“พระผู้เป็นที่พึ่ง” ธรรมะเป็นหนึ่งเดียว

เหตุใดจึงกล่าวเช่นนี้

เพราะคำว่า “พระผู้เป็นที่พึ่งนั้น” คือการฝึกตนจนกว่าจิตจะเป็นพระ เมื่อจิตเป็นพระ ธรรมะก็จะเป็นหนึ่งเดียว ก็คือ จิตเป็นหนึ่ง นั่นเอง

จิตเป็นหนึ่ง เวลาทำอะไรก็มุ่งมั่น ชัดเจนไม่หวั่นไหว ไม่วอกแวก …

ข้าพเจ้าพิจารณาภาพวาดของศิลปินที่วาดภาพด้วยกาแฟบนกระดาษจนกลายเป็นภาพพระครูประโชติรัตนานุภาพ อดีตเจ้าอาวาสวัดรัตนานุภาพ จังหวัดนราธิวาส ทำให้ข้าพเจ้าออกจากกรอบการวาดภาพไปอีกว่า อะไรก็ได้ที่มีสี เช่น ดอกไม้ แก่นไม้ หรืออะไรก็ตาม เราก็สามารถนำมาเป็นอุปกรณ์การสื่อสารได้ ไม่เว้นแม้แต่กาแฟถ้วยที่เรากำลังดื่ม ใครจะคิดว่ากาแฟถ้วยนี้ จะกลายเป็นภาพที่ทำให้เราระลึกถึงพระครูผู้ดูแลผู้คนในชุมชนโดยไม่นึกถึงตนเอง พระผู้เป็นที่พึ่งของชาวใต้อย่างแท้จริง แม้ท่านจากไป แต่พลังความดีงามของท่านยังอยู่ในใจของพระเณรและผู้คนตลอดไป

ทำให้ระลึกถึงหนังสือ “ธรรมะเยียวยาใจ สายใยปลายด้ามขวาน” ขึ้นมา

หนังสือเล่มนี้จัดทำขึ้นโดยกลุ่มใต้ร่มพุทธธรรม สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมฯ วัดสระเกศ บอกกล่าวถึงหัวใจแห่งสัจธรรมที่ทำให้พระสงฆ์ยังคงทำหน้าที่เป็นที่พึ่งของผู้คนอยู่ในห้าจังหวัดชายแดนใต้มาจนถึงทุกวันนี้

เหตุใดที่พระสงฆ์ยังคงยืนหยัดอยู่ที่นั่น?

ขอยกปณิธานที่เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์(เกี่ยว อุปเสโณ) ได้ให้โอวาทกับเจ้าคณะสังฆาธิการทุกระดับ คณะพระธรรมทูตอาสา ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ และพระสงฆ์ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อปีพ.ศ.๒๕๕๕ ว่า “หากไม่มีพระสงฆ์ในพื้นที่ ชาวพุทธก็คงหมดที่พึ่ง แม้วันใดวันหนึ่งข้างหน้า พระพุทธศาสนาจะหมดไปจริงๆ ก็ขอให้พระสงฆ์เดินออกจากพื้นที่เป็นคนสุดท้าย”

นี้คือหัวใจแห่งความศรัทธาที่ทำให้พระสงฆ์ยังคงทำหน้าที่เป็นที่พึ่งของผู้คนอยู่ในห้าจังหวัดชายแดนใต้มาจนถึงทุกวันนี้

การอุทิศชีวิตของพระครูประโชติฯ ก็เช่นกัน ท่านค้นพบความหมายอันแท้จริงของความเป็นมนุษย์ และการมีชีวิตอันประเสริฐของพระผู้เป็นเนื้อนาบุญของโลก เป็นที่พึ่งของชาวบ้านไม่ว่าจะนับถือศาสนาใดๆ ก็ตาม ทำให้ข้าพเจ้าระลึกถึงคำปรารภของหนังสือเล่มนี้ที่บอกกล่าวต่อมาอีกว่า ถ้าคนเรา ต้องการจะช่วยเหลือใครสักคน…ที่มีค่า มีความหมายสำหรับเรา ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ไม่ว่าจะยากลำบากขนาดไหน… เราจะเบิกบานกับความรู้สึกนี้ โดยไม่เหนื่อยหน่ายกับภาระที่เราเผชิญอยู่ข้างหน้า ถ้าให้ความสำคัญกับความรู้สึกนี้ …การมีชีวิตอยู่ของเราจะอยู่อย่างมีคุณค่าและความหมายอย่างแท้จริง”

ข้าพเจ้าเห็นรอยยิ้มของพระครูประโชติรัตนานุรักษ์ยังคงมีลมหายใจอยู่ในพระสงฆ์อีกมากมายหลายรูปผู้เข้าถึงสัจธรรมว่า ธรรมะเป็นหนึ่งเดียว ไม่ว่าศาสนาไหนก็ตามถ้าเข้าถึงสัจธรรมนี้ก็จะเข้าใจว่า โลกทั้งผองพี่น้องกัน  และเราก็จะเข้าใจคำกล่าวของพระพุทธองค์ว่า ในสังสารวัฏอันยาวนานนี้ไม่มีใครเลยที่ไม่เคยเกิดเป็นพี่น้องกัน

           ดังภาพวาดด้วยกาแฟบนกระดาษที่มาจากต่างที่กัน แต่ก็กลายเป็นภาพพระครูประโชติรัตนานุรักษ์ที่หลอมดวงใจพระกับชุมชนในสังคมพหุวัฒนธรรรมเป็นหนึ่งเดียวกัน   

ภาพวาดพระครูประโชติรัตนานุรักษ์ : ภาพวาดด้วยกาแฟบนกระดาษ
ภาพวาดพระครูประโชติรัตนานุรักษ์ : ภาพวาดด้วยกาแฟบนกระดาษ
คอลัมน์ บันทึกธรรมวิจัย หน้าธรรมวิจัย นสพ.คมชัดลึก วันอังคารที่ ๔ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๖๒

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here