ลายเส้นสีสันพลังแห่งสันติ
“พระครูประโชติรัตนานุรักษ์”
ข้าพเจ้าเห็นภาพวาดท่านพระครูประโชติรัตนานุรักษ์ (สว่าง จนฺทวํโส) อดีตเจ้าอาวาสวัดรัตนานุภาพ จังหวัดนราธิวาส ประธานเครือข่าวพระธรรมทูตอาสาในจังหวัดนราธิวาส ในเฟซบุ๊กของท่านพระมหาอภิชาติ ธมฺมาภินนฺนโท ซึ่งท่านได้เขียนเรื่องราวชีวิตของพระครูประโชติฯ กว่าสิบตอนลงในคอลัมน์ จาริกบ้านจารึกธรรม หน้าพระไตรสรณคมน์ นสพ.คมชัดลึก ทุกวันพฤหัสบดี จึงขอน้อมนำมาเล่าสู่กันฟัง เพื่อรำลึกปฏิปทาของท่านอันมีกำลังจิตที่เปี่ยมล้นไปด้วยความเมตตากรุณาประดุจแสงสว่างกลางความมืด เป็นลิขิตบูชากว่าร้อยวันที่ผันผ่าน ในช่วงวันวิสาขบูชา ๑๘ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒ วันแห่งสันติภาพโลกที่กำลังจะมาถึง
ภาพวาดบนผืนผ้าใบจากใจของศิลปินที่ศรัทธาท่านพระครูประโชติฯ ทำให้เราเห็นว่า หน้าที่การสร้างสันติภาพให้เกิดมีขึ้นในใจนั้น ไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง หากเป็นหน้าที่ของเราทุกคน เพราะเมื่อสันติปรากฏขึ้นในใจของใครแล้วก็ตาม ย่อมทำให้ใครก็ตามที่อยู่ใกล้ได้รับพลังความเมตตากรุณา อบอุ่น และรู้สึกปลอดภัยไปด้วย ดังที่พระครูประโชติฯ ได้ประดิษฐานอยู่ในใจของพระเณรมากมาย และชาวบ้านในพื้นที่ตลอดจนลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดและห่างไกลในพื้นที่ต่างๆ ที่เคยได้รับความเมตตาจากท่านมาโดยตลอดจนถึงปัจจุบันแม้ว่ากายของท่านได้จากไปแล้วก็ตาม
ท่านมรณภาพในค่ำคืนของวันที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๖๒ เราไม่รู้ว่ากระสุนนัดนั้นมาจากไหน แต่ขอให้เป็นนัดสุดท้าย ที่จะทำให้เรากลับมาทบทวน และให้อภัยกัน เมตตาต่อกัน ในวันที่ความทุกข์จากกความสูญเสีย ความเจ็บปวด …ท่วมทับเรามากมายเหลือเกิน
ชีวิตแท้ๆ เมื่อมองเข้าไปในแววตาของกันและกันที่ปราศจากความคิดอคติแล้ว ไปไกลเกินกว่าคำนิยามสมมติบนโลกที่จะไปจำกัดความได้ ศาสนาทั้งผองจึงเป็นพี่น้องกัน เช่นเดียวกับคำว่า สันติภาพ ที่ใครๆ ก็ต้องการและอยากให้เกิดมี และสันติภาพของโลกที่จะเกิดมีได้ก็คือ สันติที่เกิดขึ้นในใจนั่นเอง
ดังที่ท่านพระมหาอภิชาติ ธมฺภินนฺโท เขียนไว้ในหนังสือ “ลมหายใจชายแดนใต้ บนเส้นทางแห่งศรัทธา” จัดพิมพ์โดย สถาบันพัฒนาพระวิทยากร สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม ฯ วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ตอนหนึ่งว่า
“หลายครั้งที่ญาติโยมมาวัดแล้วเห็นกำแพงก็ถามท่านว่า ทำไมไม่สร้างกำแพงให้สูงๆ ท่านก็ตอบว่า ถ้ามีโจรมาจะได้หนีได้หลายทาง หากสร้างสูงๆ จะหนีอย่างไร นั่นอาจเป็นอารมณ์ขันที่ทำให้สบายใจกัน
“แต่อาจเป็นปริศนาธรรมอีกอย่างหนึ่งว่า วัดของเรานั้นเปิดรับและยินดีต้อนรับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ขอเพียงเข้ามานั่งคุยกันสักนิด เราก็รู้จักกันกัน แล้วมิตรภาพจะเกิดขึ้น เราอาจเป็นคนแปลกหน้าในตอนแรก แค่เราเปิดใจ เราจะได้เพื่อนมากขึ้น …เพราะใต้ร่มธรรม อันร่มเย็นในบวรพระพุทธศาสนายินดีกับการมีเพื่อนเสมอ ทำให้วัดเราไม่จำเป็นต้องมีกำแพงที่จะแยกเราออกจากกันอีกต่อไป”
ดังเช่น ภาพวาดบนผืนผ้าใบภายใต้ดวงตาอันเปี่ยมไปด้วยเมตตาและกรุณานี้ที่บอกเล่าเรื่องราวของสันติจากภายในใจของท่านที่ไร้กำแพงใดๆ มากางกั้น แต่กลับจะเพิ่มกำลังส่องสว่างโชติช่วงไปในดวงใจของใครๆ อีกหลายๆ คนที่ได้สัมผัสเรื่องราวของท่านต่อไปไม่สิ้นสุด