ชวนกันมาเรียนวิชาค้นพบตัวเองภายในสามวันกับพระอาจารย์จ๊อดส์ …
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/06/61626832_643483686116043_93358703385772032_n-1.jpg)
ธรรมจัดสรร…. สามวันที่ฉันตื่นรู้
โดย พระอาจารย์จ๊อดส์ พระครูสมุห์สุพัฒน์ อนาลโย
“ผลงานบ่งบอกถึงความสามารถของตน ส่วนการกระทำบ่งบอกถึงคุณธรรมของคน”
ชีวิตจะมีความหมายและคุณค่าเป็นประโยชน์ฝากไว้กับโลกบ้างยังน่าดู
วันนี้เราทำความดีสร้างประโยชน์ให้แก่ชุมชนหรือหน่วยงานสังกัดสังคมต่างๆ ที่เราได้พักพิงอาศัยอยู่ ทำมาหากินเช้าเย็น รู้จักบุญคุณท่านและตอบแทนบุญคุณเขาบ้างหรือยัง ?
อาตมามีโอกาสได้มาที่วัดป่าปาลธรรม มากราบพ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นดินแดนแหล่งวัฒนธรรมภูไทและไดโนเสาร์ที่ขึ้นชื่อแห่งหนึ่งของเมืองไทย
ด้วยเดชบุญกุศลที่วัดป่าปาลธรรมซึ่งมีพระอาจารย์มหาวีระพันธ์ ชุติปัญโญ เป็นเจ้าอาวาส ท่านได้จัดโครงการอบรมปฏิบัติธรรมเป็นระยะเวลา ๓ วัน ๒ คืน โดยมีคณะหมอโรงพยาบาล อำเภอสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์ จำนวนผู้เข้าร่วม ๓๑ คน ระหว่างวันที่ ๒๘ -๓๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๒
พระและคณะญาติโยมในวัดได้จัดสถานที่เตรียมงานคนละไม้คนละมืออย่างเอาใจจดจ่อกับหน้าที่ของตนเอง คุณยายคนหนึ่งเดินเก็บขยะอยู่บริเวณวัด พระอาจารย์ทรัพย์ชู (พระครูปลัดทรัพย์ชู มหาวีโร ) เห็นก็เลยบอกผู้เขียนว่าเอาน้ำเปล่าไปให้ยายหน่อยเผื่อท่านเหนื่อยจะได้ดื่มน้ำ ไม่รอช้าก็ได้หยิบเอาขวดน้ำเปล่าไปให้ยายด้วยรอยยิ้ม ผู้รับก็ยิ้มตอบๆ แทนน้ำใจที่มีต่อกัน
วันต่อมาว่าลูกสาวของยายมาบอกว่า “พระอาจารย์แม่ของโยมดีใจมากและพูดว่า พระรูปหนึ่งเอาน้ำเปล่ามาให้แม่ขวดหนึ่ง ตั้งแต่เกิดมาแม่ยังไม่เคยเห็นพระเอาใจใส่ขนาดนี้” พูดแล้วพูดอีกสามรอบค่ะ
ผู้เขียนมารู้ทีหลังก็แอบยิ้มมีความสุขกับโยมทั้งสองด้วย เราให้โดยไม่หวังผลตอบแทน เมื่อผลมันสุกเต็มที่ คือ เรามารู้ที่หลังว่า…
สิ่งเล็กๆ ที่เราทำ เรียกว่า” รัก”
ดังสุภาษิตที่ว่า ” ทะทะมาโน ปิโย โหติ แปลว่า ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก”
สุภาษิตนี้เพิ่งประจักแก่ใจวันนี้
ผู้ให้มีความสุข ส่วนผู้รับก็เป็นที่รักของผู้ให้ จิตใจมันเบิกบานมีความสุขทำงานเตรียมสถานที่จนเสร็จเรียบร้อยก็หายเหนื่อยเลย แต่งานใหญ่รออยู่ข้างหน้าจะเริ่มงานวันพรุ่งนี้แล้ว เมื่อเกิดมาเป็นคนแล้วต้องทำหน้าที่ให้เป็นประโยชน์แก่ตนและผู้อื่นบ้าง บอกตนเองและตอบตนเองในใจว่า สู้ๆ ต่อไป
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/06/61357141_297056907839770_129745868180946944_n.jpg)
วันแรก
ตอนเช้ามอบตัวเป็นศิษย์ รับศีลแปด และเจริญสติแบบเคลื่อนไหวแล้ว ฉันเพลเสร็จ ตอนบ่ายโมงพระอาจารย์พระครูปลัดทรัพย์ชู มหาวีโร ท่านได้บรรยายเรื่อง จิตร่วงคือจิตที่ไม่ดี ทำให้เกิดความทุกข์ใจ ไม่สบายใจ หนักจิตหนักใจ ชีวิตที่สับสนมืดแปดด้าน หาความก้าวหน้าในการทำงาน ทำหน้าที่และครอบครัวไม่ได้
จิตรุ่งคือจิตที่ดี ใจเบิกบาน สบายใจ โปร่งโล่ง ทำดี พูดดี คิดดี ทำจิตใจผ่องใส ปล่อยวางเป็น เมื่อจิตใจดี ชีวิตดี มีเพื่อนดี การงานดี ครอบครัวมีความสุข
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/06/61811632_861125190929901_4690871441405509632_n-916x1024.jpg)
ดังคำสอนของพระอาจารย์มหาวีระพันธ์ ชุติปัญโญ ว่า “วันไหนใจเราดีวันนั้นทั้งวันจะดีไปหมด วันไหนใจเราร้ายวันทั้งวันจะร้ายไปหมด”
เพราะ จิตหรือความคิดของเราจะอยู่นิ่งกับที่ได้ยาก
ถ้าไม่มีการฝึกฝนอบรมจิต โดยการเอาสติ (ความรู้สึกตัว) มากำกับควบคุมแล้ว
เวลาใจเราดีจะเป็นนางฟ้าเทพบุตร
ใจเราไม่ดีจะแปลงร่างกลายเป็นมารร้ายทันทีเลย
ลองมาสังเกตดูใจตนเองเป็นแบบนี้บ้างไหม
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/06/61817392_1223226944512613_8348119051242831872_n-837x1024.jpg)
ใครที่ชอบขัดขวางผู้อื่นแบบไม่มีเหตุผลไร้ความเมตตาธรรม เรียกว่า ใจเป็นสัตว์เดรัจฉาน
ใครที่ชอบกินไม่รู้จักอิ่ม ไม่รู้จักประมาณในการบริโภคจนทำให้ตนและผู้อื่นเดือนร้อนใจ เรียกว่า ใจเป็นเปรต
ใครที่ชอบโลภ โกรธ หลง เรียกว่า ใจของสัตว์นรก
ใครที่ชอบแอบหลบๆ ซ่อนๆ ขาดความมั่นใจหรือลังเลสงสัย เรียกว่า ใจเป็นอสูรกาย
ใครที่รู้จักละอายใจและเกรงกลัวต่อบาป เรียกว่า ใจเทวดา
ใครที่รู้จักบาปบุญคุณโทษของตนและผู้อื่นเรียกว่า ใจมนุษย์
เพราะใจคนเราไม่แน่นอน…
ฉะนั้น ไม่ควรดูถูก ดูหมิ่น เหยียดหยามกัน
ให้สังเกตดูว่าใจตอนนี้เป็นจิตร่วงหรือจิตรุ่งเป็นอย่างไร?
จิตร่วงไม่ดีต้องสร้างตัวสติ (รู้สึกตัว) เพิ่ม
และ จิตรุ่ง ทำความดีให้มาก เพื่อเข้ามาล้างสิ่งที่ไม่ดีออกไป
แล้วใจเราจะมีน้ำดีหล่อเลี้ยงชีวิตก็ดีขึ้นมีสุขกายใจด้วย
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/06/62012982_444756669669644_3089328825931137024_n.jpg)
วันที่สอง
หลังทำกิจวัตรไหว้พระสวดมนต์ ฉันข้าว เจริญสติแล้ว เปิดโอกาสให้คุณหมอถามปัญหาข้องใจ โยมหมออู๋ ได้ถามปัญหาข้องใจมีอยู่ ๓ ประเด็นว่า
คำถาม : การปฏิบัติธรรมสามารถล้างบาปออกจากใจได้ไหม
พระตอบ : ได้ การปฏิบัติธรรมคือการเจริญสติ (รู้สึกตัวรู้) เท่าทันความคิดที่ดีหรือชั่วตัดความคิดที่เป็นอดีตหรืออนาคตออกไปจากจิตใจ แล้วเรามาเพิ่มความรู้สึกตัว หรือ รู้เนื้อรู้ตัวให้อยู่ในปัจจุบัน ยืนเดินนั่งนอนให้รู้สึกตัวขณะนั้นๆ เมื่อเจริญสติมากๆ สติจะไปชำระล้างสิ่งที่ไม่ดี เรื่องอดีตที่กักขังใจเราไว้เป็นทุกข์ เรียกว่าทุกขังนั้นเอง
ฉะนั้น คนที่มีความคิดวิตกกังวลและทำให้ความคิดสั้นลงได้ ด้วยวิธีการเจริญสติเคลื่อนไหว ๑๔ จังหวะ หรือ ดูลมหายใจเข้าออกเพียงแค่รู้อาการการหายใจเข้า-ออกเฉยๆ
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/06/61921998_510643409475675_3931592623009038336_n.jpg)
ตัวอย่างเช่น…
พระองคุลิมาล เวลาที่ยังไม่บวชหลงผิดฆ่าคนเยอเยอะ เมื่อพบเจอพระพุทธเจ้าเป็นกัลยาณมิตรก็ได้บวช ท่านไปปฏิบัติธรรมเจริญสติได้เห็นความคิดเป็นอดีตตนที่เคยฆ่าคนปรากฏขึ้นเวลาปฏิบัติธรรมจนถอดใจไปกราบทูลพระพุทธเจ้า
พระพุทธเจ้าฟังแล้ว พระองค์ให้อารมณ์กรรมฐานว่า ”แต่ก่อนเธอเป็นองคุลิมาล แต่ปัจจุบันนี้เธอบวชในชาติของพระอริยเจ้าแล้ว เธอได้ฆ่าใครไหม”
นี้คือจุดเปลี่ยนของพระองคุลิมาล เข้าใจอดีตที่ผ่านไปแล้วปรับเปลี่ยนจิตใจใหม่แล้วตั้งใจใหม่มาเจริญสติอยู่กับปัจจุบันธรรม ในที่สุดท่านก็ได้บรรลุธรรม
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/06/61980483_872531253079668_1344276728733761536_n.jpg)
ดังนั้น …
สติความรู้สึกตัวสามารถล้างบาปได้
เปรียบเหมือนมีฝุ่นสกปรกในพื้นศาลา จะเอาน้ำแก้วเดียวมาล้างออกได้ไหม “ไม่ได้” ต้องใช้น้ำเยอะจึงจะสะอาดได้ สิ่งสกปรกคือ ความคิดชั่ว หรือความทุกข์ใจ
ส่วนน้ำ คือ สติ ต้องสร้างให้มากจึงจะมีพลังในการชะล้างสิ่งไม่ดีออกไปจากใจเราจากนั้นใจเราก็ปกติโปร่งโล่ง เบาสบายใจ รู้เท่าทันความคิดดีและไม่ดี ความคิดสั้นลง รู้สึกตัวทั่วพร้อมขยายพื้นที่ในใจมากขึ้น การใช้ชีวิตก็ง่ายขึ้น เข้าใจตนและผู้อื่นความสุขอยู่ในกำมือเราแล้ว
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/06/61510639_842584216111725_2574464587621466112_n.jpg)
คำถาม : ปฏิบัติธรรมเจริญสติแล้วได้บุญไหม
พระตอบ : ได้ บุญเกิดขึ้นทันที
บุญเกิดขึ้นตั้งแต่โยมมีเจตนาจะมาปฏิบัติธรรม ยิ่งมาลงมือปฏิบัติจริง เรียนรู้ ไม่มีตัวสำรองก็ได้รู้จริง สัมผัสธรรมะด้วยตนเอง การเรียนรู้ธรรมะจากการอ่านไม่เท่าลงมือปฏิบัติเอง เปรียบเทียบเราจะทำต้มยำ ต้องศึกษาหาข้อมูลความรู้วิธีการทำ และองค์ประกอบทุกอย่างลงมือทำตามสูตรนั้นแล้ว โยมไม่กินจะรู้รสชาติของต้มยำไหม ธรรมะก็เช่นกัน
ดังสุภาษิตว่า” สุโข ปุญญัสสะ อุจจะโย แปลว่า การสั่งบุญนำสุขมาให้”
และ ผู้ปฏิบัติธรรม ธรรมะย่อมรักษาผู้ปฏิบัติ นึกถึงการปฏิบัติธรรมตอนไหนปีติสุขเกิดทุกครั้ง
คำถาม : การแผ่เมตตาแล้วญาติเราจะได้รับไหม?
พระตอบ : “ได้” ปฏิบัติธรรมแล้วแผ่เมตตาทุกครั้ง ก่อนอื่นที่แน่ๆ ผู้ที่ได้รับจริงคือ “ตนเอง” ผู้ที่เราแผ่เมตตาให้คนที่ใกล้ชิดกับเรามีพ่อแม่ ลูกสามีภรรยา ญาติมิตรและเพื่อนร่วมงาน เป็นต้น
เมื่อเรามาปฏิบัติธรรมสามารถเปลี่ยนนิสัยตนที่เคยโกรธสงบลงได้เร็ว แต่ก่อนเป็นคนโมโหและพูดจาโผงผาง ตอนนี้ยิ้มแย้มแจ่มใสระวังคำพูดมากขึ้น การใช้ชีวิตก็ประหยัดอยู่กินง่ายไม่มากเรื่อง ผู้ที่อยู่ใกล้เห็นเราเปลี่ยนไปในทางที่ดี เขาอยากจะเจริญสติเป็น อยากจะออกความทุกข์เหมือนเราบ้าง จึงได้ชักชวนนำพามาปฏิบัติด้วยกัน
นี่ก็เป็นการแผ่เมตตาอย่างหนึ่งด้วยการแผ่ความดีให้เขาได้เห็นได้สัมผัสด้วยตนเอง
เหมือนเราได้จุดเทียนให้แสงสว่างแก่ใจตนเองแล้วยังไปจุดให้คนอื่นสว่างตามต่อกันไปเรื่อยๆ ส่วนคนตายผู้ที่ล่วงลับละสู่โลกนี้ไปแล้ว ลูกหลานแผ่เมตตาไปให้ผู้รับต้องมีจิตที่จูนตรงกับผู้แผ่ผลบุญไปให้ จึงจะได้รับก็ต่อเมื่อเขาอยู่ในภพภูมิที่สามารถรับได้หรืออยู่ภพที่สูงกว่าผลบุญนั้นย้อนมาหาเรา
และอานิสงส์ของการแผ่เมตตา นอนหลับฝันดีไม่ฝันร้าย เป็นที่รักของเทวดาและมนุษย์ มีสติก่อนตาย สมาธิตั้งมั่นได้เร็ว เป็นต้น
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/06/61544291_400410983889490_3406366398140645376_n.jpg)
วันสุดท้าย
พระอาจารย์มหาวีระพันธ์ให้โอวาทฝากข้อคิดธรรม
โดยมี ๔ ข้อธรรมนำพาสุข สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้เลย ดังนี้
๑.จงมีเมตตา…ต่อกันและกันด้วยความรัก
๒.จงเอื้ออาทรแบ่งปัน…ด้วยจิตที่รู้สึกยินดี
๓.จงให้อภัย…ในความบกพร่องของตนเองและผู้อื่น
๔.จงรู้จักวางใจ…ไม่ยึดติดแบกหามให้หนัก
คณะผู้ปฏิบัติธรรมโรงพยาบาลสมเด็จ ได้กล่าวขอบคุณพระอาจารย์ทั้งสามรูป
ที่เมตตาเสียสละเวลามาอบรมสั่งสอนเทศน์ธรรมะได้ข้อคิด มีความอดทน รู้จักการเจริญสติแบบเคลื่อนไหวสามารถนำไปปรับใช้ในวิถีชีวิตและการทำงานได้
ขอบคุณแม่ครัวที่ทำอาหารอร่อยและน้ำปานะให้ผู้ปฏิบัติธรรมอยู่ดีสัปปายะอำนวยความสะดวกในการปฏิบัติธรรมทั้งสามวันหกคาบ
ขอบคุณท่านผอ. และหัวหน้าแผนกที่ได้จัดโครงการนี้ขึ้น เป็นประโยชน์อย่างมาก ทำให้มีสติรู้สึกตัว ได้รู้จักตนเอง ใจสงบขึ้น เป็นประสบการณ์ชีวิตที่มีคุณค่า
ผอ.โรงพยาบาลฯ กล่าวขอบคุณว่า ผมได้เห็นพี่น้องในที่ทำงานไม่ค่อยมีความสุขกัน เกิดความคิดอยากจะให้พี่น้องมีความสุขในการทำงาน จึงไปปรึกษาหัวหน้าแผนกต่างๆ จัดโครงการปฏิบัติธรรม ๓วัน ๒ คืน
ณ วัดป่าปาลธรรม อำเภอสามชัย จังหวัดกาฬสินธุ์
“โดยขอคนที่สมัครใจตั้งเป้าหมายไว้ ๒๕ คน เกินเป้ามีจำนวนผู้สมัครใจมา ๓๑ คน ส่วนมากที่มาก็เคยไปปฏิบัติที่วัดป่าสุคะโต จังหวัดชัยภูมิมาแล้ว
“หวังว่าทุกท่านได้ข้อคิด และรู้วิธีควบคุมอารมณ์ด้วยการเจริญสติรู้สึกตัวมากขึ้นมีความสุขไปปรับใช้ในที่ทำงาน ขอขอบพระคุณพระอาจารย์ที่อบรมสั่งสอนและนำปฏิบัติ ขอบคุณแม่ครัวที่อำนวยความสะดวกทั้งอาหารน้ำปานะและที่พักอาศัย และสุดท้ายขอบคุณพี่น้องญาติธรรมทุกท่านที่มาร่วมโครงการฯครั้งนี้ด้วยครับ”
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/06/61784432_385338478747050_5466224488439873536_n.jpg)
กับคณะหมอโรงพยาบาลสมเด็จ อำเภอสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์
ณ วัดป่าปาลธรรม ในโครงการอบรมปฏิบัติธรรมเป็นระยะเวลา ๓ วัน ๒ คืน
ระหว่างวันที่ ๒๘ -๓๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๒
![พระครูสมุห์สุพัฒน์ อนาลโย](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/05/61291058_2443545029297972_443308335106621440_n.jpg)
“พระอาจารย์จ๊อดส์” ผู้เขียน
ข้อคิดสะกิดใจ : วันนี้เราทำความดีสร้างประโยชน์ให้แก่ชุมชน
หรือหน่วยงานสังกัดสังคมต่างๆ
ที่เราได้พักพิงอาศัยอยู่ในการทำมาหากินเช้าเย็น
เรา… รู้จักบุญคุณท่านและตอบแทนบุญคุณเขาบ้างหรือยัง ?