วันนี้ พระอาจารย์จ๊อดส์ พระวิทยากรจากกลุ่มเพื่อชีวิตดีงาม มีโอกาสได้สนทนากับคนขับแท็กซี่ทุกวันนี้ มาดูกันว่า วิธีคิดและการปฏิบัติตนอย่างไรจึงสามารถอยู่ได้ และอยู่ดีในยุคนี้

เพราะ…​

คำว่า “อดตาย” ไม่มีในคนขยัน

โดย พระครูสมุห์สุพัฒน์ อนาลโย

พระครูสมุห์สุพัฒน์ อนาลโย พระวิทยากรจากกลุ่มเพื่อชีวิตดีงาม สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม ฯ วัดสระเกศฯ
พระครูสมุห์สุพัฒน์ อนาลโย พระวิทยากรจากกลุ่มเพื่อชีวิตดีงาม
สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม ฯ วัดสระเกศฯ

“ โอ้ย..พระอาจารย์เศรษฐกิจมันไม่ดี ข้าวของมันแพงขึ้น​  ผู้คนเขาก็ประหยัดอดออมกันหมดช่วงนี้มันไม่แน่นอน​ แต่ก่อนผมไม่ได้มาขับแท็กซี่นะ ผมประกอบธุรกิจส่วนตัวเล็กๆ​ แต่มีลูกน้องก็ต้องขึ้นไปจุดธูปไล่บอก เวลาเงินเดือนออกก็ต้องรีบไปหามาจ่ายให้เขา​ เมื่อไม่มีก็ไปยืมคนอื่นมาให้ก่อน​ มันรู้สึกหนักใจมากก็เลยเบื่อหน่ายประกอบเศรษฐกิจมันไม่ดีด้วย​”

หลังจากนั้น​ เขาก็ยกเลิกธุรกิจส่วนตัวแล้วก็มาขับแท็กซี่ได้ห้าปีนี้เอง ​ก็ยังดีพอจุนเจือครอบครัวได้​  ในระหว่างทาง มีอุบัติเหตุขึ้นข้างถนน น่าจะคนเมาแล้วขับรถ มีตำรวจยืนถ่ายรูปรถล้มอยู่ด้วย​ 

ผู้เขียนถามว่า “เคยดื่มสุราไหม?”

แท็กซี่ตอบว่า ผมไม่ดื่มสุรา​ ไม่สูบบุหรี่ครับ​  มันไม่มีประโยชน์อะไรเลย​ มีแต่ทำร้ายสุขภาพแถมเสียตังค์ไปกลับมาทำร้ายตนเองอีก​   บางครั้งบางเวลามีงานเลี้ยงรุ่นผมเป็นคนขับรถไปส่งเพื่อนทุกครั้ง​ และเคยทดลองเก็บตังค์ใส่กระปุกออมสินวัน​ละ ๕๐​ บาทต่อเดือนที่เหลือจากขับแท็กซี่​แล้ว​  เดือนหนึ่งได้​  ๑,๕๐๐​ บาท​ ดีกว่าเราจะไปซื้อบุหรี่มาสูบ

พระอาจารย์ครับ…. คนที่ขับแท็กซี่จะเสียไปกับการกิน ดื่ม และเล่นการพนัน ใช้ชีวิตแบบอิสระ​  เพื่อปากท้องตนเองไปวันๆ มีเงินก็หยุด และไปดื่มเล่น ชีวิตก็ย่ำอยู่กับที่​   บางคนขับแท็กซี่มีเงินส่งลูกไปเรียนจบต่างประเทศก็มี  บางคนส่งลูกเรียนจบหมอพยาบาล​ ​ หรือได้เรียนมหาวิทยาลัยดังๆ ในกรุงเทพฯ  มีการงานดีทำ​ เป็นตำรวจ ก็มี ที่ผมได้พบเจอมา

แล้วโยมระหว่างที่ประกอบธุรกิจและขับแท็กซี่มันแตกต่างกันอย่างไร​?

เขาตอบว่า ถ้าทำธุรกิจมันหนักทุกข์ใจกับลูกน้องบ้าง​ กับงานที่ทำบ้าง​ ต้องแบกภาระความคิดความรับผิดชอบหลายอย่าง​  ส่วนขับแท็กซี่มันไม่ได้ไปแบกความรับผิดชอบชีวิตครอบครัวอื่นนอกจากครอบครัวตนเองเท่านั้น

“ขออภัยมีลูกกี่คน” อาตมาถาม

“ มีสองคนครับ… พี่คนโตเรียนจบทำงานแล้วครับ​  ส่วนคนเล็กกำลังเรียนปีสี่ ถ้าเรียนจบผมจะโล่งสบายใจกว่านี้  พี่ชายเขาคงจะช่วยน้องอยู่มั้งครับ…โยม​  ก็ไม่อยากไปรบกวนเขาหรอก​  ถ้าไม่สุดวิสัยจริงๆ​ ก็อาศัยเขาบ้างบางเวลาครับ”

จากเรื่องนี้จะเห็นประสบการณ์การสู้ชีวิตประหยัด ​รู้ว่าสิ่งไหนที่ตนควรทำ และไม่ควร​ รักษาสุขภาพเพราะเห็นคุณค่าของชีวิต​ มีความรักเสียสละเลี้ยงลูกจนได้งานทำและไม่อยากรบกวนลูกตนเอง​ ความเกรงอกเกรงใจพ่อแม่ที่มีต่อลูก​ ส่วนตนก็หาเลี้ยงปากท้องไม่งอมืองอเท้า ขยันทำมาหากิน​ และรู้จักวางใจเป็นทำหน้าที่ตนด้วยใจที่สุจริต

ฉะนั้น​  คนเราเลือกเกิดไม่ได้​  แต่เราสามารถกำหนดอนาคตตนเองได้ว่าจะเดินไปในเส้นทางไหนแล้ว… ลงมือทำด้วยใจที่บริสุทธิ์​ ซื่อตรงต่อหน้าที่อาชีพของตน​ ไม่ว่าอาชีพไหนๆ​ ก็ดีหมด​

ถ้าใจเรารักในอาชีพนั้น​ ขยันทำงานเห็นคุณค่าและภาคภูมิใจในอาชีพนั้นจะไม่มีคำว่า​.. อดตาย…ในหมู่คนขยัน​ 

ดังสุภาษิตที่​ “คนพ้นทุกข์ได้​  เพราะความเพียร”

และความพยามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น

คำว่า “อดตาย” ไม่มีในคนขยัน

พระครูสมุห์สุพัฒน์  อนาลโย ผู้เขียน กลุ่มเพื่อชีวิตดีงาม
พระครูสมุห์สุพัฒน์ อนาลโย ผู้เขียน

โดย พระครูสมุห์สุพัฒน์ อนาลโย

กลุ่มเพื่อชีวิตดีงาม

สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมฯ วัดสระเกศฯ

คอลัมน์ ธรรมลิขิต โดย

พระครูสมุห์สุพัฒน์ อนาลโย

หน้าธรรมวิจัย นสพ.คมชัดลึก

วันอังคารที่ ๒๕ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๖๒

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here