เรียบเรียงจาก ดุษฎีนิพนธ์ เรื่อง “ประสิทธิผลการเผยแผ่พระพุทธศาสนาของพระธรรมทูตอาสา ใน ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้”
จากงานวิจัยของ พระมหาปรีชา สาเส็ง
และขอขอบคุณ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี เจ้าของลิขสิทธิ์ไว้ ณ โอกาสนี้
โครงการพระธรรมทูตอาสา ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้
เกิดจากปณิธานของเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) อดีตประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ในการจัดตั้งสำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคงแห่งสถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ ซึ่งมีสำนักงานกลาง ตั้งอยู่ ณ ศาลาเฉลิมพระเกียรติ บริเวณบรมบรรพต (ภูเเขาทอง) วัดสระเกศ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ
เพื่อส่งเสริมให้พระสงฆ์ปฏิบัติกิจด้านการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ด้วยการลงพื้นที่เยี่ยมเยือน สร้างขวัญกำลังใจ และทำงานร่วมกับเครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพ รวมทั้งพัฒนาความรู้แก่พระภิกษุสงฆ์ให้เข้าไปมีบทบาทและส่วนร่วมสร้างพื้นที่ปลอดภัย และคัดค้านการกระทำที่ก่อให้เกิดความรุนแรงทุกชนิด
ด้วยการใช้บูรณาการความร่วมมือระหว่างคณะสงฆ์หน่วยงานภาครัฐและประชาชนในการใช้ธรรมะจรรโลงสังคมให้มีแต่ความสงบสุข (สัมภาษณ์ พระครูสังฆรักษ์อำนาจ กรรมการเครือข่ายพระธรรมทูตอาสา จังหวัดสงขลา, ๑๕ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๕๙ )
สรุปได้ว่า นโยบายการเผยแผ่พระพุทธศาสนาของพระธรรมทูต สร้างบทบาทการให้บริการทางสังคมของพระสงฆ์ เพื่อการพัฒนาจิตใจของประชาชน คือการให้คำแนะนำด้านทางด้านจิตใจ เป็นที่ปรึกษาเกี่ยวกับปัญหาชีวิตต่าง ๆ และเป็นที่พึ่งให้ความสุขทางใจ ส่งเสริมการศึกษาของประชาชนและเยาวชน ช่วยพัฒนาชุมชนให้เป็นแผ่นดินธรรมแผ่นดินทอง ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษา ผู้ประนีประนอม ส่งเสริมความสามัคคีในหมู่บ้านได้
ด้านการสืบทอดพระพุทธศาสนา
จากการสัมภาษณ์ พระครูสิริวิหารการ ผู้ช่วยเเลขานุการ สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคงแห่งชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ วัดสระเกศฯ ในขณะนั้น พบว่า โดยแนวคิดจากสำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม ฯ นำทีมวิทยากรลงไป ทำอย่างไรให้ทีมที่ลงไปมีความเข้าใจ และมุ่งมั่นในสิ่งที่ทำร่วมกัน ให้มีความรักและปรารถนาดี ที่อยากจะช่วยคณะสงฆ์ที่อยู่ข้างล่าง ทำให้เกิดความเสียสละ รักและอยากจะช่วย ต่อมาคือประสานกับคนที่อยู่ข้างล่าง ในส่วนของข้าราชการ เจ้าหน้าที่สำนักพุทธ ส่วนราชการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เป็นเรื่องของหลักการวางหลักการ การวางแผน การแสวงหาคนที่เหมาะสมกับกิจกรรม เหมาะกับงาน ซึ่งคนหนึ่งอาจจะเหมาะสมกับงานหลายงาน หรืองานหนึ่งต้องอาศัยหลายคนเข้ามาช่วย
และจากการสัมภาษณ์ พระครูโฆสิตสุตาภรณ์ ประธานเครือข่ายพระธรรมทูตอาสา ๕ จังหวัดชายแดนใต้ เจ้าอาวาสวัดบูรพาราม จังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ ๑๗ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๕๙ พบว่า มีการสืบทอดโดยการเผยแผ่ และพิทักษ์พระพุทธศาสนา เพื่อให้บอกเล่าหลักธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสืบไปชั่วลูกหลาน โดยใช้วิธีการบรรยาย อธิบายธรรมะให้คนเข้าใจ และสามารถนำไปปฏิบัติได้ตามการเผยแผ่ที่ทราบๆ กัน โครงการต้องเน้นการทำงานเชิงรุกมากกว่าที่เป็นอยู่ สำหรับบางพื้นที่ แค่รู้และเข้าใจแต่วิธีเดิมๆ มันไม่พอ
ซึ่งจากการสัมภาษณ์พระครูประโชติรัตนานุรักษ์ เจ้าอาวาสวัดรัตนานุภาพ อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส ท่านอธิบายเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ ยังต้องอาศัยการทำงานเป็นทีม หรือเป็นกลุ่ม และต้องได้รับการสนับสนุนจากทุกภาคส่วนของสังคม
สรุปได้ว่า แนวคิดจากสำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม ฯ ให้ทีมที่ลงไปมีความเข้าใจและมุ่งมั่นในสิ่งที่ทำร่วมกัน ให้มีความรักและปรารถนาดี การวางหลักการ การวางแผน การแสวงหาคนที่เหมาะสมกับกิจกรรม มีความเสียสละ รักและอยากจะช่วยประสานงานกับข้าราชการ เจ้าหน้าที่สำนักพุทธ ส่วนบ้านเมือง และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ต้องอาศัยหลายคนเข้ามาช่วย โดยใช้วิธีการบรรยายธรรมะให้คนเข้าใจ และสามารถนำไปปฏิบัติได้ตามจริง