จาริกธรรมในอเมริกา
(ตอนที่ ๒๘) ธรรมของเทวดาคุ้มครองโลก
โดย พระครูสมุห์สุพัฒน์ อนาลโย
กลุ่มเพื่อชีวิตดีงาม สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคงแห่งสถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ วัดสระเกศ
โลกมนุษย์เกิดขึ้นมาตอนไหนยังไม่รู้ที่ชัดเจน
และโลกมนุษย์จะสิ้นวันไหนตอนไหนไม่ทราบได้ชัดเช่นกัน
มนุษย์กลุ่มหลักมีอยู่ ๒ แบบ คือ มนุษย์ที่เป็นผู้ชาย และมนุษย์ที่เป็นผู้หญิง แต่งงานกันตามประเพณีหรือตามความต้องการระหว่างคนสองคนชายและหญิงแล้ว จากนั้นก็มีลูกชายและลูกหญิงไว้สืบวงศ์สกุลเชื้อชาติเผ่าพันธุ์ ที่เรียกว่าครอบครัว เริ่มจากพ่อแม่ลูกก่อน ไม่รู้จักจบไม่รู้จักสิ้น สืบต่อกันไปเรื่อยๆ
การใช้ชีวิตทำงานหาเงินมาเลี้ยงปากท้องของตนและบุคคลในครอบครัวที่ตนรักพร้อมด้วยบทบาทหน้าที่ที่รับผิดรับชอบมากมายตามมา ไม่มีวันจบเช่นเดียวกัน ตราบใดยังมีลมหายใจอยู่ก็ต้องสู้ดิ้นรนต่อไปจนกว่าจะหมดลมหายใจ ปากกัดก้นถีบ เพื่อความอยู่รอดนั่นเอง
คนหนึ่งๆ ในแต่ละยุคสมัยก็ผ่านร้อนผ่านหนาวมาสารพัดรูปแบบ เพื่ออะไร ก็เพื่อเอาตัวรอดอยู่ในโลกใบนี้ให้ได้
ไม่ว่าจะสู้กับภัยธรรมชาติจากดินฟ้าอากาศไฟลม บางพื้นที่ที่เอเชีย ยุโรป อเมริกา ก็วิถีการใช้ชีวิตตามกฎระเบียบที่แตกต่างกันออกไปในพื้นที่นั้นๆ
อาหารการกิน ภาษา ประเพณี วัฒนธรรมขนมธรรมเนียมประเพณี ย่อมแตกต่างกันออกไป นี่แหละมนุษย์เรา
ปัจจุบันนี้ยิ่งมีเหตุการณ์เกิดโรคระบาดไวรัสโควิด-๑๙ ทั่วโลก ทำให้มนุษย์เราทั่วโลกวุ่นวายเดือดร้อนกายใจ จะกินจะนอนจะพบปะกับใครต่อใครก็ยากแสนยาก ต้องระมัดระวังตัวเองและบุคคลอื่น หยุดตน หยุดโลก งดกิจกรรมประกาศเคอร์ฟิว ห้ามออกจากบ้าน ปิดรัฐปิดประเทศ
กลัวจะติดโรคไวรัสโควิด-๑๙ จากการไอ จาม สัมผัสกับคนติดเชื้อโดยไม่รู้ตัว ทำให้คนคิดมาก คิดหวาดระแวงกัน
บางคนมาจากที่กลุ่มเสี่ยงหรือประเทศกลุ่มเสี่ยงเข้าในประเทศไทยแล้วต้องถูกกักตัวกัดตัวเอง ๑๔ วัน
บางคนคิดมากเสพติดข่าวเกิดความตระหนกตกใจกลัวตายขึ้นมาทันที คิดมากจะไปไหนมาไหนก็ไม่กล้าไป ประสาทจะกินหัวแล้ว โควิด๑๙ เราอาจไม่ตายหรอก แต่จะตายเพราะคิดมากหวาดระแวงประสาทจะกินเข้าโรงพยาบาลศรีธัญญาก่อน
บางประเทศแสดงออกถึงน้ำใจอันดีงาม มีจิตเมตตา นำเอาอาหารมาบริจาคให้กันที่ริมถนนในประเทศเยอรมนี
ส่วนคนไทยก็น้ำใจงาม บริจาคเงินทุนทรัพย์ช่วยหน่วยงานแพทย์ ร้านอาหารแบ่งปันน้ำใจ ทำอาหาร น้ำดื่มรับส่งให้หมอแพทย์พยาบาลได้รับประทานฟรี
มีนักจิตอาสาพระโพธิสัตว์น้อยจับกลุ่มหรือทำเป็นรายบุคคล ผลิตแมสผ้าแจกฟรี เป็นต้น
คนจะอยู่รอดได้มีธรรมครองใจ คุณธรรมของเทวดา ใครมีไว้ในจิตใจคนนั้นเป็นเทวดาเดินดินในโลกใบนี้
ธรรมของเทวดาหรือธรรมคุ้มครองโลกมี ๒ ข้อด้วยกันกล่าวคือ
๑ มีความละอายใจ (หิริ) หมายถึง ไม่คิดที่จะทำความชั่ว เรื่องไม่ดีที่ก่อเหตุสร้างความเดือดร้อนใจให้แก่ตัวและคนอื่น จึงจะได้มีจิตใจเป็นเทวดา
ไม่คิดนอกใจกันสามีภรรยา จึงจะได้ชื่อว่า สามีเทวดาภรรยาเทวดา ไม่คิดตีต่อย ด่าว่าร้าย นินทา ไม่อกตัญญู ไม่ทรพีเนรคุณ ตะคอกเสียงใส่พ่อแม่ จึงจะได้ชื่อว่า ลูกเทวดา
ไม่คิดนินทาใส่ร้ายป้ายสี ไม่ทรยศ คดโกง ทุจริตเอารัดเอาเปรียบกัน ระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง จึงได้ชื่อว่า มีนายเทวดาและลูกจ้างเทวดา
ไม่คิดหักหลังเพื่อน เวลาอยู่ต่อหน้าว่าดีเวลารับหลังว่าไม่ดี ไม่หนีเพื่อนเวลาเจ็บไข้ได้ป่วยกลุ้มใจทุกข์ใจ จึงได้ชื่อว่า มีเพื่อนเป็นเทวดา
ใครมีคุณธรรมข้อนี้ อยู่กับใครไปที่ไหนก็มีคนรักและเคารพ เพราะเขามีจิตใจไม่คิดที่จะเบียดเบียนเอารัดเอาเปรียบใคร
เป็นคนดีผีคุ้มเทวดาปกป้องรักษามาดลจิตใจไม่ให้ทำความชั่วหรือไปสู่สถานที่อันตรายและที่ที่ทำให้ชีวิตตกต่ำด้วย
๒. มีความยำเกรงกลัวต่อผลของการกระทำความชั่ว บาปกรรม (โอตตัปปะ) หมายถึง กลัวผลกรรมที่จะทำชั่ว ก็ไม่ทำ กลัวการสร้างความวุ่นวายให้แก่ชาติบ้านเมืองก็ไม่ทำ
ยิ่งสถานการณ์ไวรัส โควิด ๑๙ กักตัวเองอยู่ที่บ้าน เพื่อช่วยชาติ และแบ่งเบาภาระของแพทย์คุณหมอพยาบาล ทางการบ้านเมืองออกระเบียบอะไรออกมาก็ให้ปฏิบัติตามอย่างเต็มที่
ถ้าใครไม่มีคุณธรรมข้อแรกคือความละอายใจ ก็จะดื้อรั้น ไม่เชื่อกฎระเบียนของสังคม สิ่งที่ห้ามอยู่ก็ยังฝืนทำ กรณีข่าวว่ามีคนท่านหนึ่งกลับจากกรุงเทพฯ เขาให้กักตัว ๑๔ วัน ก็ไม่ฟัง ไม่มีความละอายใจ ไม่ยอมกักตัวตนเอง ดื้อรั้น และไม่เกรงกลัวต่อกระทบต่อตนและคนอื่นที่จะเกิดขึ้นภายหลังได้ อาจจะนำเอาไวรัสไปสู่คนอื่นได้ง่ายในกรณีที่ตนเองติดเชื้อ ไม่ติดเชื้อก็ดีไป
ดังนั้น คุณธรรมของเทวดาคุ้มครองโลก เทวดาจะรักช่วยเหลือคนที่มีคุณธรรมมีใจชื่อตรงต่อตนเอง มีความละอายใจและยำเกรงกลัวต่อสิ่งชั่วร้าย ไม่ดื้อดึงเอาแต่ใจตนเอง ไม่สนใจว่าเรื่องนั้นจะดีหรือไม่ดี ควรหรือไม่ควร เอาความถูกใจจนลืมความถูกต้อง
หากใครที่เห็นแก่ตัว ไม่เชื่อฟังอะไรเลยอาจจะพังทั้งตนและคนอื่น ถ้ายังประมาทและเข้าข้างความชั่ว โดยเฉพาะเจ้าโควิด๑๙ มันจะเข้าหรือติดเชื้อได้ทางตา จมูก ปาก เป็นสื่อสอนธรรมะ
ทางตาให้ระมัดระวังตา อย่ามองเพียงแค่สิ่งที่เห็นเท่านั้นต้องมองด้วยสติปัญญา
ทางจมูกให้ระมัดระวังจมูก อย่าสูดดมสิ่งที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย กลิ่นควรดมและไม่ควรดมเลือกเอาเราสามารถดมกลิ่นได้ เชื่อว่าทุกคนชอบสิ่งดีๆ
และทางปากให้ระมัดระวังปาก อย่าเห็นแก่กิน อย่าเห็นปากท้องมากเกินไป กินมากสนุกสนานกับการกินก็มีโรคภัยมาเบียดเบียน ท้องร่วง ถึงร่างกายสุดท้ายคือลมหายใจหมดก็สิ้นชีวิตได้
สรุปท้าย อย่าประมาทในชีวิต อยู่อย่างมีสติดำรงตนให้จิตมีที่พักพิงอาศัย คุณธรรมของเทวดาคุ้มครองเป็นเกาะป้องกันจิตใจแล้วกายก็สบายชีวิตปลอดภัยมีความสุขได้
ละอายใจไม่ทำความชั่ว มีจิตสำนึกรับผิดชอบชั่วดีของสังคม และเกรงกลัวผลวิบากกรรมที่ทำ อันเป็นยาพิษ เป็นไวรัสอันตรายต่อชีวิต หลงเข้าไปติดหรือทำมันแล้ว ขั้นต่อไปต้องยอมรับชะตากรรมที่ตนเอง
เราทำได้รับผลของการกระทำเอง เขาทำก็ได้รับผลกระของเขาเอง ทำอย่างใดได้อย่างนั้น ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว
อย่าประมาท มีสติ ใช้ชีวิตด้วยสติปัญญา คนดีผีคุ้ม เทวดาปกป้องรักษา
จ๊อด
๔ เมษายน พ.ศ.๒๕๖๓
จาริกธรรมในอเมริกา (ตอนที่ ๒๘) “ธรรมของเทวดาคุ้มครองโลก” เรื่องและภาพโดย พระครูสมุห์สุพัฒน์ อนาลโย กลุ่มเพื่อชีวิตดีงาม