เรียนรู้ปฏิปทาพระเถระผู้มีคุณูปการต่อประเทศชาติ
พระพุทธศาสนา สถาบันพระมหากษัตริย์ และชาวโลกอย่างอเนกอนันต์
“ปูชา จ ปูชนียานํ เอตมฺมงฺคลมุตฺตมํ.
ขอนอบน้อมแด่ครู พระอุปัฌชาย์ อาจารย์
ผู้ให้ชีวิตในพระศาสนาของพระพุทธองค์ ด้วยเศียรเกล้าฯ”
วิถีแห่งผู้นำ : สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสณมหาเถร)
๙๖. วิสัยทัศน์ในการพัฒนาเครือข่ายพระธรรมทูตอาสา ๕ จังหวัดชายแดนใต้
๙๗. วิสัยทัศน์ในการพัฒนาเครือข่ายพระธรรมทูตอาสา ๕ จังหวัดชายแดนใต้
เรียบเรียงโดย พระครูอมรโฆสิต (ปรีชา สาเส็ง)
สำหรับสองบทนี้ ผู้เขียนเล่าที่มาของการจัดตั้งศูนย์ขับเคลื่อนการส่งเสริมความมั่นคงของสถาบันพระพุทธศาสนาในจังหวัดชายแดนใต้ และ วิสัยทัศน์ในการพัฒนาเครือข่ายพระธรรมทูตอาสา ๕ จังหวัดชายแดนใต้ เพื่อให้พระพุทธศาสนาดำรงไว้ในการช่วยเหลือผู้คนให้พ้นทุกข์ โดยความเสียสละอย่างแรงกล้าของพระธรรมทูตอาสา
๙๖.จัดตั้งศูนย์ขับเคลื่อนการส่งเสริมความมั่นคงของสถาบันพระพุทธศาสนาในจังหวัดชายแดนใต้
พอถึงปี พ.ศ. ๒๕๕๘ ก็มีมติมหาเถรสมาคมรองรับการทำงานของพระธรรมทูตอาสา ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยให้สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคงแห่งสสถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นศูนย์ขับเคลื่อนความมั่นคงพระพุทธศาสนาใน ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นการทำงานเผยแผ่เชิงรุกตามมติมหาเถรสมาคมที่สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมฯ ต้องรับผิดชอบไปทุกพื้นที่ ไม่ว่าพื้นที่นั้นจะปกติ หรือเป็นพื้นที่เสี่ยง เช่น ใน ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ก็อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบที่ต้องไปขับเคลื่อนงานเผยแผ่พระพุทธศาสนาเชิงรุกให้เป็นระบบและเป็นรูปธรรม
ตามมติที่ ๕๑๒/๒๕๕๘ เรื่อง ขอความเห็นชอบตั้งศูนย์ขับเคลื่อนการส่งเสริมความมั่นคงของสถาบันพระพุทธศาสนาในจังหวัดชายแดนใต้ ดังความในมติมหาเถรสมาคม มติที่ ๕๑๒/๒๕๔๘ สำนักงานเลขาธิการมหาเถรสมาคมที่ว่า
“…เพื่อขับเคลื่อนงานส่งเสริมความมั่นคงของสถาบันพระพุทธศาสนาในจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นไปอย่างเข้มแข็ง เป็นระบบ และเป็นรูปธรรม สามารถแก้ไขปัญหาและตอบสนองความต้องการของพื้นที่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ จึงเห็นควรจัดตั้งศูนย์ขับเคลื่อนงานส่งเสริมความมั่นคงของสถาบันพระพุทธศาสนาในจังหวัดชายแดนใต้ ณ วัดสระเกศฯ กรุงเทพมหานคร
“เนื่องจากที่ผ่านมาวัดสระเกศฯ โดยกลุ่มเพื่อชีวิตดีงาม สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคงแห่งสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ได้ส่งพระธรรมทูตอาสา และจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อส่งเสริมความมั่นคง และเสริมสร้างขวัญกำลังใจให้แก่พระภิกษุสามเณร และพุทธศาสนิกชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้มาอย่างต่อเนื่อง…”
และมติมหาเถรสมาคมดังกล่าวนี้ เป็นผลสืบเนื่องมาจากคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานก่อตั้งพระธรรมทูตอาสา ๕ จังหวัดชายแดนใต้ของสมเด็จพระพุฒาจารย์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ที่ออกประกาศในปี พ.ศ. ๒๕๕๓ ซึ่งเป็นการออกคำสั่งที่มีผลตามกฎหมาย
๙๖.วิสัยทัศน์ในการพัฒนาเครือข่ายพระธรรมทูตอาสา ๕ จังหวัดชายแดนใต้
เนื่องจากในอดีตเมื่อสิบกว่าปีมานี้จนถึงปัจจุบันเกิดปัญหาความไม่สงบในภาคใต้ ซึ่งเป็นเหตุให้ประชาชนที่นับถือพระพุทธศาสนา ไม่สามารถที่จะปฏิบัติกิจหน้าที่ของชาวพุทธ อาทิ ใส่บาตร ทำบุญ สวดมนต์ ไหว้พระ และกิจของสงฆ์เองก็ดำเนินไปด้วยความลำบาก จึงเกิดพระธรรมทูตกลุ่มหนึ่งขึ้นมา เรียกว่า “พระธรรมทูตอาสา” เพื่อที่จะทำงานเผยแผ่ใน ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคงแห่งสถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ ซึ่งมีข้อจำกัดในหลายด้าน เช่น ด้านระยะเวลา และด้านงบประมาณ สภาพพื้นที่ พระธรรมทูตอาสาแต่ละรูป แต่ละองค์ที่เดินทางไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาใน ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ถือได้ว่าเป็นผู้ที่เสียสละ เป็นการเสียสละที่ยิ่งใหญ่
การเสียสละอันยิ่งใหญ่ของบรรดาพระธรรมทูตอาสา เป็นสิ่งที่ควรยกย่องเป็นอย่างยิ่ง เป็นเทียนชัยเล่มเล็กๆ แห่งพระพุทธศาสนาที่ส่องแสงสว่างไปทั่วทั้ง ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมีภาระและงานรับผิดชอบอยู่มากตามขนาดของพื้นที่ไปด้วย
“แม้ในยามที่ร่างกายโรยแรง เริ่มชราภาพลง แต่ข่าวคราวที่พระสงฆ์สามเณรและชาวพุทธถูกฆ่าที่ภาคใต้ กลับเพิ่มความรุนแรงมากขึ้น พระธรรมทูตอาสา ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน ๒๖๐ รูป ในจังหวัดสตูล สงขลา ยะลา นราธิวาส และปัตตานี จึงถูกก่อตั้งขึ้นตามดำริของเจ้าประคุณสมเด็จฯ เพื่อปลุกจิตสำนึกให้พระสงฆ์ร่วมกันทำงานในพื้นที่เสี่ยงภัย นับตั้งแต่ ปี พ.ศ.๒๕๕๓ เป็นต้นมา”
เจ้าประคุณสมเด็จฯ ได้ประทานโอวาทแก่พระธรรมทูตอาสาว่า “หากไม่มีพระสงฆ์ ในพื้นที่ ชาวพุทธก็หมดที่พึ่ง…ก็ชื่อว่า พระพุทธศาสนาได้หมดไปแล้ว ขอให้ทุกองค์หนักแน่น มั่นคง อยู่เป็นกำลังใจให้ชาวพุทธ ถึงแม้วันหนึ่งวันใดข้างหน้า พระพุทธศาสนาจะหมดไปจาก ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็ขอให้วันนั้น มีพระสงฆ์เดินออกจากพื้นที่เป็นคนสุดท้าย”
เครือข่ายพระธรรมทูตอาสา ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ เกิดขึ้นโดยดำริของเจ้าประคุณฯ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) อดีตประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ซึ่งเจ้าประคุณสมเด็จฯ ได้ให้ความสำคัญกับปัญหาภาคใต้ จึงได้เสนอมหาเถรสมาคมให้มีการจัดตั้งพระธรรมทูตอาสา ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ขึ้นมา โดยการกำกับดูแลของสำนักส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม เพื่อความมั่นคงแห่งสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
พระธรรมทูตอาสา ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นกลุ่มพระสงฆ์ที่มุ่งเผยแผ่พระพุทธศาสนาเพื่อพัฒนาสังคม สร้างขวัญและกำลังใจให้แก่พุทธศาสนิกชนในพื้นที่ที่มีสถานการณ์ความไม่สงบใน ๕ จังหวัด อันได้แก่จังหวัดสตูล ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และจังหวัดสงขลา ซึ่งผ่านการอบรมในหลักสูตร Fa For D (Facilitator For Development of Decency) เป็นการอบรมเชิงปฏิบัติการ โดยมีจุดเน้นของกระบวนการ คือ เพื่อทบทวนแนวคิด หลักการ และพุทธวิธีการเผยแผ่พระพุทธศาสนา องค์ความรู้เกี่ยวกับกระบวนการกลุ่ม เพื่อฝึกทักษะการเป็นพระวิทยากรกระบวนการ การให้คำปรึกษาเชิงจิตวิทยาแบบกลุ่ม ด้วยกิจกรรม อาทิ เช่น Deep Listening : การฟังอย่างล้ำลึก นึกอย่างลึกล้ำ พูดอย่างมีประสิทธิภาพ : คนพูดได้คิด คนฟังได้คิด และเพื่อฝึกทักษะการจัดทำและบริหารโครงการ จนถึงการสร้างและพัฒนาเครือข่าย ซึ่งดำเนินการอบรม โดยกลุ่มเพื่อชีวิตดีงาม สำนักส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม เพื่อความมั่นคงแห่งสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
ในปัจจุบันมีสำนักงานกลางเครือข่ายพระธรรมทูตอาสา ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ อยู่ที่วัดบูรพาราม ตำบลยามู อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี ศูนย์ประสานงานเครือข่ายพระธรรมทูตอาสาจังหวัดสตูล อยู่ที่วัดนิคมพัฒนาราม อำเภอมะนัง จังหวัดสตูล ศูนย์ประสานงานเครือข่ายพระธรรมทูตอาสาจังหวัดสงขลา อยู่ที่วัดแจ้ง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา ศูนย์ประสานงานเครือข่ายพระธรรมทูตอาสาจังหวัดยะลา อยู่ที่วัดนิโรธสังฆาราม อำเภอเมือง จังหวัดยะลา และศูนย์ประสานงานเครือข่ายพระธรรมทูตอาสาจังหวัดนราธิวาส อยู่ที่วัดทองดีประชาราม อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส มีพระธรรมทูตอาสาปฏิบัติศาสนกิจ ๒๖๐ รูป ภารกิจหลัก คือ ให้พระธรรมทูตอาสา ออกเยี่ยมให้กำลังใจพระสงฆ์ และชาวพุทธในพื้นที่ ออกสำรวจวัด และหมู่บ้านชาวพุทธที่ถูกปล่อยทิ้งร้าง อันเนื่องมาจากสถานการณ์ความไม่สงบ ทำให้ต้องออกจากพื้นที่ และช่วยฟื้นฟูประเพณีเก่าๆ ของชาวพุทธที่หายไปในช่วงเกิดเหตุความไม่สงบ ภายใต้การกำกับของสำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคงแห่งสถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ วัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร