“สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาติ
การให้ธรรมย่อมชนะการให้ทั้งปวง” พุทธพจน์
![ขอขอบคุณ ภาพถ่ายโดย พระมหาปฐมพงศ์ ญาณวํโส จริยธรรมแชนแนล สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคงแห่งสถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ วัดสระเกศ](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2020/09/4DSC02485-1024x683.jpg)
“ยิ่งใกล้ชิดยิ่งควรปล่อยวาง”
เขียนโดย พระมหาประสิทธิ์ ญาณปฺปทีโป
ประธานกลุ่มเพื่อชีวิตดีงาม สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคงแห่งสถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ วัดสระเกศ
!["ยิ่งใกล้ชิดยิ่งควรปล่อยวาง" เขียนโดย พระมหาประสิทธิ์ ญาณปฺปทีโป จากคอลัมน์ โชคดีที่มีพระ (หน้าพระไตรสรณคมน์ นสพ.คมชัดลึก วันพฤหัสบดีที่ ๒๒ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๐)](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2020/09/19KLE6S1_22062017111-486x1024.jpg)
มีอยู่ปัญหาหนึ่งซึ่งผู้พูดมักจะบอกว่า “พระไม่เข้าใจหรอก”
มันคือเรื่อง ความรัก ซึ่งฟังแล้วก็ไม่ค่อยจะเข้าใจจริงๆ นั่นแหละ และเมื่อรับรู้มากขึ้นก็พบว่า ความรักมันซับซ้อนยิ่งกว่าที่คิดไว้เยอะเลย ไม่ใช่แค่รักของหนุ่มสาว รักของพ่อแม่ เพื่อน หรือแม้แต่ “รักรถ” ฟังแล้วก็ รู้สึกประหลาดใจเหลือเกิน อยากจะอุทานออกมาเป็นภาษาบ้านตัวเองว่า “งึดหลาย”
แต่กระบวนการฟัง หากเราตัดสินไว้ก่อนมันจะทำให้เราไม่ได้ยินในสิ่งที่เขาจะเล่า เพราะความจริงบางทีมันซ่อนอยู่หลังคำพูด ไม่ใช่ความหมายของคำ แต่มันคือความรู้สึกของใจ
สิ่งที่ต้องทำไม่ใช่มัวแต่ประหลาดใจ แต่ต้องปรับจิตจูน (tuning) ให้ติดถึงความรู้สึกของเขาให้มากที่สุด เพราะบางทีเขาไม่ได้อยากรู้ทางออกของปัญหา แค่หวังเพียงใครสักคนที่ตั้งใจฟังเขาอย่างแท้จริงเท่านั้นเอง พูดง่ายๆ คือ “แค่สักคนที่เข้าใจ”
แต่เราจะไม่พูดว่า “เข้าใจ” มันทำให้เขารู้สึกว่าเราไม่ได้ตั้งใจฟังจริงๆ แล้วก็จะแย้งเรากลับมาว่า “พระไม่เข้าใจหรอก”
ผู้เขียนพบว่า ลักษณะร่วมที่เหมือนกันอย่างหนึ่งของการพูดคุยเรื่องความรัก แท้จริงมันคือปัญหา ความสัมพันธ์ (relationship)
พระมหาประสิทธิ์ ญาณปฺปทีโป
![ขอขอบคุณ ภาพถ่ายโดย พระมหาปฐมพงศ์ ญาณวํโส จริยธรรมแชนแนล สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคงแห่งสถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ วัดสระเกศ](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2020/09/999DSC02504-1024x683.jpg)
มันไม่ใช่การรักษาความรักไม่ให้ร้าย ไม่ใช่แค่การรักษาคู่ครองให้กลายเป็นคู่แค้น แต่มันคือการรักษาเส้นใยของความผูกพัน ให้อยู่ในระดับที่สมดุล รัดมากไปก็แน่นอึดอัด หลวมมากไปก็รั้งไว้ไม่อยู่ รักมา ๖ ปี เข้าปีที่ ๗ อาจจบรักด้วยการหย่าร้างก็ได้
สิ่งสำคัญไม่ว่าเราจะรักกับใครหรืออะไร การรักษาความสัมพันธ์เป็นสิ่งที่จำเป็นจะต้องเรียนรู้ และตัวเราเองจะรู้ว่า “สมดุลอยู่ ณ จุดไหน” และจุดนั้นก็อาจจะเปลี่ยนแปลงผันแปรไปได้ตลอดเวลา ซึ่งจะต้องใช้ความจริงใจ ข่มใจ อดทน และเสียสละ และศิลปะของการสื่อสารอย่างสันติเข้าช่วย
รัก ก็เหมือนกับการเรียนรู้ เราต้องเรียนรู้อยู่ตลอดชีวิต เพื่อที่จะให้เรารักกันได้ไปตลอดชีวิต
อำเภอจดทะเบียนสมรสให้เราได้ แต่มิอาจจะผูกมัดให้รักเรายั่งยืนได้
จะรักทรหด หรือรักทรยศ ไม่มีใครจะตอบแทนได้
เราจะอยู่ร่วมกันอย่างสันติ หรือสร้างสงครามเพื่อสู้รบ สุดแท้แต่เราจะเลือก
พระมักจะสอนเราว่า ให้รู้จักปล่อยวาง อย่าไปยึดมั่นถือมั่น มันจะทำให้เราทุกข์ใจ ถ้าจะว่าไปจะมีใครสักกี่คนที่สามารถทำได้อย่างนั้น…แต่สุดท้ายมันก็เป็นสิ่งที่เราควรจะฝึกเอาไว้
พระมหาประสิทธิ์ ญาณปฺปทีโป
![ขอขอบคุณ ภาพถ่ายโดย พระมหาปฐมพงศ์ ญาณวํโส จริยธรรมแชนแนล สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคงแห่งสถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ วัดสระเกศ](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2020/09/88DSC02530-919x1024.jpg)
เพราะคำว่า “ปล่อยวาง” คือเส้นทางแห่งการพ้นทุกข์ ร้อยความทุกข์บรรเทาได้ด้วยคำๆ นี้ โดยเฉพาะกับความรัก ถ้าไม่รู้จักปล่อยวาง รักจะทำให้คนเรานั้นทุกข์มาก ไม่มีอะไรจะทำให้เราต้องทุกข์ใจไปมากกว่าความรัก ไม่มีใครจะทำให้เรามีความทุกข์ใจได้มากกว่าคนที่เรารัก ทำไมเมื่อรักแล้วจึงต้องทุกข์ หรือเพราะที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์
เมื่อได้โอกาสจึงได้ถามพระอาจารย์ท่านหนึ่งถึงความรักที่ทำให้เกิดทุกข์ ท่านบอกว่า
ความรักเป็นจุดเริ่มต้นของทุกศาสนา และความรักก็คือจุดเริ่มต้นของทุกสันติสุข
พระมหาประสิทธิ์ ญาณปฺปทีโป
“เมื่อมีรักก็จะไม่ไปทำร้ายเขา เมื่อมีรักก็จะไม่ไปขโมยคดโกงเขา เมื่อมีรักก็จะไม่ไปผิดลูกเมียเขาหรือของเรา เมื่อมีรักก็จะไม่โกหกหลอกลวง เมื่อมีรักก็จะไม่หลงไปติดสารเสพติดให้เสียสุขภาพ เสียทรัพย์สิน”
แต่ก็แย้งท่านไปว่า ออกข่าวทุกวันมีแต่คนทำตรงกันข้ามเพราะรักทั้งนั้น
ท่านบอกว่า รักแท้ไม่ทำร้ายใคร แต่คนส่วนใหญ่ไม่ใช่รักแท้ แค่ความรู้สึกอยากครอบครอง เมื่อหมายปองแล้วไม่ได้ก็เสียใจ ยอมไม่ได้ที่คนอื่นจะได้ไป สุดท้ายก็ทำร้ายตนเองและคนที่ตนรัก
พระมหาประสิทธิ์ ญาณปฺปทีโป
มันเป็นเรื่องเศร้า ที่มีมานาน ไม่มีทางแก้ไขหรอกนอกจากต้องฝึกใจให้ปล่อยวาง เพราะถึงรักมากแค่ไหน ถ้าใจปล่อยวางไม่เป็น คนที่เคยมีค่าก็พร้อมจะโดนฆ่าได้ทุกเมื่อ
ยิ่งใกล้ชิดยิ่งควรปล่อยวาง
![ขอขอบคุณ ภาพถ่ายโดย พระมหาปฐมพงศ์ ญาณวํโส จริยธรรมแชนแนล สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคงแห่งสถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ วัดสระเกศ](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2020/09/333DSC02502-1024x683.jpg)
อย่าเอามายึดติดจนเกินไป เหมือนมือที่กำไว้ ถ้าไม่ปล่อยคลายจะใช้งานได้ยังไง ความรักก็เหมือนมือของเรา รู้ว่าจะหยิบจะวางตอนไหนถึงจะเหมาะ ถ้าถือไว้ยกไว้ มือเปล่าก็หนักได้จริงๆ ก็ไม่ใช่หนักหรอก แต่ว่าล้าเกินกว่าจะยกไหว
เพราะฉะนั้นแล้ว
การรักษาความรักหรือคนรักเอาไว้
ไม่ใช่แค่คิดว่าเขาคือคนรักของเรา
แต่เราต้องเข้าใจว่า
ทุกคนย่อมมีชีวิตเป็นของตนเอง
รู้จักปล่อยวาง รู้จักเว้นระยะห่าง
และสร้างความสัมพันธ์ใกล้ชิดที่ลึกซึ้ง
พระมหาประสิทธิ์ ญาณปฺปทีโป
ไม่รับประกันหรอกว่า คนรักจะไม่เปลี่ยนไปหรือความรักจะยังคงเดิม ที่แน่นอนเลยคือ จะทุกข์เพราะรักน้อยลง ถ้ารู้จักปลงและปล่อยวาง
“ลองเปลี่ยนจากยึดติด
มาเป็นยืนใกล้ชิดอยู่ข้าง ๆ
อาจจะไม่ได้เดินจูงมือ
แต่ว่าผูกพันทางใจในทุกเส้นทาง”
พระมหาประสิทธิ์ ญาณปฺปทีโป
ประคองแขนไว้ในยามข้ามถนน ยื่นมือจับไว้ไม่ให้ล้ม ไม่ต้องอุ้มเอาไว้ แต่ปล่อยให้เดินเองได้อย่างมั่นใจ แล้วความรักที่สร้างไว้จะมั่นคง
![พระมหาประสิทธิ์ ญาณปฺปทีโป](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2020/09/IMG_1329111444-1024x860.jpg)
“ยิ่งใกล้ชิดยิ่งควรปล่อยวาง” เขียนโดย พระมหาประสิทธิ์ ญาณปฺปทีโป ประธานกลุ่มเพื่อชีวิตดีงาม สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคงแห่งสถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ วัดสระเกศ จากคอลัมน์ โชคดีที่มีพระ (หน้าพระไตรสรณคมน์ นสพ.คมชัดลึก วันพฤหัสบดีที่ ๒๒ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๐)
![(หน้าพระไตรสรณคมน์ นสพ.คมชัดลึก วันพฤหัสบดีที่ ๒๒ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๐)](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2020/09/19KLE6S1_22062017-671x1024.jpg)