พราะการใช้ชีวิต การเดินทาง และการทำงานคือ การเรียนรู้ตนเองและผู้อื่น

ในระหว่างทาง อย่าลืมสติ เป็นเพื่อนขนานเอก

ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ดีหรือไม่ดี เป็นครูเราได้ทั้งนั้น

และผลของมัน ไม่ว่าเหตุจะดีหรือไม่ดี ถ้าเรียนรู้เป็น ผลที่ออกมาจะสวยงามเสมอ….

“ข้อคิดระหว่างทาง” จาริกธรรมในอเมริกา​

โดย พระครูสมุห์สุพัฒน์  อนาลโย

เรื่องอะไรที่ฉันไม่รู้ โดย พระครูสมุห์สุพัฒน์ อนาลโย
เรื่องอะไรที่ฉันไม่รู้ โดย พระครูสมุห์สุพัฒน์ อนาลโย

         เรื่องที่ ๑ อะไรที่ฉันไม่รู้

           วันหนึ่งผู้เขียนทำความสะอาดภายในกุฏิ ปัดกวาดเสร็จเรียบร้อยเดินออกมานอกกุฏิแล้วเหลียวแลไปเห็นกล่องจดหมายที่ทางเข้าของวัดจะมีเหล็กเล็กตั้งขึ้น… ผู้เขียนเห็นเดินเข้าไปใกล้​เพื่อจะดูว่ามีอะไรในกล่องจดหมาย…เปิดฝาออกมีจดหมายหนึ่งฉบับ จึงหยิบมาวางไว้ที่เก้าอี้ในกุฏิ… สักครู่ใหญ่ผ่านไปเจ้าอาวาสกลับมาจากการทำธุระนอกวัดพอดี

ส่วนผู้เขียนก็ได้พูดกับท่านเจ้าอาวาสว่า​ “พระอาจารย์ครับ… นั่นจดหมายที่ผมไปเอามาเก็บไว้ในกุฎินี้ครับ”

“ไหนขอดูหน่อยครับ… อ้าว ท่านมันจดหมายที่ผมจะไปให้เขานะครับ…”

“อ้าวเอ่อ… ขอโทษครับ…ก็ผมเห็นเขายกท่อนเหล็กสีแดงตั้งขึ้นไว้ที่กล่องจดหมายผมก็นึกว่าเขามาส่งจดหมายนะครับ”

เจ้าอาวาสกล่าวว่า​ “ มันไม่ใช่อย่างนั้น… ครับ​  ที่กล่องจดหมายที่มีเหล็กสีแดงตั้งขึ้นนั้นหมายถึง… เราเป็นคนส่งจดหมาย​ ​ ถ้ามีเหล็กสีแดงนอนลงนั้นหมายถึง… เขามารับจดหมายของเราแล้ว​”

ผู้เขียนว่า​  “ขอบคุณครับที่คอยชี้แนะ…”

แบบนี้ล่ะ คนเราจะรู้หมดทุกเรื่องตั้งแต่เกิดก็เป็นไปได้ยาก​ คนทุกคนจะสมบูรณ์แบบทุกอย่างอย่าไปหาเลย​ จงเรียนรู้กับสิ่งที่ผิดพลาดมาเป็นบทเรียนชีวิตสิ่งนั้นจะกลายมาเป็นประสบการณ์ของชีวิต​  เพื่อที่จะก้าวหน้าไปอย่างมั่นใจและมั่นคง​ 

หลายท่านคงเคยได้ยินคำที่ว่า “โง่ก่อนฉลาด” เราจะเสียรู้ครั้งแรก ครั้งต่อไปจะฉลาดในเรื่องที่เคยพลาดพลั้งไป​  และ “ฉลาดก่อนโง่”  ฉลาดนั้นมันดี แต่ฉลาดแกมโกงนั้นมันดีชั่วระยะหนึ่ง​ เพราะผลของกรรมยังไม่ให้ผลของการกระทำที่ไม่ดี​  สำหรับคนโกงจะได้รับผลของการกระทำของตนเองจะเดือดร้อนใจในภายหลัง คิดมากนอนไม่หลับระแวงไปหมด

เรื่องที่หนึ่งจบลงด้วยประการฉะนี้

การแจ้งเกิดในอเมริกา โดย พระครูสมุห์สุพัฒน์ อนาลโย

เรื่องที่​ ๒…การแจ้งเกิดในอเมริกา

ก่อนที่จะเกิดก็ต้องไปทำบัตรประชาชนก่อน(social security) แต่กว่าจะแจ้งเกิดได้ หรือทำไอดี (ทำใบเกิด) ที่สหรัฐอเมริกานั้นมีเหตุการณ์ที่ไม่เคยมีและเกิดขึ้นสำหรับผู้เขียนเรื่องมีอยู่ว่า

เจ้าอาวาส  ท่านบุญศรี ผู้เขียน​ และโยมจอย อีกคนหนึ่งเป็นคนที่ช่วยแปลภาษาและติดต่อสื่อสาร​ให้ หลังจากเตรียมเอกสารที่เอาต้องการครบหมดทุกอย่างแล้วก็นั่งรถออกไปยังสถานที่ทำไอดี​  ถ้าบ้านเราก็คือที่อำเภอ หรือหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องนั่นแหละ​

พอไปถึงที่ทำงานของเจ้าหน้าที่ เปิดประตูเข้าไปมีฝรั่งเยอะมาก​ (บ้านเมืองเขาเนาะต้องทำใจ)​ มีคนก็เยอะทั้งภายในและภายนอก สังเกตดูเขาจะนั่ง และยืนรอเข้าแถวกดบัตรคิวยาว​เหยียด

โยมจอยสอบถามเจ้าหน้าที่ว่า​มาทำไอดี​ เจ้าหน้าที่ว่า​ขอดูเอกสารหน่อย​ ท่านบุญศรีและผู้เขียนยื่นเอกสารให้เขาดู​ เขาบอกว่าให้คุณไปขอใบรับรองจากที่แห่งหนึ่งมาก่อน แล้วค่อยมาที่นี่ใหม่อีกครั้ง​  เราทั้งหมดกล่าวคำ​ ขอบคุณครับ​ บาย​ๆ​

จากนั้นก็มุ่งหน้าไปตามที่เจ้าหน้าที่แนะนำ นั่งรถไปไกลพอสมควรก็ถึง​ โยมจอยบอกเขาว่า​ จะให้คุณช่วยรับรองเอกสารออกใบเกิด(ไอดี)​ให้หน่อยจ้า 

เจ้าหน้าที่เขาก็ขอเอกสารและทำให้ เสียค่าทำเนียม​คนละ ๒๐​ ดอลล่าร์​ เขานัดอีก​ ๒​ วันมารับ เราตอบ “​ โอเค​ ขอบคุณ​มาก​ บายๆ”

วันที่​ ๒​ เขาโทรศัพท์มาบอกให้มารับเอกสารได้​  ตอนเช้านั่งรถไปรับเอกสารตามนัดด้วยกันสามคน​ เข้าไปในห้องของเจ้าหน้าที่​ และยื่นเอกสารให้กับเจ้าหน้าที่

ผู้เขียนตรวจดูปรากฏว่า​ ชื่ิอถูก​ เพิ่มนามสกุล​ให้ พลรักษา​ พิทักษ์​  และเปลี่ยนเพศให้​ จากชายเป็นหญิง​ (mail to femail)​  มาที่นี่ได้นามสกุลเพิ่มพ่อกับแม่มารวมกันและได้เพศใหม่นี้คือการแจ้งเกิดของข้าพเจ้า​ 

พอตรวจดูว่า​ทำไมเรามีนามสกุลเพิ่มและเป็นเพศหญิงนะ​  ทุกคนในนั้นหัวเราะหมดเลย เจ้าหน้าที่ก็ปรับเปลี่ยนใหม่ให้ถูกต้อง ส่วนท่านบุญศรีถูกต้อง​

ฉะนั้น​ การที่เราทำอะไรก็อย่าประมาทต้องเช็คตรวจสอบว่ามันถูกต้องไหม​ ถ้ามันผิดพลาดแล้วจะลำบากทีหลัง ดังนั้น จะทำอะไรก็ต้องประกอบด้วยสติความรู้สึกตัว

"ข้อคิดระหว่างทาง จาริกธรรมในอเมริกา" โดย พระครูสมุห์สุพัฒน์ อนาลโย
“ข้อคิดระหว่างทาง จาริกธรรมในอเมริกา” โดย พระครูสมุห์สุพัฒน์ อนาลโย

เรื่องที่​ ๓​ ความกดดันกลายเป็นพลัง

จากเพื่อนที่สร้างพลังผลักดันให้กลายเป็นแรงบันดาลใจต้องสู้กับความกลัวมาเป็นความกล้าในเรื่องที่อยากได้ อยากมี และอยากเป็น คือ​

มีเด็กน้อยสองคนพี่น้องกันมาเล่นกันในวัดกับยาย คนพี่ชื่อจูลี่​ อายุ ๑๐​ ขวบ​ และคนเล็กชื่อว่า​โอลิเวีย​ อายุ ๔​ ขวบ เด็กฝรั่งหัวใจไทยใฝ่เรียนรู้พุทธศาสนากับคุณยายนำพาถวายอาหาร พระสอนให้กราบก็กราบสามครั้ง เป็นเด็กที่น่ารัก และเด็กทั้งสองมาเป็นครูสอนโดยธรรมชาติได้เรียนรู้จากเด็กทั้งสอง​

เพราะเรามีความรู้น้อยเรื่องภาษาก็ฟังแบบรู้เรื่องบ้าง​ ไม่รู้บ้าง​ บางครั้งก็เดาเอาตามกริยาท่าทางของเด็กบ้าง​ นี่ละนะที่เขาว่า​ เรียนน้อยรู้น้อย​มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ​

สิ่งที่ได้เรียนรู้คือ​ เด็กสอนให้เราทบทวนชื่อเจ้าหญิงที่เป็นตัวการ์ตูนดังๆ​ เช่น​ มูหลัน  เจ้าหญิงสโนไวท์​  เป็นต้น​

ตลกที่ว่าตัวเองจำไม่สักครั้ง คุณครูตัวเล็กชักจะโมโห​ เพราะเราจำไม่ได้ เหมือนเราสอนใครแล้วไม่จำ อารมณ์ประมาณนั้นเลย  เข้าใจเด็กและสงสารตัวเอง​ แต่ก็ดีได้ประสบการณ์ชีวิตใหม่​

“เด็กยังสอนให้เรารู้จักคำว่า Good Jod. ( Jod หมายถึงผู้เขียน คือ พระจ๊อดส์ ชื่นชมทำได้ดีมาก) catch จับหรือแตะ​ เด็กวาดรูปมาบอกว่า​ for​ you.​ ผู้เขียนพยายามเรียนรู้จากเด็ก เริ่มต้นจากศูนย์จริง​ ๆ​ สู้ๆ​ จะทำวันนี้ให้ดีที่สุด

ก่อนเด็กจะกลับบ้าน… ผู้เขียนอยากจะถ่ายรูปกับเด็ก ถือโทรศัพท์ออกไป​ส่งน้องเขาขึ้นรถ บอกเพื่อนว่าพระอาจารย์ถ่ายรูปกับเด็กให้หน่อยครับ

ท่านตอบกลับมาแบบเราไม่ได้ตั้งตัวว่า​ “ถ้าอยากถ่ายรูปกับเด็กให้ขอเขาถ่ายได้กับเด็กให้ได้ก่อนแล้วผมจะถ่ายให้​  กล้าขอไหม?”

เราก็อายได้แต่ยืนยิ้มอย่างเดียว ถ้ากล้าขอผมจะถ่ายให้ นี้เป็นบทเรียนรู้เองจะได้ประสบการณ์จริง​ อ้าวท่านไปหาค้นหาคำขอถ่ายในอินเทอร์เน็ตให้ได้นะ

วันพรุ่งนี้​  ขอถ่ายใหม่เลยนะ​ ถ้าขอได้ผมจะถ่ายให้​ ผลปรากฏว่า…ขอถ่ายรูปได้จริงๆ​ Can you take a picture.​  ขอถ่ายรูปกับคุณได้ไหม?”   ซ้อมพูดอยู่หลายรอบทีเดียวกว่าจะได้เกือบไม่รอดแต่ก็ได้ประสบการณ์ชีวิตเพิ่มความกล้าก้าวข้ามความกลัว​

ต้องขอบคุณ​ พระอาจารย์บุญศรีที่สร้างแรงพลังผลักดันได้เรียนรู้ด้วยประสบการณ์จริง​ ๆ​ เรื่องบางเรื่องเราคิดจะพึ่งแต่คนอื่น​เห็นว่ามันง่ายดี  แต่เมื่อไม่มีคนให้เราพึ่งจะทำอย่างไรล่ะ​

ฉะนั้น​ สุภาษิตที่ว่า ตนแลเป็นที่พึ่งของตน​ ดีที่สุดประเสริฐสุด​ เราจะได้ประสบการณ์จริงจดจำได้นานจนวันตาย​ เหมือนการให้ปลามากินก็อิ่มแล้วก็หมดไป​ แต่สอนวิธีจับปลาให้กินได้ตลอดไป​

สรุปคือ​ อย่าประมาท​  เรียนรู้ประสบการณ์ชีวิตให้มั่นคง

เพราะการใช้ชีวิต การเดินทาง และการทำงานคือ การเรียนรู้ตนเองและผู้อื่น ในระหว่างการใช้ชีวิต อย่าลืมสติ เป็นเพื่อนขนานเอก ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ดีหรือไม่ดี เป็นครูเราได้ทั้งนั้น และผลของมัน ไม่ว่าเหตุจะดีหรือไม่ดี ถ้าเรียนรู้เป็น ผลที่ออกมาจะสวยงาม

ยิ่งมีกัลยาณมิตรที่ดีให้ความรู้ประสบการณ์ใหม่เข้ามาในชีวิต สิ่งที่ไม่เคยได้จับได้ทำได้เรียนที่นี่คือประสบการณ์ชีวิตจริงล้วนๆ ไม่ทำไม่รู้ ถ้าลงมือทำก็จะรู้ว่าเป็นและไม่เป็น  

ถ้าเป็นก็ทำได้ดี แต่ถ้าไม่เป็นก็ถามก่อน เรียนรู้ก่อนค่อยเป็นค่อยไป ประโยชน์ที่ได้ทำที่เห็นชัดเจนคือ ๑. ป้ายวัดพุทธเมตตามหาบารมี ๒ โต๊ะนั่งเล่นอเนกประสงค์ และได้ทำงานร่วมกับคณะสงฆ์วัดพุทธเมตตามหาบารมี ๕ รูป นี้คือประสบการณ์ช่วงแรกเมื่อเดินทางไปจาริกธรรมในสหรัฐอเมริกาช่วงต้นเดือนสิงหาคม ๒๕๖๒ ที่ผ่านมา


ธรรมลิขิต

หน้าธรรมวิจัย นสพ.คมชัดลึก

วันอังคารที่ ๒๗ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๖๒

โดย พระครูสมุห์สุพัฒน์  อนาลโย

“ข้อคิดระหว่างทาง”

จาริกธรรมในอเมริกา​

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here