![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/12/70181087_1612037555598848_9024164117862154240_o-1024x683.jpg)
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/12/S__8192133.jpg)
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/12/S__8192137.jpg)
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/12/S__8192136.jpg)
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/12/S__8192135.jpg)
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/12/73324442_1644523262350277_2703908596910915584_n.jpg)
บทความพิเศษ ตอนที่ ๑๕
สนง.เสริมคุณธรรม จริยธรรมฯ
เป็นหน่วยงานเผยแผ่พระพุทธศาสนาเชิงรุกตามกฎหมาย เพียงแห่งเดียวของคณะสงฆ์ไทย
โดย พระใบฎีกาคทาวุธ คเวสกธมฺโม
![ขอขอบคุณ ภาพจาก สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคงแห่งสถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ วัดสระเกศ](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/10/IMG_3632-1-1024x683.jpg)
เมื่อปี พ.ศ.๒๕๕๑ ได้มีคำสั่งจัดตั้งโครงการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคงแห่งสถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ เพื่อให้เป็นหน่วยงานของคณะสงฆ์ในการทำหน้าที่เผยแผ่พระพุทธศาสนา โดยมีคณะกรรมการดำเนินงาน ประกาศคำสั่ง เมื่อวันที่ ๑ เดือน ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ ลงนามโดย เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/12/S__11927874-782x1024.jpg)
การให้มีคำสั่งจัดตั้งโครงการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมฯ จึงเป็นการ “ออกคำสั่ง” เพื่อตั้งคณะกรรมการดำเนินงานการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ตามความในมาตรา ๑๕ ตรี (๓) และวรรคสอง เพราะผู้ลงนามคือ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เป็นการปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราชมีอำนาจลงนามในพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราชได้ พร้อมทั้งปฏิบัติหน้าที่ในฐานะประธานกรรมการมหาเถรสมาคม ตามมาตรา ๘ และมาตรา ๑๒
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/12/S__11927876-793x1024.jpg)
ในเวลาต่อมามหาเถรสมาคมได้ออกมติเพื่อให้การเผยแผ่พระพุทธศาสนาเชิงรุก มติมหาเถรสมาคม ที่ ๔๑๒/๒๕๕๖ ในคราวประชุมมหาเถรสมาคม ครั้งที่ ๒๐/๒๕๕๖ “เห็นชอบให้สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคงแห่งสถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นหน่วยงานของคณะสงฆ์ในการสนับสนุนในการดำเนินภารกิจด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนาเชิงรุก”
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/12/img005-1-791x1024.jpg)
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/12/img006-791x1024.jpg)
และเมื่อมหาเถรสมาคมได้มีมติให้สำนักงานส่งเสริมเป็นหน่วยงานเผยแผ่เชิงรุกของคณะสงฆ์แล้ว ต่อมาจึงได้มีมติมหาเถรสมาคม ที่ ๔๘๗/๒๕๕๘ ในการประชุมมหาเถรสมาคมครั้งที่ ๒๐/๒๕๕๘ เพื่อแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินงานเข้ามาบริหารงานสำนักงานแห่งนี้ ให้เป็นคณะกรรมการดำเนินงานตามมติมหาเถรสมาคม โดยมีพระสงฆ์จากวัดต่างๆ รวม ๒๑ รูป ซี่งมีพระพรหมสิทธิ วัดสระเกศ เป็นประธานดำเนินงาน มีพระพรหมเสนาบดี วัดปทุมคงคา พระธรรมวิสุทธมจารย์ วัดหนองแวง จังหวัดขอนแก่น เป็นรองประธาน พระเมธีสุทธิกร(สังคม สังฆพัฒน์) วัดสระเกศ เป็นกรรมการ และมีพระวิจิตรธรรมาภรณ์(เทอด วงศ์ชะอุ่ม) เป็นกรรมการและเลขานุการ พระศรีคุณาภรณ์(บุญทวี คำมา) พระครูสิริวิหารการ(สมจิตร จันทร์ศรี)วัดสระเกศ เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/12/S__12271671-787x1024.jpg)
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/12/S__12271672-774x1024.jpg)
จะเห็นว่าสำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมฯ เป็นการออกคำสั่งโดยอำนาจหน้าที่ของมหาเถรสมาคม ตามความในมาตรา ๑๕ ตรี (๓) และวรรคสอง ประกอบกับมาตรา ๘ และมาตรา ๑๒ แห่งพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๕
![โครงการพระนักเขีนยภาคเหนือ](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/11/โครงการพระนักเขีนยภาคเหนือ-1-1024x683.jpg)
และการทำงานเผยแผ่เชิงรุกของคณะสงฆ์ไทย มีเพียงแห่งเดียวเท่านั้นคือสำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมฯ ซึ่งมีหน่วยงานกลางตั้งอยู่ที่วัดสระเกศ และมีศูนย์สาขาและเครือข่ายทุกภูมิภาค ตามคำสั่งและมติของมหาเถรสมาคม เพื่อขับเคลื่อนงานเผยแผ่พระพุทธศาสนาเชิงรุกโดยตรง
![๑๓ พฤษภาคม ๒๕๖๑ เวลา ๑๕.๓๐ น. พระมหาขวัญชัย กิตฺติเมธี, ป.ธ. ๙, ดร. ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาพระวิทยากร พร้อมด้วยคณะกรรมการ สถาบันพัฒนาพระวิทยากร เข้าร่วมประชุมประธรรมทูต ๔ ทวีป ณ ประเทศสิงคโปร์ เพื่อนำเสนอ ๑. ร่างแผนยุทธศาสตร์สำนักงาน กำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ ๒. ร่างหลักสูตรอบรมพระธรรมทูต สายต่างประเทศ เชิงปฏิบัติการ ……………………………………………………. โดยการได้รับมอบหมายจาก…. ท่านอาจารย์เจ้าคุณพระราชอุปเสณาภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร, เลขานุการ ประธานสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประะเทศ, ท่านอาจารย์เจ้าคุณพระราชกิจจาภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ ราชวรวิหาร, หัวหน้าสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/12/S__12410952.jpg)
สำหรับภารกิจของสำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม ฯ จุดที่น่าสังเกตคือคำว่า “เป็นหน่วยงานของคณะสงฆ์ในการสนับสนุนในการดำเนินภารกิจด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนาเชิงรุก” จึงทำให้คนในสังคมตั้งคำถามว่าการทำงานเผยแผ่แบบปกติ กับการทำงานเผยแผ่เชิงรุกตามมติมหาเถรสมาคม ต่างกันอย่างไร ?
ทั้งนี้ การทำงานเผยแผ่แบบปกติ กับการทำงานเผยแผ่เชิงรุก จะมีจุดต่างกันโดยสรุปมี ๕ ประการ
ประการที่หนึ่ง วิธีการทำงานเผยแผ่แบบปกติกับวิธีการทำงานเผยแผ่เชิงรุก
การทำงานเผยแผ่แบบปกติ ก็คือการทำงานคณะสงฆ์ทั้ง ๖ ด้าน ซึ่งได้อธิบายอย่างละเอียดแล้วในบทความก่อนหน้านี้ และวิธีการทำงานเผยแผ่แบบปกติที่คนทั่วไปเข้าใจ เช่น แสดงธรรมบนธรรมาสน์ หรือรอให้โยมเข้ามาหาที่วัดแล้วจึงจะได้มีโอกาสสอนธรรมะเท่านั้น
![โครงการพัฒนาศักยภาพพระวิทยากรด้านจิตวิทยา ณ วัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/11/ครงการพัฒนาศักยภาพพระวิทยากร-ด้านจิตวิทย.jpg)
แต่วิธีการทำงานเผยแผ่เชิงรุก จะนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วยขับเคลื่อนการเผยแผ่หรือสอนธรรมะโดยสื่อสารธรรมะผ่านวิทยุ โทรทัศน์ และเครือข่ายโซเชียลเน็ตเวิร์ก ตลอดถึงการนำเสนอธรรมะจะไม่พูดแต่เพียงเนื้อหาหลักธรรมอย่างเดียว จะใช้สื่อสมัยใหม่เข้ามาช่วย สร้างสื่อธรรมะขึ้นมา เป็นภาพตัดต่อ ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว ตัดต่อวีดีโอ ฉายผ่านโปรเจคเตอร์ หรือจอภาพ พร้อม ๆ กับบรรยายธรรมไปด้วย เพื่อให้ผู้ฟังธรรมเข้าใจ และเห็นภาพมากยิ่งขึ้น
และวิธีการเผยแผ่แบบปกติกับเชิงรุกที่ต่างกันเห็นได้ชัดเจนคือ การเผยแผ่แบบปกติก็จะเพียงสอนธรรมในวัดรอให้คนเข้ามาหาเท่านั้น แต่การเผยแผ่เชิงรุกคือการเดินเข้าไปหาชุมชน โรงเรียน หน่วยงานภาครัฐ และเอกชน โดยใช้วิธีการเดินเข้าไปหา เพื่อให้ได้หัวใจ และนั่งจับเข่าคุยคือสอนธรรม เพื่อให้หัวคิด ซึ่งวิธีการนี้ไม่ใช่พึ่งเกิดขึ้น แต่มันมีมาตั้งแต่สมัยพุทธกาลครั้งที่พระพุทธเจ้าจาริกธรรมเดินไปสอนปัญจวัคคีย์แล้ว
ประการที่สอง กระบวนการทำงานเผยแผ่แบบปกติกับกระบวนการทำงานเผยแผ่เชิงรุก
กระบวนการเผยแผ่แบบปกติก็คือการนำเนื้อหาธรรมไปสอนเท่านั้นคือไม่มีการบูรณาการเข้ากับศาสตร์อื่น ๆ แต่การเผยแผ่เชิงรุกคือนำองค์ความรู้ในศาสตร์ต่าง ๆ ของโลกสมัยใหม่มาบูรณาการเข้ากับกระบวนการสอนธรรม เช่น
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/12/S__12410912-1024x682.jpg)
กระบวนการจิตวิทยา (psychology) คือ ศาสตร์ว่าด้วยการศึกษาเกี่ยวกับจิตใจ กระบวนทางความคิด, การรับรู้, บุคลิกภาพ, อารมณ์ และพฤติกรรมและความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์
กระบวนการโค้ชชิ่ง (Coaching) คือ เป็นกระบวนการให้ความช่วยเหลือ แนะนำ พัฒนา แก้ไขปัญหา และที่สำคัญคือค้นหาตนเองให้เจอ มองตนเองให้ออก บอกตนเองให้ได้ เพื่อนำไปสู่ความสำเร็จและความสุขของชีวิต
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/12/S__12410915.jpg)
โดยจะมีแผนยุทธศาสตร์การทำงานเผยแผ่ การเขียนหลักสูตร การฝึกพระสงฆ์ให้เขียนบทความและหนังสือเล่ม มีการทำงานวิจัยผลสัมฤทธิ์ของการทำงานของพระสงฆ์ และมีการนำกระบวนการของศาสตร์ต่าง ๆ มาบูรณาการเข้ากับหลักธรรม เพื่อให้ธรรมหยั่งถึงรากลึกของจิตใจมนุษย์ และสามารถน้อมนำหลักธรรมไปเป็นหลักของการดำเนินชีวิตให้ได้มากที่สุดโดยอาศัยกระบวนการของศาสตร์เหล่านี้ มาเป็นเครื่องมือ หรือกลไกในการสื่อสารธรรมในโลกสมัยใหม่ยุคปัจจุบัน
ประการที่สาม การทำงานเผยแผ่เชิงรุกในประเทศเชื่อมโยงกับพระธรรมทูตทั่วโลก
![ขอขอบคุณ ภาพจากสำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคง แห่งสถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ วัดสระเกศ](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/11/55239-1024x683.jpg)
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/12/S__12271691-726x1024.jpg)
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/12/S__12271692-743x1024.jpg)
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/12/S__12271693-734x1024.jpg)
การทำงานเผยแผ่แบบปกติก็จะต่างคนต่างทำ ไม่ได้มีเครือข่ายอะไร แต่ละวัด หรือพระภิกษุรูปใด จะทำตามแนวทางของตนเองเท่านั้น แต่สำหรับสำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม ฯ จะเป็นหน่วยงานกลางที่เป็นตัวเชื่อมให้พระวิทยากรทำงานร่วมกัน เป็นทีม เป็นกระบวนการ และแบ่งหน้าที่ในการขับเคลื่อนงานโดยมีเครือข่ายทั่วประเทศ
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/12/S__12410948.jpg)
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/12/S__12410953.jpg)
เหตุผลประการหนึ่งที่คณะสงฆ์โดยมติมหาเถรสมาคม ขอให้หน่วยงานกลางมาตั้งที่วัดสระเกศ เพราะวัดสระเกศเป็นที่ตั้งของสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ เพื่อต้องการเชื่อมโยงหน่วยงานการเผยแผ่ของคณะสงฆ์ไทยทั้งสองหน่วยงานให้ขับเคลื่อนเชิงรุกทั้งในและต่างประเทศไปพร้อมกัน ให้การทำงานเผยแผ่ของคณะสงฆ์ไทยมีความเป็นเอกภาพ
จะเห็นได้จาก “มติมหาเถรสมาคมที่ ๒๒๐/๒๕๕๘ เรื่อง ขอความเห็นชอบปรับปรุงโครงสร้างการบริหารงานสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ” ซึ่งในปี ๒๕๕๖ มหาเถรสมาคมมีมติ ให้สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมฯ เป็นหน่วยงานเผยแผ่เชิงรุกของคณะสงฆ์ และต่อมาในปี ๒๕๕๘ มหาเถรสมาคมก็ได้มีมติให้สำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศปรับปรุงโครงสร้างหน่วยงาน เพื่อให้หน่วยงานสอดคล้องและรองรับกับการทำงานเผยแผ่เชิงรุกของสำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมฯ
ดังนั้น สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมฯ นอกจากจะดำเนินภารกิจเผยแผ่เชิงรุกตามมติมหาเถรสมาคมตามที่กล่าวมาแล้ว ยังเป็นหน่วยงานเผยแผ่ของคณะสงฆ์ไทยที่ต้องขับเคลื่อนงานเผยแผ่เชิงรุกเชื่อมโยงกับหน่วยงานเผยแผ่ในต่างประเทศกับเครือข่ายพระธรรมทูตทั่วโลก
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/11/S__11731135_0-1024x683.jpg)
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/12/S__12410945.jpg)
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/12/S__12410947.jpg)
ประการที่สี่ ทำงานเผยแผ่เชิงรุกในทุกพื้นที่ของประเทศ
การทำงานเผยแผ่พระพุทธศาสนาแบบปกติ ก็อย่างที่เราเห็นทั่วไปเช่นพระเทศน์ สอนตามวัดของตนทุกเช้าวันพระ หรือในโอกาสต่าง ๆ และในพื้นที่ ที่อยู่ในภาวะปกติเท่านั้น
แต่การทำงานเผยแผ่เชิงรุกตามมติมหาเถรสมาคมที่สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม ต้องรับผิดชอบ ไปทุกพื้นที่ไม่ว่าพื้นที่นั้นจะปกติ หรือเป็นพื้นที่เสี่ยง เช่น ใน ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ก็อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบที่ต้องไปขับเคลื่อนงานเผยแผ่พระพุทธศาสนาเชิงรุกให้เป็นระบบ และรูปธรรม
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/12/S__12410916.jpg)
ตามมติที่ ๕๑๒/๒๕๕๘ เรื่อง ขอความเห็นชอบตั้งศูนย์ขับเคลื่อนการส่งเสริมความมั่นคงของสถาบันพระพุทธศาสนาในจังหวัดชายแดนใต้ ดังความในมติมหาเถรสมาคม มติที่ ๕๑๒/๒๕๔๘ สำนักงานเลขาธิการมหาเถรสมาคมทีว่า
![โครงการฝึกอบรมพระวิทยากร-จ.อุบลราชธานี](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/11/โครงการฝึกอบรมพระวิทยากร-จ.อุบลราชธานี.jpg)
![โครงการพระนักเขียนภาคใต้](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/11/โครงการพระนักเขียนภาคใต้.jpg)
“…เพื่อขับเคลื่อนงานส่งเสริมความมั่นคงของสถาบันพระพุทธศาสนาในจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นไปอย่างเข็มแข็ง เป็นระบบ และเป็นรูปธรรม สามารถแก้ไขปัญหาและตอบสนองความต้องการของพื้นที่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ จึงเห็นควรจัดตั้งศูนย์ขับเคลื่อนงานส่งเสริมความมั่นคงของสถาบันพระพุทธศาสนาในจังหวัดชายแดนใต้ ณ วัดสระเกศ กรุงเทพมหานคร
เนื่องจากที่ผ่านมาวัดสระเกศ โดยกลุ่มเพื่อชีวิตดีงาม สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคงแห่งสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ได้ส่งพระธรรมทูตอาสา และจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมความมั่นคง และเสริมสร้างขวัญกำลังใจให้แก่พระภิกษุสามเณร และพุทธศาสนิกชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้มาอย่างต่อเนื่อง…”
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/12/S__12271676-768x1024.jpg)
และมติมหาเถรสมาคมดังกล่าวนี้ เป็นผลสืบเนื่องมาจาก คำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานก่อตั้งพระธรรมทูตอาสา ๕ จังหวัดชายแดนใต้ ของสมเด็จพระพุฒาจารย์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ที่ออกประกาศ ใน ปี พ.ศ. ๒๕๕๓ ซึ่งเป็นการออกคำสั่งที่มีผลตามกฎหมาย
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/12/S__12410910-1024x682.jpg)
ประการที่ห้า นำเสนอการทำงานเผยแผ่เชิงรุกทั้งในและต่างประเทศให้สาธารณชน
การทำงานเผยแผ่แบบปกติคือทำแล้วไม่ได้มีการนำมาเผยแผ่ให้สังคมได้เห็น หรือไม่ได้มีการนำเครื่องมือสมัยใหม่เข้ามาช่วยในการนำเสนอในการทำงานเผยแผ่ของคณะสงฆ์ เช่น แสดงธรรมบนธรรมาสน์ เมื่อแสดงพระธรรมเทศนาจบ ทุกอย่างก็จบ หรือไม่ได้มีการทำเป็นวีดีโอเพื่อนำเสนองานเผยแผ่ในด้านต่าง ๆ ให้สังคมได้เห็น เพื่อให้เกิดความศรัทธา อันจะเป็นจุดเริ่มต้นให้ผู้คนได้มีความปรารถนาอยากเดินเข้าหาธรรม
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/11/โครงการเยี่ยมพระพบปะโยม-2.jpg)
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/11/2-เราไม่ใช่ใคร-ล้วนญาติกัน.jpg)
แต่ในบริบทหรือตามเจตนารมณ์ของการทำงานเผยแผ่เชิงรุกของสำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมฯ ตามมติมหาเถรสมาคม จะมีการนำเสนอโดยสรุปดังนี้
๑) เมื่อคณะพระวิทยากรได้ลงพื้นที่ทำงานเผยแผ่ ก็จะได้นำงานหรือโครงการต่าง ๆ นำเสนอสู่สาธารณชน ให้ได้เห็นการทำงานของคณะพระวิทยากรผ่านสื่อในรูปแบบต่าง ๆ
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/12/S__12410914.jpg)
![โครงการธรรมะคืนถิ่น คืนกำไรชีวิต คืนความดีให้ชุมชน](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/11/โครงการธรรมะคืนถิ่น-คืนกำไรชีวิต-คืนความด.jpg)
๒) คณะสงฆ์ได้ทำงานในกรอบทั้ง ๖ ด้าน ซึ่งถือว่าเป็นงานเผยแผ่ โดยเฉพาะงานด้านสังคมสงเคราะห์ที่เห็นได้ชัด ณ ปัจจุบันคือการช่วยเหลือสังคม หรือล่าสุดช่วยเหลือน้ำท่วม อย่างเช่นน้ำท่วมใหญ่ปี ๒๕๕๓-๒๕๕๔ มหาเถรสมาคมก็ได้มีมติให้ สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมฯ วัดสระเกศ เป็นศูนย์ช่วยเหลือ ซึ่งจะได้นำงานเหล่านี้มาเผยแผ่ให้สาธารณชนได้เห็นการทำงานของคณะสงฆ์
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/12/S__111697968-1024x678.jpg)
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/12/S__111697965-1024x678.jpg)
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/07/S__111697985-1024x683.jpg)
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/12/S__111697967-1024x678.jpg)
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/12/S__111697969-1024x678.jpg)
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/12/S__111697966-1-1024x678.jpg)
และเมื่อเกิดเหตุแผ่นดินไหวใหญ่ที่ประเทศเนปาลปี ๒๕๕๘ มหาเถรสมาคมก็ได้มีมติให้สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมฯ วัดสระเกศ ร่วมกับ สำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ เป็นศูนย์ช่วยเหลือ
๓) สร้างสื่อวีดีทัศน์ สื่อออนไลน์ แอพพลิเคชั่นธรรมะผ่านมือถือ แอนนิเมชั่น และหนังสั้นส่งเสริมการเผยแผ่ธรรมะ หรือจัดทำรายการเกี่ยวกับวัดและพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นงานเผยแผ่พระพุทธศาสนาในรูปแบบของการจัดรายการธรรมะ หรือสารคดี ซึ่งก็เป็นงานเผยแผ่พระพุทธศาสนาเชิงรุกอีกประการเช่นกัน เพราะเป็นการสร้างกลไกลให้มนุษย์เข้าถึงธรรม โดยอาศัยกระบวนการและรูปแบบสื่อสารสมัยใหม่เข้ามาช่วยเพื่อให้มนุษย์และทุกกลุ่มเป้าหมายในสังคมได้เข้าถึงธรรมโดยง่ายและเข้าใจมากยิ่งขึ้น
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/12/9-สิงหา-61-เรียนธรรมผ่านชีวิตจริง-1024x682.jpg)
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/12/28576438_295504970977781_3168190458904558065_n.jpg)
ดังนั้น สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมฯ จึงเป็นหน่วยงานเผยแผ่พระพุทธศาสนาเชิงรุกเพียงแห่งเดียวของคณะสงฆ์ไทยตามกฎหมายในปัจจุบัน ซึ่งการทำงานเผยแผ่เชิงรุกจึงเป็นการนำหลักธรรมเดินเข้าไปหามนุษย์ เดินเข้าไปหาสังคมในทุก ๆ มิติ คณะพระวิทยากรทำงานเป็นทีม แบ่งหน้าที่กันทำ ทำเป็นกระบวนการ และมีเครือข่ายทั้งในและต่างประเทศ โดยอาศัยเทคโนโลยีสมัยใหม่ รวมถึง วิธีการและกระบวนการของศาสตร์ต่าง ๆ เข้ามาบูรณาการเพื่อให้หลักธรรมขอองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เข้าไปถึงรากลึกของจิตใจมนุษย์ และให้ธรรมนั้นเป็นหลักชัยในการดำเนินชีวิตสืบต่อไป
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/12/S__96452657-1024x682.jpg)
อย่างไรก็ตาม จุดที่น่าสังเกตอีกประการของสำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม ฯ คือ ชื่อสำนักงานแม้จะไม่มีคำว่า “เผยแผ่” ปรากฏในชื่อแต่มันก็คือหน่วยงานเผยแผ่ของคณะสงฆ์นั่นเอง กล่าวคือ
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/12/S__98082830-1024x678.jpg)
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/12/S__12271691-726x1024.jpg)
เจตนารมณ์ ในการก่อตั้งดำริขึ้นโดยเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) อดีตประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ซึ่งในคณะสงฆ์เห็นเป็นที่ประจักษ์อยู่แล้วว่าเพื่อให้การขับเคลื่อนงานเผยแผ่พระพุทธศาสนาของคณะสงฆ์เป็นรูปธรรม
ในทางพฤตินัย องคาพยพการทำงานของสำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมฯ มีความมุ่งหมายเพื่อการทำงานเผยแผ่พระพุทธศาสนาเชิงรุกอย่างเป็นรูปธรรมเห็นได้เป็นที่ประจักษ์จากการสรุปการดำเนินงานในแต่ละปี
ในทางนิตินัย เห็นได้ชัดเจนจากมติมหาเถรสมาคม “เห็นชอบให้เป็นหน่วยงานของคณะสงฆ์ในการสนับสนุนในการดำเนินภารกิจด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนาเชิงรุก” มันก็ชัดเจนอยู่แล้วว่านี้คือหน่วยงานเผยแผ่ของคณะสงฆ์ที่ได้รับการรับรองจากกฎหมายที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติคณะสงฆ์
ป.ล. หากมีคนตีความว่าหน่วยงานดังกล่าวนี้ไม่ได้เป็นหน่วยงานเผยแผ่พระพุทธศาสนา เพราะเพียงไม่ได้มีคำว่า “การเผยแผ่” ในชื่อสำนักงาน บุคคลนั้นไม่ได้ชื่อว่าเป็นนักกฎหมาย แต่เป็นนักเทคนิคที่ดูแต่ตัวบท ตัวอักษร แต่ไม่ได้ดูที่เจตนารมณ์หรือบริบทอันแท้จริงของเรื่องนี้
บทความพิเศษ ตอนที่ ๑๕
สนง.เสริมคุณธรรม จริยธรรมฯ
เป็นหน่วยงานเผยแผ่พระพุทธศาสนาเชิงรุกตามกฎหมาย เพียงแห่งเดียวของคณะสงฆ์ไทย
โดย พระใบฎีกาคทาวุธ คเวสกธมฺโม
![พระใบฏีกาคทาวุธ คเวสกธมฺโม ผู้เขียน](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/11/พระใบฏีกาคทาวุธ-คเวสกธมฺโม-420x420.jpg)