

ตำบล กุดลาด อำเภอ เมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี


วันจันทร์ที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๖
กฐินสามัคคี ณ วัดบ้านบาก (วัดป่าพระพิฆเณศวร์)
ตำบล กุดลาด อำเภอ เมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นวันจตฺตสลฺโลรำลึก ครบรอบ ๑๖ ปีมรณกาล “ญาถ่านจันทร์” พระมงคลธรรมวัฒน์ (บุญจันทร์ จตฺตสลลฺโล) ซึ่งเป็นพระอาจารย์ของพระอาจารย์พระมหาเทอด ญาณวชิโร (อดีตพระราชกิจจาภรณ์) แห่งวัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร กรุงเทพฯ ด้วย ดังที่ท่านเล่าไว้ใน มโนปณิธาน ตอนหนึ่งว่า

“อาตมาโชคดี แม้หลวงพ่อที่วัดปากน้ำ พระมงคลธรรมวัฒน์(บุญจันทร์ จตฺตสลฺโล) บุ่งสระพัง จังหวัดอุบลราชธานี ท่านเป็นพระบ้านๆ เป็นพระหลวงตา แต่ก็มีความคิดแบบก้าวหน้า ไม่เหมือนพระหลวงตาโบราณ มักสอนแนวคิดแบบสมัยใหม่ให้พระเณรเข้าใจโลก เข้าใจสังคม ให้พระเณรขวนขวายในการศึกษาเล่าเรียน ในวัดจึงพอมีหนังสือต่างๆ หลากหลาย ให้อ่านบ้าง
“ตอนสงครามเวียดนาม ราว พ.ศ. ๒๕๑๕ เครื่องบินทหารอเมริกามาตกใกล้ๆ หมู่บ้าน หลังบินผ่านดงพระคเณศวร์ เขาเกรงว่าจะมีฝ่ายตรงข้ามซุ่มโจมตี จึงมาปูพรมโดดร่มเต็มไปหมด โยมแม่ใหญ่เล่าว่า ทหารโดยมากลงที่โล่งกลางทุ่งนา แต่บางคนก็ลอยติดกิ่งไม้ ชาวบ้านก็ไปเก็บร่มมาเย็บทำมุ้งบ้าง ทำที่ตีนุ่นบ้าง

“ เมื่อทหารอเมริกาไปพบหลวงพ่อปักกลดอยู่ในป่าเพียงลำพัง ก็เกิดแปลกใจว่าพระองค์เดียวมาอยู่ในป่าได้อย่างไร ขนาดเขาเป็นทหารยังมาตั้งมากมาย พอได้พูดได้คุย ก็สนใจวิธีคิด ต่อมา ก็ได้มาช่วยท่านทำถนนหนทาง สร้างโรงเรียน ทำระบบน้ำประปาทั้งในวัดและโรงเรียน สร้างโบสถ์หลังใหม่ให้หลวงพ่อ และท่านก็ได้รับรางวัลยกย่องให้เป็นบุคคลผู้นำชุมชนของตนเองไปสู่การพัฒนาอย่างก้าวหน้าและยั่งยืน


“ ยิ่งเมื่ออาตมาต้องไปอยู่ป่ากับพระอาจารย์มหามังกร ปญฺญาวโร ยิ่งทำให้การเดินทางของความคิดกว้างไกลออกไปอีก สมัยนั้น การถวายการอุปัฏฐากครูบาอาจารย์ ถือเป็นหน้าที่สำคัญของสามเณร อย่างหนึ่ง ทุกวันอาตมาต้องตักน้ำใส่โอ่งสรงน้ำของอาจารย์ให้เต็ม โอ่งในห้องน้ำมีสองใบ คือ โอ่งสำหรับสรงน้ำ และโอ่งสำหรับราดฐาน จากนั้น ก็ขึ้นไปปัดกวาดถูห้องอาจารย์
ดูว่ามีผ้าจีวรที่ต้องเอาไปซักไหม ซักเสร็จก็พับมาวางไว้ในกุฏิท่าน ข้างที่นอนอาจารย์จะมีหนังสือวางซ้อนกันขึ้น หลักๆ จะเป็นชุดของพันเอกปิ่น มุทุกันต์ เช่น มงคลชีวิต คำบรรยายพุทธศาสตร์ วิธีพูดของข้าพเจ้า และชุดของหลวงวิจิตรวาทการ เช่น วิชชา ๘ ประการ ศาสนาสากล กำลังความคิด กำลังใจ กุศโลบายสร้างความยิ่งใหญ่ ซึ่งรวมความคิดของนักคิดทั่วโลก ก็นั่งอ่าน นอนอ่านเล่นๆ ที่ระเบียงหน้ากุฏิอาจารย์”
ท่านเล่าต่อมาว่า พอตกเย็นหลังกวาดใบไม้รอบศาลาต้องต้มน้ำร้อนทำน้ำปานะถวายอาจารย์ น้ำปานะก็ไม่มีอะไรมาก แค่ต้มน้ำร้อนชงใบชาตราสามม้าใส่น้ำตาล ๓ ก้อนเพียงแค่นั้น นานๆ ที จะทำปรมัตถ์ถวายท่าน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับมีโยมนำมาถวาย
“บางวันต้องเข้าป่าไปหาไม้มาทำฟืนสะสมไว้ ไปถึงตรงไหนก็จะเอาจีวรเก่าผูกต้นไม้ และเขียนป้ายข้อความว่า ‘เขตอภัยทาน’ ชาวบ้านที่ไปหาของป่า ไปล่าสัตว์เดินผ่านมาเห็นป้าย ก็พูดกันว่า”เณรเทอดมาทางนี้ๆ” ก็ต้องหลบหลีกไป ในตอนนั้น ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ทำไมจึงคิดได้เช่นนั้น”

ในวัยเยาว์สมัยที่ท่านเป็นเณรน้อย ก็ยังมีความสนุกสนานแบบเด็กๆ อยู่บ้าง แต่ท่านก็ได้บ่มเพาะนิสัยสมณะและการดูแลอุปัฏฐากอาจารย์อย่างเข้มข้นโดยไม่รู้ตัว




จึงขอนำบันทึก “คำสัตยาธิษฐาน” ที่ขุดพบ ณ ดงพระคเณศ วัดป่าพระพิฆเณศร์ บ้านปากน้ำ บุ่งสระพัง จังหวัดอุบลราชธานี พุทธศักราช ๒๕๖๖ มาเล่าสู่กันฟัง


อารามป่าแห่งนี้ เป็นที่สัปปายะแก่ผู้เจริญในธรรม เป็นสถานที่พบพระพุทธรูปนาคปรกหินทราย พระสังกัจจายหินทราย และพระพุทธรูปหินทรายปางต่าง ๆ ตลอดจนกลุ่มใบเสมาหินทรายหลากหลายขนาด อยู่ในยุคพระพุทธศาสนาทวารวดี (ราว พ.ศ.๑๑๐๐ – ๑๗๐๐ ปี) นอกจากนั้น ยังได้ขุดพบโครงกระดูกคนโบราณ ซึ่งพ่อถ่านจันทร์ ได้สร้างธาตุบรรจุไว้ เรียกว่า “ธาตุคนแปดศอก”

ณ อารามป่าพระพิฆเณศร์แห่งนี้ ยังเป็นสถานที่พบพระพิฆเณศวร์หินทราย, หินปลียอดปราสาท และโคอุสุภราชหินทราย(โคนนทิ) ตามความเชื่อของพราหมณ์ อยู่ในยุคอาณาจักรเจนละ (ราวพ.ศ. ๑๑๐๐ – ๑๓๐๐ ปี)

เป็นสถานที่ขุดพบพระพุทธรูปเงิน ศิลปะเชียงแสน ล้านช้าง (หลวงพ่อเงิน) ยุคพระวอ-พระตา ตั้งเมืองดอนมดแดง (ราว พ.ศ. ๒๓๑๑) ถูกฝังอยู่ในกล่องหินทราย ภายในเต็มไปด้วยทรายเนื้อละเอียด ตลอดจนพบพระในรูปแบบอื่น ๆ อีกจำนวนมาก

พระภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา ตลอดจนลูกหลานชาวบ้านปากน้ำทั้งปวง ล้วนเป็นผู้มีจิตศรัทธาหยั่งลึกลงยิ่งแล้ว ในพระบวรพุทธศาสนา ได้ทำการบูรณะอารามป่า ในดงพระคเณศแห่งนี้ ตั้งหอโฮงขึ้นไว้ ด้วยจิตอนุสรณ์ถึงพระคุณของพระมงคลธรรมวัฒน์ (บุญจันทร์ จตฺตสลฺโล) ผู้มีนามที่เรียกกันตามภาษาชาวบ้านว่า “พ่อถ่านจันทร์” “ญาถ่านจันทร์” หรือ “หลวงตาจันทร์” ซึ่งออกจากวัดกลางหมู่บ้าน มาเจริญวิปัสสนา ในดงแห่งนี้ ได้ชีปะขาวนิมิตบอกตำแหน่งให้ขุดพระพุทธรูปเงินขึ้นมาจากพื้นดิน ให้ลูกหลานได้สักการะบูชา จักมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง พ้นความทุกข์เข็ญ อยู่เย็นเป็นสุขสืบไป

ได้ยินมาว่า เทวดาทั้งหลาย ที่สถิตอยู่ในอารามป่าแห่งนี้ มีจิตน้อมไปในพระสัทธรรมแห่งพระบรมศาสดา เป็นเทวดาผู้มีฤทธิ์มาก เป็นผู้มีเดชมาก เป็นผู้มีความรุ่งเรืองมาก เป็นผู้มียศมาก ขอเทวดาเหล่านั้น ทั้งปวง พึงมีจิตอ่อนโยน จงอำนวยศุภผล แก่เหล่าชนผู้ทำการสักการะบูชา เหมือนบิดามารดามีจิตอ่อนโยน อนุเคราะห์บุตรผู้เกิดแต่อก

ขอพระธรรมคำสั่งสอนแห่งพระบรมศาสดา จงแผ่ไพศาลไปเป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่มวลสรรพสัตว์ ขอพระพุทธศาสนาจงดำรงอยู่สิ้นกาลนาน ฯ

บูรณะศาลปู่ดงพระคเณศ จะเสร็จสิ้น ณ วันจันทร์ที่ ๒๗ เดือน พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๖ ตรงกับวันเพ็ญเดือน ๑๒ ขึ้น ๑๕ ค่ำ ศิษยานุศิษย์ในญาถ่านจันทร์ และลูกหลานชาวบ้านปากน้ำ ตลอดจนพุทธบริษัททั้งปวง บูรณะและได้เขียนคำสัตยาธิษฐานนี้ไว้



แผ่นทองจารึกคำสัตคยาธิษฐานด้วยอักขระอักษรธรรม ที่จะประกอบพิธีบรรจุ ณ หอโฮงกลางสะดือศาลปู่ดงพระคเณศ วัดป่าพระพิฆเณศวร์ ในวันที่ ๒๗ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๖



เสมาหินทรายลงอักขระอักษรธรรม พร้อมด้วยวัตถุมงคลต่าง ๆ ที่ขุดพบขณะช่างบูรณะศาลปู่ดงพระคเณศ ซึ่งจะประกอบพิธีบรรจุกลับคืนดังเดิมและปิดสะดือศาล ในวันที่ ๒๗ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๖ เวลา ๑๐.๐๐ น.
หลังจากนั้น จะมีพิธีทอดกฐินสามัคคี ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของกาลกฐิน ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๖

ลูกหลานชาวบ้านปากน้ำ ตลอดจนผู้ประสงค์จะนำวัตถุมงคล หรือของอันควรค่าแก่การน้อมบูชาพระรัตนตรัย มาร่วมบรรจุ ก็สามารถนำมาบรรจุได้ในวันดังกล่าวนี้


