วันอาทิตย์ที่ ๑๙ เดือน พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ เวลา ๑๖.๐๐ น.
ขอเรียนเชิญทุกท่าน ร่วมแสดงมุทิตาจิต
กำหนดการ
พิธีอัญเชิญหิรัญบัฏ พัดยศ และเครื่องประกอบสมณศักดิ์ พระราชาคณะเจ้าคณะรอง
ถวายแด่พระพรหมสิทธิ (ธงชัย สุขญาโณ)
อัญเชิญสัญญาบัตร พัดยศ ถวายแด่พระศรีคุณาภรณ์ (บุญทวี ปญฺญาวํโส)
และถวายสัญญาบัตร พัดยศ แด่พระครูสิริวิหารการ (สมจิตร จิตฺตธมฺโม)
วันอาทิตย์ที่ ๑๙ เดือน พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ เวลา ๑๖.๐๐ น.
ณ พระอุโบสถวัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร
เวลา ๑๕.๓๐ น.
– พระสงฆ์ และพุทธศาสนิกชน พร้อม ณ พระอุโบสถวัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร
– เจ้าหน้าที่สำนักอาลักษณ์และเครื่องราชอิสริยาภรณ์ และเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ตั้งขบวนอัญเชิญหิรัญบัฏ, เครื่องประกอบสมณศักดิ์, สัญญาบัตร และพัดยศ ณ ลานโพธิ์ลังกา หน้าพระอุโบสถวัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร
เวลา ๑๖.๐๐ น.
– ขบวนอัญเชิญหิรัญบัฏ, เครื่องประกอบสมณศักดิ์, สัญญาบัตร และพัดยศ เข้าสู่พระอุโบสถวัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร
– ประธาน ฯ จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย
– ประธาน ฯ กราบพระรัตนตรัย
– ประธาน ฯ เปิดกรวยถวายเครื่องราชสักการะเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว / ถวายความเคารพ
– นั่ง ณ เก้าอี้
– เจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ อาราธนาศีล
– ประธานสงฆ์ ให้ศีล จบแล้ว
– เจ้าหน้าที่สำนักอาลักษณ์และเครื่องราชอิสริยาภรณ์ อัญเชิญหิรัญบัฏ พร้อมเครื่องประกอบสมณศักดิ์ ถวายแด่พระพรหมสิทธิ
– เจ้าหน้าที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ถวายสัญญาบัตรแด่พระพรหมสิทธิ
– ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ถวายพัดยศแด่พระพรหมสิทธิ
ลำดับต่อจากนั้น
– เจ้าหน้าที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ถวายสัญญาบัตรแด่พระศรีคุณาภรณ์
– ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ถวายพัดยศแด่พระศรีคุณาภรณ์
ลำดับต่อจากนั้น
– เจ้าหน้าที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ถวายสัญญาบัตรแด่พระครูสิริวิหารการ
– ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ถวายพัดยศแด่พระครูสิริวิหารการ
– ในขณะนั้น พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ เจริญชัยมงคลคาถา เสร็จแล้ว
– ผู้มีเกียรติถวายเครื่องไทยธรรมแด่พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา
– พระสงฆ์ทั้งนั้น อนุโมทนา
– พระพรหมสิทธิ ถวายอดิเรก
– ประธาน ฯ กรวดน้ำ รับพร
– เสร็จพิธี –
– พระพรหมสิทธิ มอบของที่ระลึก
– คณะสงฆ์วัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร ประกอบพิธีสามีจิกรรมถวายพระพรหมสิทธิ
เวลา ๑๗.๐๐ น.
– ตั้งขบวนอัญเชิญหิรัญบัฏ เครื่องประกอบสมณศักดิ์ สัญญาบัตร และพัดยศ ออกจากพระอุโบสถ ผ่านลานโพธิ์ลังกา ด้านหน้าพระอุโบสถ ถนนเส้นกลางวัด หยุด ณ พระตำหนักสมเด็จพระสังฆราชญาโณทยมหาเถระ
– จัดตั้งประดิษฐานบนโต๊ะหมู่บูชา
– พระพรหมสิทธิ จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย
– กราบพระรัตนตรัย
– พระพรหมสิทธิ จุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยเบื้องหน้าพระแท่นประดิษฐานพระอัฐิ เจ้าพระคุณสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (ญาโณทยมหาเถระ)
– พระพรหมสิทธิ, พระศรีคุณาภรณ์ และพระครูสิริวิหารการ ถวายพานธูปเทียนแพ กระทำสามีจิกรรมเบื้องหน้าพระแท่นประดิษฐานพระอัฐิเจ้าพระคุณสมเด็จ พระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (ญาโณทยมหาเถระ) , เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (อุปเสณมหาเถระ) พร้อมบูรพาจารย์วัดสระเกศ
– เจ้าหน้าที่ลาดผ้ารองโยง
– เจ้าหน้าที่ลาดผ้าภูษาโยง
– พระพรหมสิทธิ และผู้มีเกียรติทอดผ้าไตรบังสุกุล
– พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ พิจารณาผ้าไตรบังสุกุล
– พระสงฆ์ทั้งนั้น อนุโมทนา
– กรวดน้ำ รับพร
– เสร็จแล้ว ตั้งขบวนอัญเชิญสัญญาบัตร และพัดยศ ออกจากพระตำหนักสมเด็จพระสังฆราชญาโณทยมหาเถระ เข้าสู่ศาลาการเปรียญ
– จัดตั้งประดิษฐานบนโต๊ะหมู่บูชา
– พระพรหมสิทธิ, พระศรีคุณาภรณ์ และพระครูสิริวิหารการ ถวายพานธูปเทียนแพ กระทำสามีจิกรรมเบื้องหน้าแท่นประดิษฐานรูปเหมือนเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสณมหาเถระ)
– ผู้มีเกียรติ พุทธศาสนิกชน และคณะศิษยานุศิษย์ ถวายมุทิตาแด่พระพรหมสิทธิ
– มอบของที่ระลึก
– เสร็จพิธี –
หมายเหตุ การแต่งกาย – ข้าราชการ ชุดปกติขาว – ประชาชนทั่วไป ชุดสุภาพ – สุภาพสตรี ชุดไทย สีเหลือง
ประสานงาน พระครูศรีพิสุทธิศาสตร์ (พระอาจารย์อนุชา) โทร. ๐๘-๒๙๕๙-๙๓๕๙ , พระครูปลัดพุทธิวงศ์วรวัฒน์ (พระอาจารย์ตาล) โทร. ๐๖-๔๙๑๙-๖๑๙๕ , พระครูสิทธิสรกิจ (พระอาจารย์พิสุทธิ์) โทร. ๐๘-๑๘๕๐-๒๙๙๙ และ พระมหาฤทธิชัย ญาณิทฺธิโก (พระอาจารย์เอวิส) โทร. ๐๘-๔๖๓๕-๑๔๕๒
จัดขึ้น ณ พุทธมณฑลอีสาน พระธาตุนาดูน อำเภอนาดูน จังหวัดมหาสารคาม ระหว่างวันที่ ๒๗-๒๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๒
ประวัติพระครูสิริวิหารการ (สมจิตร จิตฺตธมฺโม, จันทร์ศรี)
วัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร
๑. สถานะเดิม
ชื่อเดิม สมจิตร นามสกุล จันทร์ศรี เกิดเมื่อวันที ๑๑ เมษายน ๒๕๑๓ ที่จังหวัดตราด
๒. การบรรพชา – อุปสมบท
ได้รับการบรรพชาเป็นสามเณร เมื่อวันที่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๒๖ ขณะอายุ ๑๓ ปี ที่วัดกุณฑีธาร ตำบลคลองกิ่ว อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี
ต่อมา ในปี พ.ศ.๒๕๒๘ ได้ย้ายมาสังกัดและอยู่จำพรรษาที่วัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร ได้รับการอุปสมบทเป็นพระภิกษุเมื่อวันที่ ๒๓ เมษายน ๒๕๓๓ ขณะ อายุ ๒๐ ปี ณ พระอุโบสถวัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร โดยมีเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) ขณะดำรงสมณศักดิ์ ที่ พระพรหมคุณาภรณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ และอยู่จำพรรษาที่วัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร ตลอดมา จนถึงปัจจุบัน
๓. การศึกษา
พ.ศ.๒๕๒๗ จบหลักสูตรจูฬอาภิธรรมมิกะเอก
พ.ศ.๒๕๒๘ จบหลักสูตรนักธรรมชั้นเอก
พ.ศ.๒๕๓๓ จบหลักสูตรเปรียญธรรม ๕ ประโยค
พ.ศ.๒๕๔๐ เมื่อวันที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๔๐ จบปริญญาตรี พุทธศาสตรบัณฑิต คณะพุทธศาสตร์ วิชาเอกศาสนา มหาวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
๔. งานสำคัญต่างๆ
๑. เป็นครูสอนโรงเรียนพระปริยัติธรรม
๒. เป็นอาจารย์สอนพระนวกะ สำนักเรียนวัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร
๓. เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร
๔. เป็นผู้ช่วยเลขานุการสำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคง แห่งสถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์
๕. เป็นคณะกรรมการอำนวยการสถาบันพัฒนาพระวิทยากรสำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคง แห่งสถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์
๖. เป็นคณะกรรมการอำนวยการพัฒนาหลักสูตรพระวิทยากร สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคง แห่งสถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์
๗. เป็นคณะกรรมการเขียนแผนยุทธศาสตร์สำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ
๘. เป็นคณะกรรมการอำนวยการพัฒนาหลักสูตรพระธรรมทูตสายต่างประเทศ เชิงปฏิบัติการ สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคง แห่งสถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์
๙. ได้รับแต่งตั้งจากพระพรหมสิทธิ ในฐานะผู้ช่วยแม่กองธรรมสนามหลวง ให้เป็นคณะกรรมการดำเนินงานประชาสัมพันธ์ เผยแผ่ และรณรงค์ การเรียนการสอน และการสอบธรรมศึกษา
๕. ได้ปฏิบัติงานสนองพระคุณประเทศชาติ พระพุทธศาสนา ดังนี้
๑. เป็นพระพี่เลี้ยงพระภิกษุผู้บวชใหม
๒. เป็นครูพระสอนศีลธรรมในสถาบันการศึกษาต่าง ๆ
๓. เป็นคณะกรรมการสถานศึกษาของโรงเรียนวัดสระเกศ
๔. เป็นคณะกรรมการสถานศึกษาวิทยาลัยสารพัดช่าง พระนคร
๕. เป็นคณะกรรมการสถานศึกษาโรงเรียนสมาหารศึกษา
๖. เป็นอาจารย์สอนพระนวกะ
๗. เป็นพระธรรมกถึกแสดงพระธรรมเทศนาในพระอุโบสถ ตลอดปี
๘. เป็นพระวิทยากรประจำวัดสระเกศ ในการนำชม บรรยาย ทัศนศึกษาให้แก่ หน่วยงานราชการ สถาบันการศึกษา ประชาชนทั่วไป
๙. เป็นพระวิทยากรอบรมเชิงปฏิบัติการ “ผู้นำศาสนาเพื่อคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ และเสริมสร้างสมานฉันท์” กรมคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ
๑๐. เป็นพระวิทยากรอบรมสามเณรภาคฤดูร้อน, สามเณรภาคฤดูหนาว
๑๑. เป็นพระวิทยากรอบรมครู โครงการโรงเรียนวิถีพุทธ
๑๒. เป็นพระวิทยากรในโครงการ “ธรรมะเยียวยาใจ ผู้ประสบภัยน้ำท่วม” ประจำสำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคง แห่งสถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์
๑๓. เป็นผู้นำข้อสอบของแม่กองบาลีสนามหลวง ไปเปิดสอบในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๑๐ ประกอบด้วย จังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดมุกดาหาร จังหวัดอำนาจเจริญ และจังหวัดนครพนม
๑๔. เป็นพระธรรมทูตสอนพระพุทธศาสนา วัฒนธรรมประเพณี และภาษาไทย ที่วัดบุญญาราม อำเภอกูปังปะสู รัฐเคดาห์ (Kedah) ประเทศมาเลเซีย
๑๕. เป็นพระวิทยากรในโครงการอบรมถวายความรู้คณะพระวิทยากร โครงการค่ายพุทธบุตร, โครงการค่ายพุทธศาสนิกสัมพันธ์ใน ๕ จังหวัดชายแดนใต้ ประกอบด้วย จังหวัดสงขลา จังหวัดสตูล จังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา และจังหวัดนราธิวาส ในโครงการส่งเสริมความมั่นคงของพุทธศาสนา ๕ จังหวัดชายแดนใต้ ตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๕๒ เป็นต้นมา
๑๖. เป็นคณะกรรมการทำงานโครงการจัดตั้งพระธรรมทูตอาสา ๕ จังหวัด ชายแดนใต้ ประจำสำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคง แห่งสถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์
๑๗. พ.ศ.๒๕๕๗ ได้รับแต่งตั้งจากผู้ช่วยแม่กองธรรมสนามหลวง (พระพรหมสิทธิ) ให้ดำรงตำแหน่งคณะกรรมการดำเนินงานประชาสัมพันธ์ เผยแผ่ และรณรงค์การเรียนการสอนและการสอบธรรมศึกษา
๑๘. พ.ศ.๒๕๕๘ ได้รับพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราช แต่งตั้งเป็นผู้ช่วยเลขานุการสำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคงแห่งสถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์
๑๙. พ.ศ.๒๕๕๘ ได้รับแต่งตั้งจากประธานสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ เป็นกรรมการอำนวยการศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว ประเทศเนปาล
๒๐. พ.ศ.๒๕๕๘ ได้รับแต่งตั้งจากประธานดำเนินงานสำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคง แห่งสถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ วัดสระเกศ ให้เป็นคณะทำงานโครงการศูนย์กลางการเผยแผ่กิจการพระพุทธศาสนา
๒๑. พ.ศ.๒๕๕๘ ได้รับคำสั่งแต่งตั้งจากเจ้าอาวาสวัดสระเกศ (พระพรหมสิทธิ) ให้เป็นคณะกรรมการบูรณะพระอาราม วัดสระเกศ ตามคำสั่งเจ้าอาวาสวัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร คำสั่งที่ ๑๖/๒๕๕๘ ลงวันที่ ๒๓ ธันวาคม ๒๕๕๘
๖. สมณศักดิ์
พ.ศ.๒๕๕๐ ได้รับแต่งตั้งเป็นพระครูฐานานุกรม ในเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) ที่ “พระครูศัพทสุนทร”
พ.ศ.๒๕๕๑ ได้รับพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราช แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร
พ.ศ.๒๕๕๒ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ พระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นพิเศษ ที่ “พระครูสิริวิหารการ”
และมิได้มีประกาศราชกิจจานุเบกษาถอดถอนสมณศักดิ์แต่อย่างใด
ดังนั้น เมื่อวันที่ ๓๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๗ มหาเถรสมาคม ได้มีมติว่า ยังดำรงสมณศักดิ์ที่ พระครูสิริวิหารการ และผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร เสมอมา ซึ่งสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้ถวายนิตยภัตรดังเดิมด้วยแล้ว
“ขุนเขาย่อมมีวันทลาย สายน้ำย่อมมีวันเปลี่ยนทาง แต่ปณิธานมหาบุรุษไม่เปลี่ยนแแปลง” ภาคพิเศษ ๓ “พระผู้เต็มเปี่ยมด้วยเมตตาและกรุณา” พระครูสิริวิหารการ (สมจิตร จิตฺตธมฺโม, จันทร์ศรี)
รำลึกวันมหาปีติ
“ขุนเขาย่อมมีวันทลาย สายน้ำย่อมมีวันเปลี่ยนทาง แต่ปณิธานมหาบุรุษไม่เปลี่ยนแแปลง” จากหนังสือ “ทศชาติ ปณิธานมหาบุรุษไม่เปลี่ยนแปลง” ฉบับ ญาณวชิระ ได้เรียบเรียงขึ้นใหม่ จัดพิมพ์ขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๙๐ พรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๕
และได้นำทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ เวลา ๒๐.๒๓ น.
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี นำ พระสงฆ์ และคณะบุคคล เฝ้าและเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวาย และทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายหนังสือ “ทศชาติ ปณิธานมหาบุรุษไม่เปลี่ยนแปลง” ฉบับญาณวชิระ พระพุทธรูป และทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงิน เพื่อทรงใช้สอยตามพระราช อัธยาศัย
ซึ่งคณะพระเถระ วัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร
ประกอบด้วย
พระธงชัย สุขญาโณ (อดีตพระพรหมสิทธิ)
พระมหาสังคม ญาณวฑฺฒโน (อดีตพระราชอุปเสณาภรณ์
พระมหาเทอด ญาณวชิโร (อดีตพระราชกิจจาภรณ์)
พระมหาบุญทวี ปญฺญาวํโส (อดีตพระศรีคุณาภรณ์)
พระมหาสมจิตร จิตฺตธมฺโม (พระครูสิริวิหารการ)
ได้เรียบเรียงเรื่องราวในหนังสือขึ้น เพื่อระลึกถึงพระคุณของพระพุทธศาสนาและพระปณิธานอันแน่วแน่ ของพระโพธิสัตว์ ที่ได้ทรงบำเพ็ญพระบารมี ๑๐ ประการ และน้อมรำลึกในพระราชจริยาวัตรของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ได้ทรงบำเพ็ญต่อบวรพระพุทธศาสนา ด้วยพระวิริยะอุตสาหะ เพื่อบูชาพระไตรรัตน์ให้ดำรงอยู่คู่ประเทศไทยสืบไป