ธรรมนิพนธ์ เรื่่อง สุวรรณบรรพต : สยามพุทธศิลป์ เขียนโดย พระวิจิตรธรรมาภรณ์ (เทอด ญาณวชิโร) /พิมพ์ครั้งแรก มีนาคม ๒๕๕๖ โดย สำนักพิมพ์อนันตะ
ธรรมนิพนธ์ เรื่่อง สุวรรณบรรพต : สยามพุทธศิลป์ เขียนโดย พระวิจิตรธรรมาภรณ์ (เทอด ญาณวชิโร) /พิมพ์ครั้งแรก มีนาคม ๒๕๕๖ โดย สำนักพิมพ์อนันตะ

“พระสงฆ์ สายน้ำ และความทรงจำ”

ในมหาอุทกภัย ๒๕๕๔

(ตอนที่ ๒)

จากธรรมนิพนธ์ เรื่อง

“สุวรรณบรรพต สยามพุทธศิลป์”

เขียนโดย พระราชกิจจาภรณ์ (เทอด ญาณวชิโร)

พระสงฆ์ สายน้ำ และความทรงจำ

ในมหาอุทกภัย ๒๕๕๔

ตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๔ เป็นต้นมา ได้เกิดภาวะน้ำท่วมใหญ่ตามลุ่มน้ำต่างๆ ทั่วประเทศ ทั้งในภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคกลาง น้ำได้เอ่อขึ้นท่วมบ้านเรือน เรือกสวน ไร่นา สร้างความเสียหายให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน

เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสณมหาเถระ)

เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ มีความเมตตาห่วงใย พระภิกษุสามเณร และผู้ประสบอุทกภัย จึงได้มีบัญชาให้คณะสงฆ์นำสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคออกไปช่วยเหลือประชาชนตามที่ต่างๆ โดยในลุ่มแม่น้ำโขง ได้จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือฯ ที่วัดพระธาตุพนม จังหวัดนครพนม ที่ลุ่มแม่น้ำมูล จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือฯ ที่วัดปากน้ำ บุ่งสระพัง (หลวงพ่อเงิน ๗๐๐ ปี) จังหวัดอุบลราชธานี ลุ่มแม่น้ำชี ได้จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือฯ ที่วัดมหาพุทธาราม จังหวัดศรีสะเกษ และทางภาคเหนือ จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือฯ ที่วัดพระธาตุดอยสุเทพ เป็นต้น

ต่อมา ในเดือนกันยายน พ.ศ.๒๕๕๔ ได้เกิดภาวะน้ำท่วมใหญ่ในภาคกลาง จนกลายเป็น “วิกฤติมหาอุทกภัย” ครั้งร้ายแรงที่สุดของประเทศ

เริ่มตั้งแต่ จังหวัดอุตรดิตถ์ พิจิตร พิษณุโลก นครสวรรค์ สิงห์บุรี ชัยนาท อ่างทอง ลพบุรี สระบุรี อุทัยธานี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี เรื่อยลงมาตามลำดับ จนกระทั่งถึงธนบุรี และกรุงเทพมหานคร สร้างความเสียหาย เดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างใหญ่หลวงยิ่ง ผู้คนต่างไร้ที่อยู่อาศัย ไร้ข้าวปลาอาหาร วัดวาอารามถูกน้ำท่วม พระเจดีย์ พระประธาน โบสถ์ วิหาร ศาลาการเปรียญ ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก พระสงฆ์ได้รับผลกระทบไปทั่ว ไม่ต่างจากประชาชน โดยมีรายงานเบื้องต้นจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติว่า มีวัดที่ประสบอุทกภัยมากกว่า ๓,๕๒๕ วัด มีพระภิกษุได้รับความเดือดร้อนมากกว่า ๓๗,๐๐๐ รูป

ประชาชนต้องออกจากบ้านมาอาศัยอยู่ตามศาลาการเปรียญของวัด และวัดได้กลายสภาพเป็นศูนย์พักพิงของผู้ประสบภัยน้ำท่วมไปโดยปริยาย มีประชาชนอาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงของวัดมากกว่า ๓,๕๒๕ คน

เฉพาะในกรุงเทพมหานครมีวัดที่ประสบภัยน้ำท่วมมากกว่า ๑๔๖ วัด มีพระภิกษุสามเณรได้รับความเดือดร้อน มากกว่า ๕,๒๒๔ รูป

เจ้าประคุณสมเด็จฯ จึงได้มอบหมายให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดยมหาเถรสมาคม จัดตั้ง “ศูนย์ช่วยเหลือวัดและผู้ประสบภัยน้ำท่วมของคณะสงฆ์” ขึ้น ที่สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมฯ ศาลาเฉลิมพระเกียรติ วัดสระเกศ และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ พุทธมณฆล ภายใต้ความอุปถัมภ์ของเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เพื่อเป็นศูนย์ประสานงาน ให้ความช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อน และเสริมสร้างกำลังใจ แก่ผู้ประสบอุทกภัยตามศูนย์ผู้พักพิงต่างๆ

โครงการ"ธรรมะเยียวยาใจ" ผู้ประสบภัยน้ำท่วม หลังมหาอุทกภัย ปีพ.ศ.๒๕๕๔ ยังคงดำเนินต่อมาโดยกลุ่มเพื่อชีวิตดีงาม และกลุ่มใต้ร่มพุทธธรรม สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคงแห่งสถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ วัดสระเกศ อีกทั้งพระสงฆ์ทุกภาคส่วน ก็ยังคงเดินหน้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย และภัยธรรมชาติตลอดจนช่วยบรรเทาความเดือดร้อน เยียวยาความทุกข์ของประชาชนมาจนถึงทุกวันนี้
โครงการ”ธรรมะเยียวยาใจ” ผู้ประสบภัยน้ำท่วม หลังมหาอุทกภัย ปีพ.ศ.๒๕๕๔ ยังคงดำเนินต่อมาโดยกลุ่มเพื่อชีวิตดีงาม และกลุ่มใต้ร่มพุทธธรรม สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคงแห่งสถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ วัดสระเกศ อีกทั้งพระสงฆ์ทุกภาคส่วน ก็ยังคงเดินหน้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย และภัยธรรมชาติตลอดจนช่วยบรรเทาความเดือดร้อน เยียวยาความทุกข์ของประชาชนมาจนถึงทุกวันนี้

ศูนย์ช่วยเหลือวัด และผู้ประสบภัยน้ำท่วมของคณะสงฆ์ ได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง และเร่งด่วน โดยได้ออกหน่วยช่วยเหลือเรื่อยมาตามลำดับ ทั้งกลางวัน กลางคืน วันละหลายๆ รอบ แม้จะพบอุปสรรคในการเดินทาง แต่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เนื่องจากเห็นสภาพความลำบากของประชาชน โดยทุกๆ วัน บริเวณหน้าสำนักงานส่งเสริมคุณธรรมฯ ข้างบรมบรรพต (ภูเขาทอง) จะเห็นพระภิกษุ สามเณรและประชาชน ผู้มีจิตอาสา ช่่วยกันขนเครื่องอุปโภค บริโภค เรือ ขึ้นรถออกหน่วยไปช่วยเหลือยังสถานที่ต่างๆ

โครงการ"ธรรมะเยียวยาใจ" ผู้ประสบภัยน้ำท่วม หลังมหาอุทกภัย ปีพ.ศ.๒๕๕๔  ยังคงดำเนินต่อมาโดยกลุ่มเพื่อชีวิตดีงาม และกลุ่มใต้ร่มพุทธธรรม สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคงแห่งสถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ วัดสระเกศ อีกทั้งพระสงฆ์ทุกภาคส่วน ก็ยังคงเดินหน้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย และภัยธรรมชาติตลอดจนช่วยบรรเทาความเดือดร้อน เยียวยาความทุกข์ของประชาชนมาจนถึงทุกวันนี้
โครงการ”ธรรมะเยียวยาใจ” ผู้ประสบภัยน้ำท่วม หลังมหาอุทกภัย ปีพ.ศ.๒๕๕๔ ยังคงดำเนินต่อมาโดยกลุ่มเพื่อชีวิตดีงาม และกลุ่มใต้ร่มพุทธธรรม สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคงแห่งสถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ วัดสระเกศ อีกทั้งพระสงฆ์ทุกภาคส่วน ก็ยังคงเดินหน้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย และภัยธรรมชาติตลอดจนช่วยบรรเทาความเดือดร้อน เยียวยาความทุกข์ของประชาชนมาจนถึงทุกวันนี้

ในบางครั้ง รถไม่สามารถจะเดินทางไปได้ ก็ช่วยกันขนสิ่งของลงเรือ เพื่อนำไปช่วยเหลือวัด และผู้ประสบภัยน้ำท่วม แม้บางครั้งเรือจะล่ม รถจะตายติดต้ำ แต่พระภิกษุสามเณรและผู้มีจิตอาสาก็จะไม่ละความพยายาม ยังอุตสาหะนำสิ่งของไปถึงจุดหมายให้ได้

โครงการ"ธรรมะเยียวยาใจ" ผู้ประสบภัยน้ำท่วม หลังมหาอุทกภัย ปีพ.ศ.๒๕๕๔  ยังคงดำเนินต่อมาโดยกลุ่มเพื่อชีวิตดีงาม และกลุ่มใต้ร่มพุทธธรรม สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคงแห่งสถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ วัดสระเกศ อีกทั้งพระสงฆ์ทุกภาคส่วน ก็ยังคงเดินหน้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย และภัยธรรมชาติตลอดจนช่วยบรรเทาความเดือดร้อน เยียวยาความทุกข์ของประชาชนมาจนถึงทุกวันนี้
โครงการ”ธรรมะเยียวยาใจ” ผู้ประสบภัยน้ำท่วม หลังมหาอุทกภัย ปีพ.ศ.๒๕๕๔ ยังคงดำเนินต่อมาโดยกลุ่มเพื่อชีวิตดีงาม และกลุ่มใต้ร่มพุทธธรรม สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคงแห่งสถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ วัดสระเกศ อีกทั้งพระสงฆ์ทุกภาคส่วน ก็ยังคงเดินหน้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย และภัยธรรมชาติตลอดจนช่วยบรรเทาความเดือดร้อน เยียวยาความทุกข์ของประชาชนมาจนถึงทุกวันนี้

สิ่งของเหล่านี้ได้รับบริจาคมาจากผู้มีจิตศรัทธา และคณะสงฆ์จากภาคต่างๆ เช่น บริษัท บุญรอด บริวเวอรี่ จำกัด ได้จัดถวายน้ำดื่มสิงห์ ๓๕๐,๐๐๐ ลิตร ขาวสารตราพันดี ๒๗ ตัน และปัจจัย โดยทีมงานสิงห์อาสาได้เป็นตัวแทนนำไปมอบของในวัดต่างๆ ทั่วประเทศ

โครงการ"ธรรมะเยียวยาใจ" ผู้ประสบภัยน้ำท่วม หลังมหาอุทกภัย ปีพ.ศ.๒๕๕๔  ยังคงดำเนินต่อมาโดยกลุ่มเพื่อชีวิตดีงาม และกลุ่มใต้ร่มพุทธธรรม สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคงแห่งสถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ วัดสระเกศ อีกทั้งพระสงฆ์ทุกภาคส่วน ก็ยังคงเดินหน้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย และภัยธรรมชาติตลอดจนช่วยบรรเทาความเดือดร้อน เยียวยาความทุกข์ของประชาชนมาจนถึงทุกวันนี้
โครงการ”ธรรมะเยียวยาใจ” ผู้ประสบภัยน้ำท่วม หลังมหาอุทกภัย ปีพ.ศ.๒๕๕๔ ยังคงดำเนินต่อมาโดยกลุ่มเพื่อชีวิตดีงาม และกลุ่มใต้ร่มพุทธธรรม สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคงแห่งสถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ วัดสระเกศ อีกทั้งพระสงฆ์ทุกภาคส่วน ก็ยังคงเดินหน้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย และภัยธรรมชาติตลอดจนช่วยบรรเทาความเดือดร้อน เยียวยาความทุกข์ของประชาชนมาจนถึงทุกวันนี้

นอกจากนั้น ยังมีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย , บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (บางกอกแอร์เวย์,) โรงพยาบาลสมิติเวช และคณะสงฆ์ในส่วนภูมิภาคที่ไม่ประสบน้ำท่วมต่างก็ระดมความช่วยเหลือผ่านศูนย์ช่วยเหลือวัดของคณะสงฆ์

นอกจากนั้น คณะศิษยานุศิษย์พระโพธิญาณเถร (หลวงพ่อชา สุภทฺโท) วัดหนองป่าพง พร้อมทั้งวัดสาขาทั้งในประเทศ ซึ่งมีอยู่มากกว่า ๓๐๐ สาขา ก็ได้ร่วมกันบริจาคสิ่งของ เพื่อมอบให้ศูนย์ช่วยเหลือของคณะสงฆ์

แม้จะอยู่ในสถานที่ใด ในบ้าน หรือในป่า ต่างก็ร่วมแรงร่วมใจกันช่วยเหลือวัดและประชาชนที่ประสบภัย เพื่อนำความร่มเย็นคืนสู่ประเทศชาติ

โปรดติดตามตอนต่อไป…

พระราชกิจจาภรณ์ (เทอด ญาณวชิโร) ผู้เขียน เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่ พระวิจิตรธรรมาภรณ์
พระราชกิจจาภรณ์ (เทอด ญาณวชิโร) ผู้เขียน เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่ พระวิจิตรธรรมาภรณ์
ธรรมนิพนธ์ เรื่่อง สุวรรณบรรพต : สยามพุทธศิลป์  เขียนโดย พระวิจิตรธรรมาภรณ์ (เทอด ญาณวชิโร) /พิมพ์ครั้งแรก มีนาคม ๒๕๕๖ โดย สำนักพิมพ์อนันตะ
ธรรมนิพนธ์ เรื่่อง สุวรรณบรรพต : สยามพุทธศิลป์ เขียนโดย พระวิจิตรธรรมาภรณ์ (เทอด ญาณวชิโร) /พิมพ์ครั้งแรก มีนาคม ๒๕๕๖ โดย สำนักพิมพ์อนันตะ

“พระสงฆ์ สายน้ำ และความทรงจำ” ในมหาอุทกภัย ๒๕๕๔ จากธรรมนิพนธ์ เรื่อง “สุวรรณบรรพต สยามพุทธศิลป์” เขียนโดย พระราชกิจจาภรณ์ (เทอด ญาณวชิโร)

“ศิลปะ” เป็นเครื่องมือสำคัญในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา แม้ว่าข้อเท็จจริง ศิลปะจะมีหน้าที่รับใช้สุนทรียะทางจิตใจของปัจเจกชน ซึ่งก็คือศิลปินต้องการสร้างความงาม จึงได้สร้างศิลปะในรูปแบบต่างๆ ขึ้นมา แต่คุณค่าที่ตามมา คือ ประชาชนที่เสพศิลปะ ได้เข้าถึงคุณค่าทางศาสนา และดำเนินชีวิตตามหลักแห่งความดีที่ศิลปินเสนอผ่าน “ศิลปะ” จึงได้ชื่อว่า “เป็นมงคลสูงสุด” อย่างหนึ่ง

พระวิจิตรธรรมาภรณ์ (เทอด ญาณวชิโร )

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here