Socially Engaged Buddhism พระพุทธศาสนาเพื่อรับใช้สังคม
คำนี้แท้จริงแล้วไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นในยุคนี้ หากย้อนกลับไปในสมัยพุทธกาล
นับตั้งแต่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ความจริงอันประเสริฐ
พระองค์มิได้ประกาศศาสนา หากแต่พระองค์ทรงประกาศความจริง
ความจริงในกายใจที่ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม เมื่อพบก็คือสิ่งเดียวกัน
อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เราทุกคนต่างประสบกับภาวะทุกข์ด้วยกันทั้งนั้น
และปรารถนาจะออกจากทุกข์
จากนั้น พระองค์ทรงเดินด้วยพระบาทเปล่า เพื่อเกื้อกูลชาวโลกให้พบความจริงนี้
เพื่อจะได้รู้ว่า เราทุกคนนั้นเหมือนกัน …
ไม่ว่าจะเชื้อชาติใด สัญชาติใด นับถือศาสนาใด หรือไม่นับถือศาสนาใดๆ ก็ตาม
แต่เรานั้นต่างก็เหมือนกันอยู่ดี
เราเกิดมาจากแม่และพ่อ ที่มีพระคุณเหนือชีวิต
และผสานชีวิตด้วยอาหารที่แม่ปรุงไว้ให้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์
เราต่างมาจากจากดิน น้ำ ลม ไฟ เช่นเดียวกัน และจะกลับคืนไปยังที่ๆ เดียวกันอยู่ดี
แต่ระหว่างทางแห่งชีวิตนี้
เราจะดำเนินไปอย่างไร เกื้อกูลกันอย่างไรเพื่อจะได้ใช้ชีวิตอย่างสันติ
ไปจนกว่าลมหายใจสุดท้ายจะมาเยือน
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/07/S__111697977-1024x683.jpg)
“ศาสนิกสัมพันธ์”
ถอดบทเรียนอันล้ำค่า “เยี่ยมพระพบปะโยม”
โดย พระมหาขวัญชัย กิตฺติเมธี ป.ธ.๙,ดร.
ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาพระวิทยากร
สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม
และความมั่นคงแห่งสถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ วัดสระเกศฯ
กว่าจะมาเป็น “โครงการเยี่ยมพระพบปะโยม” นั้นมีที่มาอันยาวนาน สืบเนื่องมาตั้งแต่หลังมหาอุทกภัยในปีพ.ศ.๒๕๕๔ ได้เกิดภาวะน้ำท่วมใหญ่ตามลุ่มน้ำต่างๆ ทั่วประเทศ สร้างความเสียหายให้ประชาชนเป็นอันมาก เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) อดีตประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช
![สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ)](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/07/20708183_10207239342341966_9192998627004867932_n.jpg)
มีความเมตตาห่วงใยพระภิกษุสามเณรและผู้ประสบอุทกภัย จึงมีบัญชาให้คณะสงฆ์นำสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคออกไปช่วยเหลือประชาชนตามที่ต่างๆ และจัดกระบวนการธรรมะเยียวยาใจ โดยประยุกต์กระบวนการพุทธจิตวิทยา การให้คำปรึกษาแบบกลุ่มและรายบุคคล จัดกิจกรรมนันทนาการ และนำสวดมนต์ เจริญจิตภาวนา ใช้ธรรมะเยียวยาใจ โดยพระวิทยากร ทั้งพระวิทยากรจิตอาสา และพระธรรมทูตอาสา ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยลงไปในพื้นที่ จัดเป็นศูนย์พักพิงและช่วยเหลือในทุกจังหวัด
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/07/เยี่ยมพระพบปะโยม-6.jpg)
ต่อมาหลังจากน้ำลดแล้ว คณะสงฆ์จิตอาสาก็ได้ช่วยกันอบรมประชาชนและเยาวชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นภูมิคุ้มกันทางจิตใจให้แก่ประชาชนในยามที่จะต้องเผชิญกับภัยธรรมชาติและอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเจ็บป่วยที่จะต้องช่วยเหลือกัน จนกระทั่งเกิดเป็นโครงการ “เยี่ยมพระพบปะโยม” ขึ้นเพื่อให้พระธรรมทูตอาสาฯได้เข้าไปเยี่ยมโยมคนแก่หรือคนพิการที่มาวัดไม่ไหวด้วย
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/07/S__111697998-1024x683.jpg)
นี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของที่มาของโครงการฯ ซึ่งกลุ่มเพื่อชีวิตดีงามได้รับมอบหมายจากสำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคงแห่งสถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ วัดสระเกศฯ โดยการประสานความร่วมมือของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เจ้าของโครงการฯ ให้ดำเนินงานโครงการส่งเสริมความมั่นคงของสถาบันพระพุทธศาสนาในพื้นที่ ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งได้จัดอบรมพระสงฆ์ในจังหวัดสตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ในหลักสูตร พระวิทยากรกระบวนการพัฒนางานกระบวนธรรม โดยเน้นกระบวนการให้คำปรึกษาเชิงพุทธ ทักษะการฟัง ทักษะการสื่อสาร ทักษะการพูดคุย และทักษะการจัดกิจกรรมค่ายคุณธรรม จริยธรรมฯ โดย พระมหานภันต์ สนฺติภทฺโท ป.ธ.๙ ประธานกลุ่มเพื่อชีวิตดีงามในขณะนั้น
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/07/19800653_10155519072608584_8605899403600068815_o-1024x1024.jpg)
เป็นผู้ออกแบบหลักสูตรและนำไปจัดกระบวนการอบรมมาตั้งแต่ปีพ.ศ.๒๕๕๓ และท่านยังเป็นผู้ตั้งชื่อ “โครงการเยี่ยมพระพบปะโยม”นี้ด้วย ซึ่งจะทยอยเล่าที่มาให้ฟังสลับกับการถอดบทเรียนอันล้ำค่าในฉบับต่อไป
สำหรับโครงการเยี่ยมพระพบปะโยมที่ลงพื้นที่ไปเมื่อวันที่ ๑๕-๒๒ มีนาคม พ.ศ.๒๕๕๙ นั้นเป็นการลงพื้นที่ให้กำลังใจกับพระสงฆ์และให้ธรรมะกับอุบาสกอุบาสิกาชาวพุทธในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ในจังหวัดสงขลาและปัตตานี โดยในครั้งนั้นได้เดินทางไปที่วัดเขากลอย จังหวัดสงขลา และได้พบกับ พระครูบวรสรนาท ท่านเคยเข้าร่วมอบรมวิทยากรกระบวนธรรม รุ่น ๔ ซึ่งจัดโดยกลุ่มเพื่อชีวิตดีงาม สนง.ส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมฯวัดสระเกศ เล่าให้ฟังถึงการเข้ามารับผิดชอบวัดที่ครั้งหนึ่งเคยถูกทิ้งร้างมาร่วม ๒ ปี และตอนนี้กำลังอยู่ระหว่างการบูรณะ ท่านว่าต้องทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป
“เพราะคนปัจจุบันนี้คิดกับพระไม่เหมือนเมื่อก่อน ส่วนใหญ่เชื่อว่าพระไม่ค่อยรู้อะไร? ถ้าพระรูปนั้นมาเป็นเจ้าอาวาสใหม่ๆ เวลาจะทำอะไรโยมจ้องแต่จะคัดค้าน พระบางรูปจึงอยู่ไม่นานก็หนีจากไป การเปลี่ยนแบบหักดิบ ถ้าพระไม่มีบารมีเพียงพออาจจะอยู่ไม่ได้ แต่ถ้าเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป ทำในสิ่งที่เราถนัดคือ สอนธรรม มีเมตตา และช่วยเหลือ จึงไปกันได้”
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/07/เยี่ยมพระพบปะโยม-4-1.jpg)
จากนั้นเราเดินทางสู่วัดภูเขาหลง จ.สงขลา เป็นอีกวัดที่กลุ่มเพื่อชีวิตดีงามได้มาอาศัยอบรมประชาชนและเยาวชนในพื้นที่ ๕ จังหวัดชายแดนใต้ตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๕๓ – พ.ศ.๒๕๕๖
พระเทพญาณโมลี ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัด เจ้าอาวาสวัดทรายขาวผู้บุกเบิกสร้างวัดแห่งนี้เพื่อให้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมฉลองสิริราชสมบัติ ๖๐ พรรษา โดยสถานที่บนเขาหลงนั้นดูจะเหมาะสมทั้งเรื่องอากาศ ภูมิทัศน์ที่สูง บรรยากาศสงบเงียบ อีกทั้งชื่อ “ภูเขาหลง” นั้นตั้งขึ้นตามลักษณะที่ว่าไม่ว่าใครแม้แต่พรานที่ชำนาญป่าเดินเข้ามาอาจหลงหาทางออกไม่ได้ ไม่ต่างจากมนุษย์ที่หลงไปตามอำนาจความยากจนทำให้ชีวิตมืดบอดหาทางไปไม่เจอ แต่วัดจะช่วยให้เขาเหล่านั้น ไม่หลงทางชีวิตอีกต่อไป
แต่ไม่ง่ายนักที่จะสร้างอาคาร และปรับพื้นที่จนสามารถใช้การได้ หลวงพ่อเล่าให้ฟังอย่างมีปีติถึงการสร้างวัดด้วยสองมือ แม้ตอนนั้นอาจดูไม่ง่ายเลย เพราะต้องเผชิญอากาศ สร้างอาคารก็โดนปลวกกินหมด แต่เพราะความอดทน เสียสละ และที่สำคัญคือความมีเมตตา
“วัด ในสมัยหนึ่งสร้างจากศรัทธาของอุบาสกอุบาสิกาเพื่อให้พระเป็นกำลังใจ แต่ในอีกยุคหนึ่งสร้างด้วยกำลังของพระเถระที่มีวิสัยทัศน์ มองเห็นอนาคตพระพุทธศาสนา ต้องมีสถานที่ให้เป็นสัปปายะก่อนสิ่งอื่น เพื่อไว้พัฒนาคน…”
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/07/เยี่ยมพระพบปะโยม-9.jpg)
ฟังเรื่องสร้างวัดแล้วนึกถึงพระพุทธศาสนาที่ยืนยาวมาได้ เพราะได้พระเถระหลายท่านสร้างและรักษาต่อๆ กันมา นึกถึงคำพูดหนึ่งของพระเดชพระคุณพระพิศาลสิกขกิจ เจ้าอาวาสวัดแจ้ง ผู้รับใบอนุญาต โรงเรียนการกุศลแจ้งวิทยา จังหวัดสงขลา
“ถ้าเราคิดว่าโรงเรียนนี้เป็นสมบัติของทุกคน ถ้าเรารักสมบัติของเราก็ต้องสนใจดูแล เช่นเดียวกับพระพุทธศาสนาเป็นสมบัติของเราทุกคนชาวไทย ถ้าเรารักก็ต้องร่วมกันปกป้องรักษา”. เพราะทุกอย่างล้วนเป็นสมบัติของเราชาวไทยที่จะต้องรักษาและปกป้องในฐานะผู้สืบทอดต่อไป”
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/07/เยี่ยมพระพบปะโยม-5.jpg)
อีกทั้งเป็นการสานสายใยความผูกพันอันอบอุ่นของคนในชุมชนทุกศาสนาที่จะมีส่วนในการร่วมกันดูแลศาสนสถานของกันและกันประดุจญาติมิตรดังที่เคยเป็นมาในอดีตกาลจนถึงปัจจุบันอีกด้วย
และนี่คือสันติสุขอย่างแท้จริงที่ใครๆ ก็ต้องการ คือหน้าที่ของกลุ่มเพื่อชีวิตดีงามที่เข้าไปเยี่ยมพระพบปะโยมทุกคนโดยไม่เลือกว่าจะนับถือศาสนาใด เพราะเราคือพี่น้องไทยบนแผ่นดินเดียวกัน
“ศาสนิกสัมพันธ์” เพราะเราคือพี่น้องไทยบนแผ่นดินเดียวกัน
ถอดบทเรียนอันล้ำค่า “เยี่ยมพระพบปะโยม”
โดย พระมหาขวัญชัย กิตฺติเมธี ป.ธ.๙,ดร.
คอลัมน์ ท่องเที่ยวโลกกะธรรม หน้าพระไตรสรณคมน์
นสพ.คมชัดลึก วันพฤหัสบดีที่ ๔ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๖๒
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/07/09KLE6S1_04072019-99-1024x508.jpg)
ถอดบทเรียนอันล้ำค่า “เยี่ยมพระพบปะโยม”
โดย พระมหาขวัญชัย กิตฺติเมธี ป.ธ.๙,ดร.
คอลัมน์ ท่องเที่ยวโลกกะธรรม หน้าพระไตรสรณคมน์
นสพ.คมชัดลึก วันพฤหัสบดีที่ ๔ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๖๒
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/07/09KLE6S1_04072019-671x1024.jpg)
![พระมหาขวัญชัย กิตติเมธี](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/01/พระมหาขวัญชัย-กิตติเมธี.jpg)
ผู็อำนวยการสถาบันพัฒนาพระวิทยากร
สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม
และความมั่นคงแห่งสถาบันชาติ
พระศาสนา พระมหากษัตริย์ วัดสระเกศฯ