“วันเวลา แม้ผ่านไป
แต่ความรัก ความเมตตา ความห่วงใย
ของพระองค์ท่านไม่เคยเปลี่ยน”
ท่านผู้หญิงสุภรภ์เพ็ญ หลวงเทพนิมิต เลขานุการพระองค์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
“๑๒ สิงหา วันเฉลิมพระชนมพรรษา
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
![ขอขอบคุณ ภาพวาดโดย อาจารย์ปัญญา เพ็ชรชู ศิลปินต้นธารศิลป์](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2020/08/559000008853505.jpg)
“วันแม่แห่งแผ่นดิน
: พระราชินีในดวงใจ
คือความรักที่มอบให้ประชาชน”
โดย มนสิกุล โอวาทเภสัชช์ (เรื่องและภาพ)
จากคอลัมน์ “วิปัสสนาบนหน้าข่าว” หน้าพระไตรสรณคมน์ นสพ.คมชัดลึก วันพฤหัสบดีที่ ๑๗ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๖๐
!["พระราชินีในดวงใจ คือความรักที่มอบให้ประชาชน" จากคอลัมน์ วิปัสสนาบนหน้าข่าว (หน้าพระไตรสรณคมน์ นสพ.คมชัดลึก วันพฤหัสบดีที่ ๑๗ สิงหา พ.ศ.๒๕๖๐) โดย มนสิกุล โอวาทเภสัชช์](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2020/08/09KLE6S1_17082017111-2-1024x541.jpg)
พระราชินีในดวงใจ
คือความรักที่มอบให้ประชาชน
“ทรงเป็นทุกอย่าง ท่านเป็นแม่ ก็เป็นแม่ที่ดี อันนี้พูดภาษาชาวบ้านนะคะ ท่านเป็นกุลสตรีไทยเพียบพร้อมทุกอย่าง สมบูรณ์แบบ ไม่เคยเห็นใครเหมือนพระองค์ท่าน ทุกกิริยา ทุกวาจา ที่สำคัญคือ จากใจข้างในท่านดีมากๆ ท่านมองทุกคนดีหมด ประชาชนท่านรักหมดทุกคน ทุกคนเหมือนลูกท่าน ถ้าใครได้อยู่ใกล้ท่าน ทำงานกับท่าน หรือประชาชนที่ได้เข้าเฝ้า ท่านรับสั่งก็รู้ว่าท่านเป็นอย่างไร ท่านทรงคิดทรงทำอะไรก็เพื่อประชาชนทั้งนั้น”
![ท่านผู้หญิงสุภรภ์เพ็ญ หลวงเทพนิมิต เลขานุการพระองค์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2020/08/ท่านผู้หญิงสุภรณ์เพ็ญ-หลวงเทพนิมิต-1-685x1024.jpg)
ท่านผู้หญิงสุภรภ์เพ็ญ หลวงเทพนิมิต เลขานุการพระองค์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ให้สัมภาษณ์กับผู้เขียนอย่างเป็นกันเอง เมื่อครั้งที่นิตยสาร เนชั่นสุดสัปดาห์ ยังไม่ปิดตัว หลังงานเสวนา “หัวใจกับใบโพธิ์ ครั้งที่ ๗ : ๘๔ พรรษา ฟ้าห่มดิน ทั่วถิ่นไทย” เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จบลงในยามบ่ายวันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๙ ณ ศูนย์หนังสือจุฬาฯ ชั้น ๔ อาคารจามจุรีสแควร์ กรุงเทพฯ
ท่านกล่าวต่อมาว่า ก็แปลกใจเหมือนกัน ทำงานถวายพระองค์ท่าน เวลาพระองค์ทรงงาน เวลาก็น้อย แต่พระองค์ท่านทรงทำได้ครบวงจร พระองค์ท่านช่วยเหลือคนไข้เจ็บป่วย ทำเรื่องการศึกษา เรื่องอาชีพต่างๆ เรื่องทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม ทุกอย่าง ครบหมดเลย จนบัดนี้ เรามานั่งคิดว่า ท่านทำได้อย่างไร เวลาน้อย แต่ทำงานได้คลุมหมดเลย สำหรับตัวเราทำได้อย่างเดียว
“ทุกอย่างที่ทั้งสองพระองค์ทรงทำ ทั้งพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ ๙ และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระราชินี ทรงทำให้แผ่นดิน ทำให้ประเทศชาติ ทำให้ประชาชนทั้งหมด
“พระองค์ท่านทรงทำให้ลูกหลานของเราต่อไปในอนาคต”
ท่านผู้หญิงสุภรภ์เพ็ญ หลวงเทพนิมิต
“ เหมือนงานของสถาบันสิริกิติ์ มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ งานในพิพิธภัณฑ์ศิลป์แผ่นดิน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงรับสั่งกับเราไว้ตั้งแต่แรกเลยว่า สถาบันสิริกิติ์ ให้เอาเด็กมาฝึกงานช่างเหล่านี้ แล้วเวลาเขาฝึกไม่ให้เราเอางานเขาไปขายของ ท่านรับสั่งว่า ท่านไม่ได้ตั้งโรงงานขายของ แล้วงานของสถาบันสิริกิติ์ ให้เข้าพิพิธภัณฑ์เท่านั้นเอง เอาไว้เก็บค่าบัตรไว้เลี้ยงศิลปาชีพต่อไปในอนาคต
“พระองค์ท่านต้องการให้ลูกหลานคนไทยได้ยืนอย่างสง่าผ่าเผย ยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับชาติอื่นได้ ทรงรับสั่งว่า ถ้าใครมาดูงานศิลปะเหล่านี้ ก็จะรู้เลยว่า คนไทยเป็นอย่างไร มีจิตใจที่ละเอียดอ่อน มีความเมตตา”
ท่านผู้หญิงสุภรภ์เพ็ญ หลวงเทพนิมิต
และยังทรงรับสั่งว่า ไม่ต้องไปบอกว่า ฉันเป็นคนอย่างไร ท่านบอกว่า ต่อไป เด็กลูกหลานเราจะได้ยืนเคียงบ่าเคียงไหล่ชาติอื่นได้ ไม่น้อยหน้าชาติใด ทรงเตรียมอนาคตไว้ทุกอย่างเลย”
โดยเฉพาะในเรื่องของเกษตรกร ท่านผู้หญิงสุภรภ์เพ็ญกล่าวว่า พระองค์ทรงทราบความทุกข์ยากของเกษตรกรทุกคน เมื่อไรที่ฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาลบางครั้งแล้ง บางคราวน้ำท่วม ทำให้เกษตรกรต้องทำงานหนัก รายได้น้อย อีกทั้งศิลปวัฒนธรรมต่างๆ ก็จะสูญหายไป
![ขอขอบคุณ ภาพจากอินเทอร์เน็ต](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2020/08/34-1.jpg)
“สิ่งที่ทรงทอดพระเนตรเห็น พระองค์ท่านทรงตระหนักถึงสิ่งนี้ เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๓ เกิดน้ำท่วมใหญ่ในจงหวัดนครพนม จากการที่แม่น้ำศรีสงคราม เอ่อล้นมาท่วมจังหวัด พระองค์ทรงนำสิ่งของพระราชทานไปแจก ทรงทอดพระเนตรเห็นผ้าต่างๆ ที่ราษฎรนุ่งมาก็ทรงถาม ราษฎรก็ตอบว่า ย่ายายเลี้ยงไหมเอง ทอเอง ทำเอง ก็ทรงถามต่ออีกว่า แล้วสาวๆ ล่ะ ทรงได้รับคำตอบว่า สาวๆ ไม่มีใครทอผ้าไหมแล้ว ไปทำงานโรงงานหมด
![หนังสือ "จากขุนเขา...สู่ศิลปาชีพ" จัดพิมพ์โดย มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2020/08/จากขุนเขา-สู่ศิลปาชีพ-2-2.jpg)
“สมัยนั้นโรงงานเฟื่องฟู รายได้วันละ๒๐ บาท ๓๐ บาทพอใจ ไม่ได้คิดถึงอนาคต พระองค์จึงรับสั่งว่า ไม่ได้ คนเราการที่จะมีชีวิตอยู่ ต้องคิดว่า จะเลี้ยงปากเลี้ยงท้องอย่างไร ทรงรับสั่งว่า ถ้าอยู่อย่างนี้ประเทศไทยไปไม่รอดแน่ ประกอบกับการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในหลวงรัชกาลที่ ๙ มอบให้สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถดูแลเด็กๆ ผู้หญิงและคนชรา ทำให้พระองค์ท่านเปิดงานศิลปาชีพขึ้น และเกิดมูลนิธิศิลปาชีพต่อมาจนถึงปัจจุบัน
“คนไทยเราโชคดีจริงๆ ที่เกิดมามีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และพระบาทสมเด็จพระบรมราชินีนาถ”
ท่านผู้หญิงสุภรภ์เพ็ญ หลวงเทพนิมิต
ผ่านไปสามปีกว่าแล้ว ผู้เขียนกลับมาเปิดอ่านหนังสืออีกครั้ง วันแม่ปีนี้ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๓ ซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง แม่แห่งแผ่นดินอันเป็นที่รักของพสกนิกรเหนือเศียรเกล้าทุกคน จึงขอนำเรื่องเล่าอันประทับใจมาฝากท่านผู้อ่านอีกครั้งเป็นธรรมบรรณาการค่ะ
![หน้าพระไตรสรณคมน์ นสพ.คมชัดลึก วันพฤหัสบดีที่ ๑๗ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๖๐](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2020/08/09KLE6S1_17082017-2-671x1024.jpg)
ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ๑๒ สิงหา วันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง “วันแม่แห่งแผ่นดิน : พระราชินีในดวงใจ คือความรักที่มอบให้ประชาชน” โดย มนสิกุล โอวาทเภสัชช์ จากคอลัมน์ วิปัสสนาบนหน้าข่าว นสพ. คมชัดลึก วันพฤหัสบดีที่ ๑๗ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๖๐