![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2020/01/S__3334197-1-683x1024.jpg)
มหาจุฬาฯ งามสง่าสดชื่น
กลางทะเลแห่งคลื่นลม
ร่วมบำเพ็ญกุศลอุทิศถวาย ในงานพระราชทานเพลิงศพ
เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์
(เกี่ยว อุปเสณมหาเถระ)
อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศ
ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช
![สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ประยุทธ์ ปยุตโต) , สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปณมหาเถระ) และ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ( ช่วง วรปุญฺโญ )](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2020/01/3สมเด็จฯ-1024x400.jpg)
มหาจุฬาฯ งามสง่าสดชื่น กลางทะเลแห่งคลื่นลม (๔) อะไรๆ ก็ใหม่ๆ : พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต)
![เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ)](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/12/IMG_3876-877x1024.jpg)
(คำปรารภ)
เจ้าประคุณอาจารย์สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสณมหาเถระ) ได้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในพระบรมราชปถัมภ์ ที่ปัจจุบันเรียกชื่อตามกฎหมายว่า มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในช่วง ๒๕๐๗ – ๒๕๒๑ รวมเวลา ๑๕ ปี
ตั้งแต่ดำรงสมณศักดิ์ที่ พระราชวิสุทธิเมธี พระเทพคุณาภรณ์ พระธรรมคุณาภรณ์ และพระพรหมคุณาภรณ์ โดยลำดับ นับว่าเป็นเลขาธิการองค์จริงจังในกิจการอย่างยาวนานที่สุด ของมหาวิทยาลัยสงฆ์แห่งนี้
ในสมัยนั้น เลขาธิการเป็นตำแหน่งของผู้เป็นหัวหน้าที่ทำงานจริง ในการดำเนินของมหาวิทยาลัยทั้งหลาย มิใช่เพียงตำแหน่งเกียรติยศ ดังมีคำอธิบายในหนังสือนี้แล้ว
ในฐานะเป็นผู้นำ เป็นหัวหน้าผู้รับผิดชอบการดำเนินงานของมหาจุฬาฯ มิใช่ท่านจะต้องทำงานไปทุกอย่าง แต่กิจการทั้งปวงในระยะเวลานั้นทั้งหมด ดำเนินไปในความควบคุมดูแลและความเห็นชอบของท่าน โดยเฉพาะในยุคสมัยนั้น มีการทำงานที่เป็นระบบแห่งความร่วมแรงร่วมใจ โดยเป็นไปในสามัคคีสมานฉันท์ จึงพูดง่ายๆ รวมๆ ว่าเป็นกิจการของมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ในยุคที่เจ้าประคุณอาจารย์สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสณมหาเถระ) เป็นเลขาธิการ
ในหนังสือนี้ ได้เล่าเรื่องราวความเป็นไปในกิจการของมหาจุฬาฯ ในช่วงเวลา ๑๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๐๗ – ๒๕๑๗) เมื่อผู้เล่าสนองงานในฐานะผู้ช่วยของท่าน คือเป็นผู้ช่วยเลขาธิการ การเขียนเล่าเรื่องราว และทำหนังสือนี้ขึ้น ขอถือเป็นการร่วมบำเพ็ญกุศลอุทิศถวาย ในวาระสำคัญยิ่ง แห่งงานพระราชทานเพลิงศพ
อนึ่ง การเขียนสะกดคำบางอย่าง อาจต่างไปจากที่ใช้กันมาบ้าง ในเมื่อเห็นว่าควรเปลี่ยนแปลงเพื่อความเหมาะสม เช่น แทนที่จะเขียน “วรสารเถร” ก็เขียนเป็น “วรสารเถระ”
ขอกุศลในการนี้ จงเป็นไปเพื่อความเจริญงอกงามของพุทธบริษัท ในไตรสิกขา และในไตรพิธบุญกิริยา เพื่อความแผ่ไพศาลแห่งพระพุทธศาสนา และเพื่อความไพบูลย์แห่งประโยชน์สุขของปวงประชา อันเป็นจุดหมายในการบำเพ็ญศาสนกิจทั้งปวงของเจ้าประคุณอาจารย์สมเด็จพระพุฒาจารย์ ยั่งยืนนานสืบไป
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต)
๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗
![](https://image.makewebeasy.net/makeweb/0/TwCUvF9qo/news4/1_2.jpg)
อะไรๆ ก็ใหม่ๆ
ก่อนจะผ่านเหตุการณ์นำเรื่องนี้ไป ควรจะบอกไว้ให้เป็นที่สังเกตว่า เมื่อสมเด็จพระสังฆราช ญาโณทยมหาเถระ วัดสระเกศ เสด็จมาในงานวันอนุสรณ์มหาจุฬาฯ ปี ๒๕๐๖ นั้น พูดได้ว่าเป็นช่วงเวลาช่วงต่อสำคัญคราวหนึ่ง งานวันนั้นจึงอยู่ในยุคที่มีอะไรใหม่ๆ หลายอย่าง
![สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสณมหาเถระ) และ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (อยู่ ญาโณทโย) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก พระองค์ที่ ๑๕ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ สถิต ณ วัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2020/01/12342020-01-14T113328.934.jpg)
เริ่มแต่สมเด็จพระสังฆราช ญาโณทยมหาเถระ ก็เป็นพระองค์ใหม่ เพิ่งทรงได้รับการสถาปนาในวันฉัตรมงคล พ.ศ. ๒๕๐๖ นี้ หลังจากสมเด็จพระสังฆราช กิตติโสภณมหาเถระ วัดเบญจมบพิตร สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ ๑๗ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๐๕
แล้วที่สำคัญมากสำหรับการคณะสงฆ์ ก็คือ กฎหมายคณะสงฆ์ฉบับใหม่กล่าวคือ พ.ร.บ. คณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕ ที่รัฐบาลสมัยปฏิวัติของจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ จัดการให้ตราขึ้นมา ก็เพิ่งมีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๐๖ เป็นต้นไป ทำให้ระบบการปกครองของคณะสงฆ์เปลี่ยนแปลงใหม่ครั้งใหญ่อีกคราวหนึ่ง และสมเด็จพระสังฆราช ญาโณทยมหาเถระ วัดสระเกศ ก็ทรงเป็นสมเด็จพระสังฆราชพระองค์แรก ในยุคของ พ.ร.บ. คณะสงฆ์ ฉบับใหม่
คณะสงฆ์มนตรี นำโดยสังฆนายก ก็เลิกล้มไปตาม พ.ร.บ. คณะสงฆ์ ๒๔๘๔ โดยให้สมเด็จพระสังฆราช องค์สกลมหาสังฆปรินายก ทรงบัญชาการคณะสงฆ์ทางมหาเถรสมาคมแทนที่ ฟื้นขึ้นใหม่ซึ่งคำว่า “มหาเถรสมาคม” อันเคยใช้ในพระราชบัญญัติลักษณะปกครองคณะสงฆ์ ร.ศ.๑๒๑ (พ.ศ. ๒๔๔๕) สมัย ร. ๕
นอกจากนั้น จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ นายกรัฐมนตรี ที่เรียกว่าเป็นหัวหน้าคณะปฏิวัติ ซึ่งเป็นเจ้าของวาทะว่า “สมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า” (๒๕๐๒-๒๕๐๖, หรือถ้านับตั้งแต่ท่านทำรัฐประหารต่อรัฐบาลของจอมพล ป. พิบูลสงคราม แล้วมีอำนาจอยู่เบื้องหลังเรื่อยมา ก็ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๐๐) ได้ถึงอสัญกรรมในวันที่ ๘ ธันวาคม ๒๕๐๖
จากนั้น ในปี ๒๕๐๖ นั่นเอง เมืองไทยก็มีนายกรัฐมนตรีคนใหม่ คือ จอมพลถนอม กิตติขจร เป็นความเปลี่ยนแปลงที่มีผลต่อกิจการบ้านเมืองแทบทุกอย่าง รวมทั้งการดำเนินคดีคอมมิวนิสต์
หันมาดูข้างในมหาจุฬาฯ เมื่อมีอธิบดีสงฆ์วัดมหาธาตุองค์ใหม่ คือ พระธรรมรัตนากร (กิตติสารเถระ) มหาจุฬาฯ ก็เป็นอันว่ามีสภานายกองค์ใหม่ด้วย
แล้วเมื่อสั่งการเลขาธิการถูกนิมนต์พรากไปอยู่ที่สันติบาล โดยมีพระเถระผู้มาช่วยบริหารงานรั้งตำแหน่งไว้ ครั้นพระเถระนั้น กล่าวคือพระเมธีวรคณาจารย์ (สนั่น กมโล) ลาออกจากตำแหน่งแล้ว เจ้าประคุณอาจารย์สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) ครั้งยังเป็นพระราชวิสุทธิเมธี ก็เข้าดำรงตำแหน่งเป็นเลขาธิการมหาจุฬาฯ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๐๗ เป็นต้นมา เป็นองค์แรกที่นับได้ว่าเป็นจริงเป็นจังอยู่ยาวนาน
สุดท้าย คือตัวผู้เล่าเอง เวลานั้น คืนในปี ๒๕๐๖ นี้ ก็ใหม่ คือเป็นพระใหม่ เรียกตามพระวินัยว่าพระนวกะ เพิ่งอุปสมบท คือบวชเป็นพระภิกษุได้ ๒ พรรษา เพิ่งจบมหาจุฬาฯ แล้วทำงานสอนมาได้ ๑ ปี ยังไม่ได้อยู่ในวงงานบริหารของมหาจุฬาฯ ดังนั้น เท่าที่ได้เล่ามาแล้วนั้น จึงว่าไปตามที่ได้รู้เห็นเหตุการณ์ และเท่าที่พบหลักฐาน มิใช่จะได้รู้อะไรลึกซึ้งแต่อย่างใด
ในปีถัดมา ใกล้ถึงกลาง พ.ศ. ๒๕๐๗ ผู้เล่าคราวมีพรรษาได้ ๓ (ที่จริง อายุ ๒๕ ปีแต่ในปีที่อายุครบ ๒๐ ได้อาพาธหนักด้วยวัณโรค ไอเป็นโลหิตมากมาย มัวยุ่งรักษาตัว) ทราบความอันเป็นข่าวว่า ตนได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ช่วยเลขาธิการมหาจุฬาฯ เป็นอันถึงเวลาที่ควรจะเล่าเรื่องราวในสมัยขององค์เลขาธิการ เท่าที่ได้ช่วยทำงานให้ท่านมา
อนึ่ง ในการเล่านี้ คงต้งมีการอ้างนามของท่านบ่อยมาก ถ้าจะใช้คำเช่นว่า เจ้าประคุณสมเด็จอาจารย์ เมื่อพูดบ่อย ก็จะกลายเป็นความเยิ่นเย้อยืดยาด และเวลานั้น ท่านก็ยังไม่เป็นสมเด็จ คิดว่าจะใช้คำอะไรดี จึงจะกระชับระทัดรัด
พอดีพบจดหมายเก่าในปี ๒๕๑๕ ที่ตนเองเดินทางตามท่านไปอเมริกา ได้เขียนจดหมายมาเล่าเรื่องราวแก่พระมหาสมบูรณ์ สมฺปุณฺโณ หัวหน้ากองกลาง ในจดหมายนั้น เมื่อเอ่ยอ้างนามท่าน ได้ใช้คำว่า “ท่านเจ้าคุณเลขาธิการ” คิดว่าเหมาะดี จึงตกลงว่าจะใช้คำนี้เป็นหลักต่อไป
(โปรดติดตามตอนต่อไป)
![สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ประยุทธ์ ปยุตโต) , สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปณมหาเถระ) และ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ( ช่วง วรปุญฺโญ )](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2020/01/A02BB94A84D74B9199DF010748AC5481_0.jpg)
จากเว็บไซด์ https://www.obhik.com สำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ THE REGULATORY OFFICE FOR OVERSEAS DHAMMADUTA BHIKKHUS วัดสระเกศ
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2020/01/S__3334196-3-683x1024.jpg)
ที่มา: หนังสือมหาจุฬาฯ งามสง่าสดชื่น กลางทะเลแห่งคลื่นลม: พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต) พิมพ์ร่วมบำเพ็ญกุศลอุทิศถวาย ในงานพระราชทานเพลิงศพ เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒจารย์ (เกี่ยว อุปเสณมหาเถระ) อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ๙ มีนาคม ๒๕๕๗