถเหมือนกับว่าเราได้ไปฉันข้าวในป่าเลย
ฉันเสร็จแล้วเก็บปัดกวาดเข้าห้องน้ำเรียบร้อยแล้วเดินทางต่อไปจุดมุ่งหมายคือ “วัดปากน้ำอเมริกา” ใช้เวลาเดินทางประมาณ ๑๒ ชั่วโมงก็มาถึงวัดปากน้ำ จากนั้นก็เริ่มมืดค่ำประมาณ ๑ ทุ่ม ได้เข้าไปกราบเจ้าอาวาสวัด พระวิเทศวิสุทธิคุณ (สมัคร สมัคโค) หรือ ท่านเจ้าคุณสมัคร ท่านได้ต้อนรับพระอาคันตุกะมาเยี่ยมเยือนช่วยงานวัดเป็นอย่างดียิ่ง ถวายน้ำปานะพูดคุยสนทนาปราศรัยกัน
อาจารย์เจ้าอาวาสวัดเมตตามหาบารมีได้แนะนำพระลูกวัดมาช่วยงานในวัดมีสามรูปด้วยกัน คือ พระมหาเอกรินทร์ มหาปัญโญ เมืองไทยอยู่วัดเพลง บางพลัด กรุงเทพฯ พระมหาบุญศรี วิสุทธิญาโณ วัดเทวีวรญาติ ป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ และพระสุพัฒน์ อนาลโย วัดพระยาทำ บางกอกน้อย กรุงเทพฯ
อาจารย์เจ้าคุณว่า ดีแล้วมาช่วยงานกัน พระพุทธศาสนากำลังต้องการกำลังสติปัญญาจากพระหนุ่มเณรน้อยพอดี พระพุทธศาสนาจะได้เจริญแผ่หลายยิ่งขึ้นไป ที่วัดนั้นก็กำลังก่อสร้างใหม่มีพระหนุ่มมีกำลังแรงเยอะช่วยกันสร้างแปลงวัดใหม่สวยงามอันมรดกของพระพุทธศาสนาต่อไป
หลังจากนั้นก็ได้ไปพักผ่อนเตรียมตัวกายและใจทำความดีกันฝากผลงานไว้ในพระบวรพระพุทธศาสนาให้รุ่นลูกหลานสืบต่อกัน
วันแรก… พระธรรมทูตหลับบนหลังคาศาลาในเวลาทำงาน
จากงานที่วางแผนกันไว้ วันที่หนึ่ง…เราช่วยกันติดตั้งใบระกาและช่อฟ้าด้านหลังศาลาเป็นอันแรก ช่วงเช้าก็ทำเสร็จก่อนที่จะฉันเพล ในช่วงบ่ายก็ลุยงานต่อนำโดยอาจารย์พิษฐ์ และพระลูกวัดอีกสามรูปคนละไม้คนละมือจับเล็งติดด้วยสกรูน็อตให้แน่นออกมาสวยงาม ในระหว่างนี้มีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นกับผู้เขียนเอง เนื่องจากรับหน้าที่ขึ้นบนหลังคาศาลา รอรับใบระกาหางหงส์ติดขอบจั่วหลังคา นั่งรอคอยเพื่อนที่จะส่งใบระกามาให้ ต้องวัดระยะให้พอดีแล้วก็ตัดส่งยื่นขึ้นมาให้ข้างบน
ซึ่งผู้เขียนรออยู่ข้างบน บรรยากาศแดดร่มลมตกลมพัดเย็นสบาย เพื่อนบ้านก็เปิดเพลงกล่อมเสียงเข้ามาสัมผัสกับหูชวนให้ใจคิดเพลิดเพลินคิดตามเสียง(ไม่เข้าใจภาษาอังกฤษ) แต่ทำให้เรามีจินตนาการตามเสียงดนตรีเคลิ้มตามเผลอหลับบนหลังคาศาลา เคยได้ยินแต่แอบหลับในห้องเรียนและเผลอหลับในระหว่างขับรถ นี่เราเผลอหลับในเวลาทำงาน สงสัยจะเพลียหนักก็เลยหลับแบบไม่รู้ตัว…ระหว่างนั้นเหมือนฝันได้ยินเสียงเรียกว่า ”จ๊อดๆ” สะดุ้งตื่นขึ้นมาอ้าว… เราหลับไปหรือนี่ อายก็อาย ลุยขึ้นมาทำงานต่อด้วยน้ำใจของคนทำงาน
หลังจากนั้นผู้เขียนก็ได้รับฉายาใหม่ว่า “พระธรรมทูตหลับบนหลังคาศาลาในเวลาทำงาน” ตั้งแต่นั้นมา พระอาจารย์เจ้าคุณและเพื่อนก็แซวตลอด คงเป็นเรื่องเล่ากล่าวขานอีกนานแสนนานทีเดียว
วันนี้ได้งานด้วยได้เรื่องเล่าด้วย เหลือแต่ติดช่อฟ้าและทำคานติดตั้งเชือกลอกชักดึงช่อฟ้าขึ้นไปบนหลังคาเพื่อทดลองติดตั้งแก้ไข เมื่อถึงเวลางานจริงๆ จะไม่พลาดถ้าจะพลาดก็ให้น้อยที่สุด
วันที่สอง…จำวัดอย่างมีสติ
หลวงพ่อเคนและอาจารย์บุญศรีช่วยกันทำฐานพระพุทธรูปอยู่ข้างในศาลาทั้งวัด ตัด ประกอบต่อ ขัด ทาสี ช่วยกันทำ ๖ รูป ขั้นตอนสุดท้ายทาสี ช่วยกันทาสีสามรอบเสร็จสรรพเรียบร้อยเวลาผ่านไปถึงสามทุ่มกว่า เก็บอุปกรณ์เสร็จ แล้วแยกย้ายกันเข้าที่พักผ่อนจำวัดอย่างมีสติ
วันที่สาม…โต๊ะปิกนิกแสดงธรรม
ตั้งเป้าไว้ว่า วันนี้จะทำโต๊ะปิกนิกนั่งรับประทานอาหาร ๒๐ ตัว เจ้าอาวาสท่านเก่งมีความสามารถหลายทางโดยเฉพาะช่างไม้ หลายปีที่แล้วท่านก็มาทำโต๊ะให้วัดปากน้ำอเมริกานี้ไว้ ๓๐ ตัว
ระยะเวลาผ่านไปทุกสิ่งทุกอย่างต้องเป็นไปนามกฎไตรลักษณ์ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป เป็นธรรมดาร่วม ทั้งสิ่งที่มีวิญญาณและไม่มีวิญญาณ เช่น โต๊ะนั่งรับประทานอาหารนี้ก็มีการเสื่อมโทรมชำรุดผุพังไปตามการใช้งานและกาลเวลาก็ต้องซ่อมแซม ปรับเปลี่ยนใหม่แทนที่ที่มันผุพังให้ดูดีขึ้นมาอีกครั้ง
โต๊ะนี่สอนธรรมะว่า “อย่าประมาทในชีวิตที่อันสั้นน้อยนิด ชีวิตเปรียบเสมือนเส้นด้ายพร้อมที่จะขาดได้ตลอดเวลา ในตัวเราก็เปรียบเหมือนลมหายใจเข้า-ออก ตลอดเวลาจะหมดลมหายใจวันไหนก็ไม่รู้ อย่าประมาทว่าตนยังเป็นหนุ่ม เส้นผมยังดำอยู่ไม่ตายง่ายหรอก มัจจุราชความตายไม่เลือกเวลา เพศวัย รวยจน พระโยม ทุกหน่วยงานนี้ไม้พ้นทุกราย”
ดังนั้น รีบสร้างบุญกุศล ในกรอบสามอย่างได้แก่ ให้ทาน รักษาศีล และเจริญสติ บริหารชำระจิตใจให้บริสุทธิ์จากความชั่ว ชีวิตที่ดีคือรู้สึกตัว รักษาสติให้อยู่ในตนให้ได้ ชีวิตก็ปลอดภัยจากอบายภูมิหรือนรกเป็นต้น
กลับมาหาโต๊ะอีกครั้งได้ซ่อมแซมโต๊ะประมาณ ๑๐ ตัว เปลี่ยนที่นั่งแผ่นที่เสียหายให้ใหม่ หรือที่แผ่นบนวางอาหารด้านบนก็เปลี่ยนให้บางชิ้น
ตอนเช้า… อาจารย์พิษฐ์ เจ้าอาวาส อาจารย์เอก อาจารย์บุญศรี และผู้เขียน ทั้งห้ารูปช่วยกันตัดไม้ทำแบบของโต๊ะ เพื่อประกอบได้เร็วขึ้น ช่วงที่ตัดไม้อยู่นั้นพระอาจารย์เอกท่านหมดแรงก็ไปรับข้าวต้มมัดมานั่งฉันอยู่รูปเดียวเพิ่มพลังสู้
ส่วนผู้เขียนก็หมดเรี่ยวแรงกำลังลดถอยลง ก่อนทำงานตอนเช้าฉันข้าวต้มไปแล้วมันไม่อยู่ท้องหมดแรง ที่จะยกไม้หน้าก็มืดแล้ว ก็เดินไปหาพระอาจารย์เอกนั่งฉันข้าวต้มมัด ท่านว่า “พระอาจารย์ผมหมดพลังเข้มกุ๋ยแล้วครับ เรารอดตายได้ เพราะข้าวต้มมัดแท้ๆ ถึงแม้มันจะเล็กก็อิ่มท้องสู้งานต่อไปจนถึงเวลาฉันเพล”
พอฉันเสร็จแล้วก็มาทำโต๊ะปิกนิกเพิ่มอีก ๒๐ ตัว ในภาคบ่ายวันนี้จนถึงสองทุ่มได้โต๊ะเพียงแค่ ๑๒ ตัวเท่านั้น
พระช่วยกันสร้างโต๊ะอยู่ ๖ รูป เราไม่ทำงานเกินสามทุ่ม เพราะจะรบกวนเพื่อนบ้านเขาอาจโทรศัพท์ไปแจ้งเจ้าหน้าที่ของเมืองได้ ซึ่งที่นี่เรียกว่า”ซิตี้” เป็นหน่วยงานในอำเภอหรือ นายอำเภอบ้านเราประมาณนี้
วันนี้ก็ผ่านไปได้ด้วยดีพักผ่อนตามอัธยาศัย จำวัดอย่างมีสติ หลับง่ายนอนสบาย เพราะเราจำวัดฝึกสติไปด้วย ดูลมหายใจเข้าออกรู้สึกตัวหายใจเข้าออก หรือคลึงมือข้างใดข้างหนึ่งให้นิ้วโป้งกับนิ้วชี้แตะกันและหมุนไปเรื่อยๆ จนกว่าจะหลับ นี่คือการจำวัดแบบอย่างมีสติรู้สึกตัว
วันที่สี่…บุญสำเร็จด้วยความเพียร
ตอนเช้าหลังฉันข้าวแล้วก็ลุยทำโต๊ะปิกนิกต่อครบ ๒๐ ตัวแล้ว ตอนบ่ายช่วยกันประดับผ้าสี ผ้าใส่คานยกช่อฟ้าใบระกาบนหลังคาศาลาเสร็จก็ลงมาทำมาประดับผ้าด้านล่างสำหรับตั้งช่อฟ้า เพื่อให้ญาติโยมมาทำบุญร่วมกันติดทองและผ้าสามสี แล้วทำล้อเลื่อนช่อฟ้าขึ้นไปติดตั้งไว้ข้างบนหลังคาศาลาเสร็จเรียบแล้วเวลาก็ปาเข้าไปสามทุ่ม
ในที่สุด… วันนี้ได้ประสบผลสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ได้โต๊ะปิกนิก ๒๐ ตัว และคานที่ติดตั้งช่อฟ้าไว้บนหลังคาศาลา ที่ตั้งฉลองบูชาติดทองผูกผ้าสามสี ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จเสร็จแล้วก้อยู่ในที่นั้น งานทุกชิ้นที่เราทำแล้วคือความภาคภูมิใจ
พระจ๊อดส์ ๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๒