จาริกธรรมในอเมริกา (ตอนที่ ๓๕)
“พระคุณนี้ต้องตอบแทน”
โดย พระครูสมุห์สุพัฒน์ อนาลโย
กลุ่มเพื่อชีวิตดีงาม สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมและความมั่นคงแห่งสถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ วัดสระเกศ
เวลาผ่านพ้นไป ๓ ปีแล้ว บุคคลที่เรารักเคารพนับถือได้ไปจากเราอย่างไม่มีวันเวลาที่จะได้เห็นหน้า ได้แตะต้องด้วยกายสัมผัส ด้วยใจที่รู้ตอบสนองต่อกันอีกนานแสนนาน
ท่านนั้นคือ โยมแม่ของอาตมาท่านเสียชีวิตไปแล้ว
ความตายนี้เป็นที่สิ้นสุดของชีวิตคน สัตว์ และธรรมชาติในโลกใบนี้ ไม่มีใครจะหนีพ้นจากความตายไม่ได้ นอกจากพระอรหันต์เท่านั้น ตายแล้วจะไม่กลับเกิดอีก
เราทุกคนคงเคยได้เห็นได้ดูได้ฟังเรื่องของความตายไม่มากก็น้อย บางท่านก็พ่อแม่เสียชีวิตต่อหน้าต่อตา บางคนไม่ได้เห็นแม้แต่ลมหายใจสุดท้ายของพ่อแม่และญาติผู้ใหญ่ด้วยซ้ำไป
มันเป็นธรรมชาติธรรมดาที่พระพุทธเจ้าท่านทรงสอนให้สาวกได้รับรู้ว่า
“เรามีตายเป็นธรรมดา จะหนีไม่พ้นความตายไม่ได้”
เจ้ามัจจุราชนี้ จะไม่แบ่งแยกคนมั่งมียากจน ทุกคนมีสิทธิ์เท่ากัน เป็นเด็กเล็ก น้อยใหญ่ ทุกเพศทุกวัยทุกอาชีพ จุดสุดท้ายจบที่ความตายทุกคน ดังนั้น ตอนมีชีวิตอยู่โปรดเมตตากรุณาต่อกัน อย่าทำร้ายกันและกัน อย่าดูถูกดูแคลนกัน เพราะทุกคนเป็นมนุษย์เหมือนกัน
ตอนที่โยมแม่มีชีวิตอยู่ อาตมาได้พูดกับท่านไม่มากนัก เวลาที่กลับบ้านเยี่ยมเยือนแม่ที่บ้านทุกครั้งอาตมาจะเป็นฝ่ายฟังแม่เสมอ ท่านพูดเก่งมาก อาตมาจะแพ้ทางแม่ตลอด ไม่รู้ว่าเป็นอะไรนะ เหมือนท่านรู้ใจเราอ่านใจออก คิดว่าแม่ทุกคนน่าจะรู้นิสัยใจคอลูกดีทุกคน
ทีนี้เมื่อเราเป็นลูกของแม่ เราเอาใจใส่ท่านมากน้อยเพียงใด
เคยเห็นความลำบากตรากตรำของท่านที่ใช้แรงกายแรงใจหาเงินมาเลี้ยงเราบ้างไหมตั้งแต่เล็กจนเติบโตมีงานทำเลี้ยงชีวิตตนเองได้เพราะใคร ?
เคยเห็นอกเห็นใจท่านบ้างไหม ?
มีใครสักกี่คนที่เข้าใจแม่รู้ว่าท่านชอบอะไร เกลียดอะไร ตอนที่ท่านยังมีชีวิตอยู่
เมื่อท่านตายจากไปแล้วจะไม่เสียดาย เราน่าจะซื้ออันนั้นอันนี้ให้ท่าน น่าจะบอกรัก กล่าวคำขอโทษ สิ่งดีๆ และไม่ดีที่ฝังใจไว้ให้บอกท่านออกไปเลย ไม่เช่นนั้นเดี๋ยวสิ่งนี้จะอยู่ในใจเราจนวันตาย ถ้าเราไม่กล้าที่เอ่ยปากบอกท่านตอนที่ยังมีชีวิตอยู่
แม้แต่พระพุทธเจ้าพระองค์ท่านก็ยังตอบแทนพระคุณของพ่อแม่ของพระองค์ พระพุทธมารดาเสด็จสวรรคตไปก็เสด็จไป พระองค์ก็ทรงตอบแทนพระคุณที่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์เทศน์โปรดพระพุทธมารดาจนได้บรรลุธรรม
จากนั้น พระองค์ทรงตอบแทนพระคุณของพระพุทธบิดาที่เป็นกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ พระพุทธองค์ได้เสียสละราชสมบัติออกบวชจนได้ตรัสรู้ธรรมเป็นพระพุทธเจ้าแล้ว ก็กลับไปโปรดพระบิดาจนได้บรรลุธรรม
พระอัครสาวกเบื้องขวาที่มีปัญญามากของพระองค์ คือท่านพระสารีบุตร ท่านได้กลับบ้านแสดงธรรมจนแม่เปลี่ยนศาสนาจากพราหมณ์มานับถือพระรัตนตรัยตามลูกชายตลอดชีวิต
แล้วเราทั้งหลายชาวพุทธจะไม่เจริญรอยตามองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าบ้างหรืออย่างไร
พระองค์ทรงสรรเสริญยกย่องบุคคลที่หาได้ยากในโลก ๒ บุคคล คือ
บุพพการี คือบุคคลที่ทำอุปการะก่อน ผู้ที่มีบุญต่อเราทุกคน
กตัญญูกตเวที คือ บุคคลที่รู้อุปการะที่ท่านทำแล้ว และตอบแทน รู้จักบุญคนอื่นแล้วรู้จักตอบแทนบุญคุณคน
ให้เราเลือกเอาจะเป็นคนแบบไหนของชีวิต จะเป็นเพียงแค่รู้จักบุญคุณคนเฉยๆ แล้วไม่ตอบแทน หรือจะเป็นทั้งผู้รู้จักบุญคนอื่นแล้วหาโอกาสตอบแทน
บุคคลที่มีบุญคุณต่อเรามากที่สุดคือพ่อแม่
เมื่อเรารู้จักผู้ที่มีบุญคุณต่อเราแล้วจะนิ่งดูดายจะไม่ตอบแทนบุญคุณท่านบ้างหรืออย่างไร
สุดท้าย แม่ของอาตมาเสียชีวิตไปแล้ว ตอนที่อยู่เมืองไทยก็ทำหน้าที่ของลูกคือ ทำบุญอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้ท่าน.มาต่างแดนครบรอบที่ท่านเสียชีวิตก็ถือโอกาสทำบุญอุทิศให้ท่านตามกำลังและความสามารถของลูกเอง
ขอบคุณพ่อแม่ที่ให้ชีวิตได้เกิดมาได้มาเรียนรู้ธรรมของชีวิตจริง จะไม่ปล่อยโอกาสที่ท่านได้เสียสละลูกชายมาบวชในพระพุทธศาสนา จะทำหน้าที่ของพระให้ดีที่สุด และจะเรียนรู้ใจปล่อยวางความทุกข์ให้มากที่สุด
จนกว่าความทุกข์นี้จะลดน้อยลงหมดไปในชาตินี้ตอบแทนพระคุณของแม่ที่เสียชีวิตไป และตอบแทนพระคุณของพ่อที่ยังมีชีวิตอยู่ นี่คือ พระคุณนี้ที่ต้องตอบแทน
จ๊อด
๓๑ พฤษภาคม ๒๕๖๓
จาริกธรรมในอเมริกา (ตอนที่ ๓๕)”พระคุณนี้ต้องตอบแทน” โดย พระครูสมุห์สุพัฒน์ อนาลโย กลุ่มเพื่อชีวิตดีงาม สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมและความมั่นคงแห่งสถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ วัดสระเกศ