น้อมถวายความอาลัย หลวงพ่อพระครูกิตติสารโกศล อดีตเจ้าอาวาสวัดสุวรรณภักดี (วัดทุ่งไก่ดัก) อ.เมือง จ.ตราด จากเหตุการณ์คนร้ายบุกยิงขณะทำวัตรเช้า มรณภาพเมื่อวันที่ ๑๒ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒ ขอน้อมส่งหลวงพ่อสู่แดนพระนิพพาน

น้อมรำลึก พระครูกิตติสารโกศล (นิคม สุนฺทโร)”

อดีตเจ้าอาวาสวัดสุวรรณภักดี (วัดทุ่งไก่ดัก) จังหวัดตราด

โดย พระมหาอภิชาติ ธมฺมาภินนฺโท 

วัดพุทธารามเกาหลี  เมืองอันซัน ประเทศเกาหลีใต้

           ผู้เขียนได้รู้เรื่องราวการมาอยู่วัดทุ่งไก่ดักของท่านจากพระปลัดนัทธี วุฑฺฒิธมฺโมว่า  จุดเริ่มต้นของการเผยแผ่พระพุทธศาสนาของท่านเมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๘  กลุ่มพวกฉันไปรับท่านมาเป็นเจ้าอาวาสเมื่อปีพ.ศ. ๒๕๓๘  โดยท่าน พระมหาสมจิตร จิตฺตธมฺโม ในขณะนั้น และพระอาจารย์รังสรรค์ (ตู่) มรณภาพแล้วเมื่อปลายปี พ.ศ.๒๕๔๖ โดยไปรับท่านมาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสจากวัดพลับบางกระจะ อ.เมือง จ.จันทบุรี หลังจากนั้นท่านก็เริ่มจัดงานบวชเนกขัมมะจาริณี สั่งสอนให้การอบรมปฏิบัติธรรมประชาชนเรื่อยมา พัฒนาวัด จัดทำผังการสร้างเสนาสนะ สร้างเสนาสนะ กุฎิกรรมฐานเป็นร้อยหลัง สำหรับพระสงฆ์ ประชาชนผู้มาปฏิบัติธรรม สร้างศาลาแปดเหลี่ยม พระอุโบสถ และอื่นๆ ตลอดถึงซื้อที่ดินขยายวัดดังที่เราเห็นในปัจจุบัน

ในนามกลุ่มเพื่อชีวิตดีงาม สถาบันพัฒนาพระวิทยากร สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคงแห่งสถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ วัดสระเกศ เคยไปเป็นพระวิทยากรให้การอบรมจัดกิจกรรมโครงการค่ายพุทธบุตร ค่ายพุทธิดา โครงการบวชสามเณรภาคฤดูหนาวก็หลายครั้ง สัมผัสได้นึกความเมตตาของหลวงพ่อ ความตั้งใจของหลวงพ่อที่ต้องการส่งเสริมให้เด็กเยาวชนเป็นคนดี มีศีลธรรม

ยังจำคำสอนที่หลวงพ่อเคยแนะนำในเรื่องของการให้การอบรมเด็กเยาวชนว่า การปลูกฝังความดีงามให้เกิดขึ้นในใจคนนั้น ไม่เพียงแต่จะอาศัยความเมตตาเป็นที่ตั้งเท่านั้น ต้องอาศัยความเพียร ความอดทน และที่สำคัญต้องรู้จักการรอคอยด้วย เราอยากจะให้เขาดี แต่ถ้าเขาไม่เห็นคุณค่าของความดี ก็เป็นการยากที่เขาจะทำดีได้ ความดีมีคุณค่า สำหรับหมู่คนดีฉันใด ความชั่วก็มีคุณค่า สำหรับหมู่คนชั่วฉันนั้น

หลวงพ่อเป็นพระนักพัฒนา นักคิด นักลงมือทำ นักสร้างคน นักสร้างศาสนวัตถุ นักวางแผน ได้ฟังเรื่องราวการสร้างวัดของหลวงพ่อท่านแล้ว ไม่ธรรมดา ท่านวางแผนทำอย่างไรจะให้วัดพึ่งตนเองให้มากที่สุด

เคยได้ยินเรื่องการบริหารวัดของท่าน การบริหารจัดการเรื่องค่าไฟ ท่านวางแผนระยะยาว ท่านใช้พื้นที่วัดบางส่วนปลูกปาล์มเพื่อขายลูกปาล์มเป็นค่าใช้จ่ายในการจ่ายค่าไฟ ท่านพูดเสมอว่า วัดนี้ปาล์มเลี้ยงวัด ค่าน้ำค่าไฟ ก็ได้จากการขายปาล์มนี้แหละ

การบริหารจัดการเรื่องน้ำ เดิมทีวัดมีความลำบากเรื่องน้ำ ท่านต้องการจะขุดสระน้ำ แต่ค่าจ้างขุดสระแพงมาก ท่านก็เลยลงทุนเป็นหนี้ซื้อรถแม็คโคร แล้วจ้างคนขับเอาดินไปขายขุดสระเสร็จท่านจ่ายหนี้ค่ารถแม็คโครหมด สรุปท่านได้รถแม็คโครกับได้สระน้ำขนาดใหญ่ ๑ สระ หลังจากนั้นท่านก็เริ่มคิดจะทำน้ำดื่ม ก็มีผู้ถวายเครื่องทำน้ำดื่ม ท่านก็เลยสร้างโรงผลิตน้ำดื่ม เรื่องน้ำดื่มน้ำใช้ ท่านก็เลยไม่มีปัญหา แม้จะมีคนมาปฏิบัติธรรมมากเดือนละ ๑๐๐-๒๐๐ คน หมุนเวียนกันไป

ท่านเคยจ้างช่างมาก่อสร้างเมรุ ช่างสร้างไม่เสร็จทิ้งงาน ท่านเลยสร้างเอง ใช้พัดลมเป็นตัวเป่า ตามแบบที่ช่างจะสร้างใช้เวลาเผาศพประมาณ ๔ ชั่วโมง ท่านสร้างใช้เวลา ๒ ชั่วโมงกว่า เผาเสร็จปิดผ้าม่าน ใช้ศาลาเป็นห้องประชุมต่อได้เลย

ท่านออกแบบตัดแปลงล้อรถแม็คโคร เป็นล้อยางใช้งานเหมือนรถทั่วไป ท่านผลิตรถกอล์ฟพลังงานแสงอาทิตย์ใช้งานในวัด ท่านเป็นผู้นำนวัตกรรมหลายๆ อย่างสู่ชุมชน

หินกระเบื้องเศษที่ร้านเขาขายไม่ได้หรือไม่ต้องการแล้ว ญาติโยมนำมาถวายท่าน ท่านก็ปูเป็นพื้นถนน สวยงามอย่างที่เห็นในปัจจุบัน

ต้นไม้ที่ญาติโยมไม่ต้องการ ท่านนำมาทำเป็นโต๊ะ เก้าอี้ ที่นั่งทุกส่วนของต้นไม้ เรียกได้ว่า ท่านใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า

ท่านคิดทำหลายๆ อย่างเพื่อชุมชน อยากจะให้ชุมชนมีรายได้ ทั้งออกความคิดให้ชาวบ้านทำผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรมะกรูด ทำยาสระผม ครีมอาบน้ำ น้ำยาล้างจาน และอีกหลายๆ อย่าง

ท่านทุ่มเทแรงกาย แรงใจ พัฒนาวัดให้สวยงาม เป็นสัปปายะ เหมาะแก่การปฏิบัติธรรม มีสถานที่พักสำหรับผู้ปฏิบัติธรรมแบ่งเป็นโซนสำหรับชาย-หญิงชัดเจน มีเขตกุฏิกรรมฐานสำหรับพระสงฆ์ผู้ต้องการปฏิบัติธรรมปลีกวิเวก

ท่านมุ่งพัฒนาเยาวชน ทั้งบวชเณรภาคฤดูหนาว จัดค่ายคุณธรรม มอบทุนการศึกษาเป็นประจำทุกปี จัดปฏิบัติธรรมเปิดเป็นคอร์สตามวาระโอกาสต่างๆ จัดปฏิบัติธรรมประจำวันสำหรับผู้ที่มาพักที่วัด

ท่านจัดกิจกรรมสวดมนต์ทำวัตรเย็นแปล และเจริญพระพุทธมนต์สัญจร ตามบ้านโยม ตามแต่ที่ใครจะปวารณาเป็นเจ้าภาพสถานที่ต้อนรับพระสงฆ์ คณะแม่ชี ญาติโยม ทุกอย่างที่ท่านทำเป็นไปเพื่อบุญกุศล ความสุข ความสงบร่มเย็นของชาวบ้าน  

เมื่อครั้งผู้เขียนไปร่วมงานเป็นวิทยากรในโครงการบรรพชาสามเณรภาคฤดูหนาว และบวชศีลจาริณี เคยได้ไปร่วมงานสวดมนต์สัญจรร่วมกับน้องสามเณรที่ยังไม่ลาสิกขา จำนวน ๑๗ รูป ศีลจาริณีน้อยที่ยังไม่สละสิกขาจำนวน ๗-๘ คน ร่วมกับคณะแม่ชี จำนวนสิบกว่าคน เดินทางไปทำวัตรสวดมนต์เย็นแปล และเจริญพระพุทธมนต์สัญจรที่บ้านโยม ในตัวเมืองจังหวัดตราด

หลวงพ่อท่านเคยเล่าให้ฟังว่า กิจกรรมทำวัตรสวดมนต์เย็นแปล และเจริญพระพุทธมนต์สัญจร เกิดจากการรวมตัวของญาติโยมเองที่อยากจะสวดมนต์ แต่ไม่สะดวกมาที่วัด ก็เลยนิมนต์พระไปนำสวดที่บ้านของตนเอง พอนานเข้าก็มีญาติโยมหลายคนอยากให้ไปสวดที่บ้านของตนเองบ้าง ญาติโยมก็เลยต้องตกลงกันเอง แล้วก็นิมนต์พระ พระก็เลยต้องสัญจรไปอนุเคราะห์ญาติโยม ซึ่งในการจัดกิจกรรมก็จะจัดขึ้นทุกวันเสาร์ ทุกวันนี้ก็จัดตั้งเป็นชมรมสวดมนต์สัญจรวัดทุ่งไก่ดัก

ผู้เขียนมีโอกาสอยู่ปฏิบัติธรรมกับหลวงพ่อ ก็ยังระลึกถึงความเมตตา หลักธรรมคำสอนของท่านอยู่ตลอด ท่านให้อยู่ในเขตกรรมฐาน มีเสียงธรรมะปลุกผ่านเสียงตามสายในเวลา ๐๔.๐๐ น. เสียงระฆังดังให้เดินไปรับอาหารในเวลา ๐๙.๐๐ น. (ฉันมื้อเดียว) ระฆังดังอีกครั้งก็เวลา ๑๖.๐๐ น. ไปรับน้ำปานะ เวลาที่เหลือก็ให้ปฏิบัติธรรมอยู่รูปเดียว จะเดิน จะนั่ง กำหนดเวลาเอง นั่งสมาธิ เดินจงกรม กว่าจะผ่านไปได้แต่ละวันต้องสู้กับใจตัวเองเป็นอย่างมาก สองสามวันท่านมาสอบอารมณ์ครั้งหนึ่ง ท่านพูดด้วยความเมตตา ให้กำลังใจ เป็นภาพจำอยู่ในความรู้สึกของผู้เขียนตลอดไป

           หลวงพ่อท่าน ตลอดระยะเวลา ๒๐ กว่าปีในฐานะของเจ้าอาวาสท่านได้ทำหน้าที่ผู้นำ สร้างศาสนวัตถุ สร้างศาสนบุคคลมากมาย จากวัดที่ไม่มีอะไร จนมีพร้อมทุกอย่าง เป็นวัดที่มีความสัปปายะ ทำหน้าที่ผู้ให้ ให้ธรรมะ ให้ความร่มเย็น ใครมีความทุกข์ ย่างกรายเข้ามาในวัด ต้องได้รับความชุ่มฉ่ำใจกลับไป ท่านได้ทำหน้าที่สอนคน จนวินาทีสุดท้ายของชีวิต

วันที่ท่านมรณภาพ ในขณะที่ท่านกำลังนั่งหลับตานำญาติโยมสวดมนต์ในรุ่งเช้าของวันแม่ ก็มีชายคนหนึ่งเดินขึ้นมาบนศาลา ทักทายผู้ปฏิบัติธรรมแล้วก็เดินไปหาท่าน หิ้วถุงนมที่ทำทีเหมือนจะถวายท่านแล้วก็ชักปืนที่อยู่ในถุงนมยิงท่านไป ๔ นัด ร่างของท่านล้มลงพร้อมกับลมหายใจที่หมดไป ท่านได้หยุดทำหน้าที่ในร่างที่มีลมหายใจ ซึ่งในวันนั้นท่านมีกำหนดการจะถวายทุนการศึกษาให้กับลูกหลาน ซึ่งท่านได้ทำมาประจำทุกปี แต่ร่างที่ไร้วิญญาณของท่านได้ถูกส่งต่อไปโรงพยาบาล เพื่อทำหน้าที่ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ให้มีชีวิตต่อไป คือ ท่านได้บริจาคอวัยวะในส่วนที่ใช้ได้ให้หมอผ่าตัดนำไปบริจาคให้คนไข้ต่อไป ชีวิตของท่านเกิดมาเพื่อบำเพ็ญบารมีอย่างแท้จริง

หลายคนบอกว่า ท่านมาสร้างทุกอย่างเสร็จแล้วท่านก็จากไป หลายคนก็ได้แต่เสียดายความทุ่มเท ความตั้งใจของท่าน ที่อยากจะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ให้พ้นไปจากความทุกข์ การมรณภาพของท่านยังความเศร้าเสียใจไปให้กับลูกศิษย์ลูกหาเป็นจำนวนมาก วันที่จัดพิธีรดน้ำศพหลวงพ่อคนมาร่วมงานเรือนพัน ทุกคนเสียใจ และเสียดายท่าน ถ้ามองในอีกมุมหนึ่งก็คงถึงเวลาของท่านที่จะต้องพักผ่อนตลอดไป ไม่มีใครอยากจะให้เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้น  พระครูสังฆ์รักษ์ศักดา สุนฺทโร ท่านได้เมตตาให้แง่คิดในวันที่หลวงพ่อมรณภาพว่า วันนี้หลายคนคิดว่า เหตุการณ์ช่างโหดร้าย เหตุการณ์ช่างรุนแรง ถ้าใครจะคิดไป หรือข่าวสื่อออกไปว่าเป็นเรื่องโน้น เรื่องนี้ เรื่องนั้น  ถ้าเรายังไม่รู้ความจริง ก็อย่าเพิ่งไปพูดอะไร เพราะจะแย่ขาไปร่วมกรรมกับเขา ก็เป็นกรรมที่เราก็ไม่รู้ว่า เขาสัญญาอะไรกันไว้ ท่านก็ประพฤติดี ปฏิบัติดีของท่านไป

แต่ว่าเหตุหนึ่งเหตุใด จะต้องให้มีเหตุเล็กๆ มีการที่ท่านเป็นพระนักพัฒนา เมื่อพัฒนาแล้วอาจจะมีปีนเกลียวกันบ้าง อาจจะต้องมีเรื่องที่จะต้องขัดใจกันบ้าง กับคนบางคนในชุมชน ก็ด้วยคนๆ นั้นด้วยความขัดใจ หรือด้วยเรื่องอะไรก็ไม่ทราบ ก็คนที่มียิงก็เป็นคนในชุมชน ชาวบ้านบอกว่า เขาก็เป็นคนดีคนหนึ่ง เป็นคนที่มีจิตอาสาดีมากๆ คนหนึ่ง แต่เพราะเหตุใดจึงตัดสินใจแบบนี้ สุดที่จะคาดเดาว่าเราสัญญาอะไรกับใครไว้ แต่กรรมเก่าก็เป็นเรื่องกรรมเก่า จะสัญญาอะไรไว้อย่างไรไม่ทราบ

ถ้าเราขัดเคืองใครก็จะต้องพยายามดูใจตัวเอง นิ่งไว้ เพราะกรรมเก่าก็เป็นเรื่องของกรรมเก่า มันจะมีน้ำหนักแรงดึงไปขนาดไหน ถ้าปัจจุบันนี้เราสร้างเหตุดี ไม่ตามใจกิเลส เหตุนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น

จาริกบ้าน จารึกธรรม

หน้าพระไตรสรณคมน์ นสพ.คมชัดลึก วันพฤหัสบดีที่ ๒๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๒

โดย พระมหาอภิชาติ ธมฺมาภินนฺโท  วัดพุทธารามเกาหลี  เมืองอันซัน ประเทศเกาหลีใต้

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here