จาริกธรรมในอเมริกา (ตอนที่ ๑๘)
“หน้าที่กับธรรมะ” โดย พระครูสมุห์สุพัฒน์ อนาลโย
การดำรงชีวิตของคนเรา สัตว์ และพืชพันธุ์อยู่ได้ทุกวันนี้ ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตน รับผิดชอบบทบาทที่ได้มอบหมายทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ แต่สุดท้าย ก็เพื่อให้หน้าที่ออกมาจบอย่างสมบูรณ์ตามความสามารถและสติกำลังปัญญาของเรา
จงภูมิใจในบทบาทหน้าที่ที่ตนทำ
แม้จะมีอุปสรรคบ้าง ประสบผลสำเร็จบ้าง มีอุปสรรคและปัญหาคิดแก้ไขไม่แก้ตัว ยามประสบความสำเร็จก็ทำต่อไป ผลออกมาอย่างไรก็ยอมรับมันให้ได้
สิ่งที่ควรกระทำไว้ในใจเสมอคือ
“สิ่งที่เราลงมือทำทุกครั้ง
ย่อมผลสองอย่างเสมอคือ
สมหวังและผิดหวัง
ก็ปล่อยมันเป็นธรรมชาติแล้วสู้ต่อไป”
อย่ากังวลกับมัน เมื่อมันถูกต้อง ไม่ก่อความเดือดร้อนให้กับใคร ทำให้ดีที่สุด และทำให้สุดความสามารถที่มีอยู่เท่านี้พอ แค่นี้มีความสุขใจในหน้าที่การงานของตนแล้ว
ท่านผู้รู้ได้กล่าวไว้ว่า รูปแบบในใช้ชีวิตอย่างน่าคิดมีอยู่ ๔ ประการคือ กิน ขี้ สืบพันธุ์ และนอน
กิน หมายถึง การเลี้ยงชีวิตให้อยู่รอดไปเป็นวันหนึ่งๆ ด้วยอาหารหวานคาว ผลหมากรากไม้บำรุงร่างกายให้เจริญเติบโตตามกาลเวลา นำสิ่งที่ดีมีประโยชน์เข้าสู่ร่างกาย ร่างกายเปรียบเสมือนเรือนบ้านของจิตใจกายกับใจสัมพันธ์กันรักกัน เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน มีความสามัคคีกัน ไม่เบียดเบียนกัน ไม่เห็นแก่ตัว
“ร่างกายกับจิตใจถ้าไม่ขัดกันก็รอด
ถ้าขัดกันตอนไหนบรรลัยกันทั้งสองอย่างเลย”
อีกความหมายหนึ่ง คำว่า กิน คือ เวลามันกลืนกินลมหายใจ กินเวลาของเราไป ชีวิตก็สั้นๆลดลงไปเรื่อยๆ เหมือนกับชีวิตแขวนไว้บนเส้นด้าย อย่าคิดประมาทกับชีวิต คิดที่จะประมาทชีวิตก็ก้าวสู้ความหายนะแล้วหรือจบชีวิตนั้นเอง
ขี้ หมายถึง อุจจาระขับถ่ายออก เมื่อมีการกินเข้าไปก็ย่อมมีการเอาออกเป็นธรรมดาของกระบวนการของธรรมชาติ นำอาหารเข้าไปในท้องอย่างเดียวไม่มีการระบายขับถ่ายออกร่างกายก็แย่เหมือนกัน
ขี้ที่ว่าเหม็นแล้วยังสู้ขี้นี้ไม่ได้คือ ขี้เกียจ ขี้คร้าน ขี้โมโหโกรธ ขี้อิจฉาริษยา ขี้ตระหนี่ เป็นต้น ควรชำระขี้เหล่านี้ออกจากจิตใจเสียที แล้วจิตใจจะได้พื้นที่ที่ดีของจิตใจไว้ทำความดีต่อไป
สืบพันธุ์ หมายถึง การดำรงวงศ์ตระกูลเผ่าพันธุ์เชื้อสายให้ดำรงอยู่ได้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้
นอน หมายถึง การพักผ่อนหย่อนใจ หลังจากทำงานมาทั้งวันแล้วร่างอ่อนเพลียแล้วก็ต้องการพักผ่อน “คนมีจิตใจก็ยังต้องการพักผ่อนหลับนอน คนนะไม่ใช่เครื่องยนต์ แม้แต่เครื่องยนต์ก็ต้องการพักเช่นกัน เพราะมันร้อนก็เลยน็อกเอาเหมือนกัน
นี่คือระบบวงจรชีวิตเราที่ทุกคนต้องสัมผัสแน่แท้คือ
กิน ขี้ สืบพันธุ์ และนอน
ดังนั้น การกินให้พอประมาณ ขี้ให้เป็นระบบ สืบพันธุ์รักใคร่ในคู่ของตน และนอนๆ ให้เป็นเวลา ได้เรียนรู้ชีวิตจริงๆ เข้าใจธรรมชาติของคน ได้ธรรมะมาเตือนสติในการใช้ชีวิต เพื่อย้ำเตือนตนเองว่า “ชีวิตนี้ไม่มีอะไรมากจริงๆ เพียงแค่ดูลมหายใจเข้าออก รู้สึกตัวอยู่กับปัจจุบันให้มากที่สุด”
การงานบทบาทที่รับผิดชอบคือหน้าที่ ธรรมะคือ ได้เรียนรู้จิตใจของตนเอียงไปทางไหน จะโลภ โกรธ และหลง ดีหรือชั่วอย่างไร ดีก็คือธรรมะ ชั่วก็คือธรรม ดีก็อย่าพึ่งดีใจจนเกินไป เสียใจก็อย่าด่วนเสียใจจนเกินงาม ดีก็ดีให้พอดีแล้วจะดี
เมื่อทำงานก็ทำงานนั้นจริงๆ อยู่กับงานที่ทำ ไม่ใจลอยหนีงาน และสามารถทำงานแบบปล่อยวางใจได้ ความเบาสบายใจ เฉยๆ กับความคิดนั้นได้ รอยยิ้มเกิดขึ้น ความสุขกับงานที่ทำก็มีได้เช่นกัน
ดังคำสอนของหลวงพ่อพุทธทาสที่ว่า
“การทำงานคือปฏิบัติธรรม ๆ
ก็คือการทำงานทางจิตใจนั้นเอง”
สุดท้าย คุณจะเป็นใครมาจากไหน ก็เป็นมนุษย์ในโลกใบนี้ พร้อมด้วยบทบาทหน้าที่ของแต่ละท่าน จะให้หน้าที่สมบูรณ์แบบก็ปฏิบัติหน้าที่มีธรรมะครองใจด้วย ก็จะเป็นที่รักของครอบครัว ผู้ร่วมงาน เพื่อน และตนเอง
แต่อย่าหลงตนเองกับคำชื่นชม
และอย่าเสียใจกับคำตำหนินินทาของคนอื่นที่มาทำร้ายจิตใจ
จงคิดไว้ในใจว่า “เราทำอะไรก็คือหน้าที่” ใจเราจะเบา ไม่มีสิ่งอื่นใดนอกจากหน้าที่ของตนแล้ว นอกนั้นคือผลกำไรชีวิต นี่หละคือคนมีหน้าที่กับธรรมะภายในจิตใจ
จาริกธรรมในอเมริกา (ตอนที่ ๑๘) “หน้าที่กับธรรมะ ” โดย พระครูสมุห์สุพัฒน์ อนาลโย