จดหมายถึงโยมแม่ใหญ่ ฉบับที่ ๔
(ตอนที่ ๗) “ดุสิตาภูมิ”
โลกของเทวดาชั้นที่ ๔
: จาก ธรรมนิพนธ์เรื่อง “หลักการทำบุญและปฏิบัติธรรมในชีวิตประจำวัน”
เขียนโดย พระราชกิจจาภรณ์ (เทอด ญาณวชิโร) ในขณะนั้น
ตุสิตาภูมิ โลกของเทวดาชั้นที่ ๔
ตุสิตาภูมิ หรือที่เราได้ยินคุ้นหูกันโดยทั่วไปว่า “สวรรค์ชั้นดุสิต” เมื่อก่อนจะตรัสรู้ พระพุทธเจ้ายังเป็นพระโพธิสัตว์ ก็สถิตอยู่บนสวรรค์ชั้นนี้ มีชื่อว่า“เสตเกตุเทพบุตร” แล้วเสด็จอุบัติในโลกมนุษย์เป็นเจ้าชายสิทธัตถะ ตรัสรู้ เป็นพระพุทธเจ้าในที่สุด
พระพุทธมารดาก็สถิตอยู่ที่ชั้นดุสิตนี้เช่นกัน
มีข้อสังเกตว่า เมื่อครั้งที่พระพุทธเจ้าไปจำพรรษาบนสวรรค์ เพื่อเทศน์โปรดพระพุทธมารดา แม้พระพุทธมารดาอยู่ชั้นดุสิต แต่พระองค์ก็เลือกที่จะจำพรรษาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
เพราะพระองค์ทรงมีเมตตาต่อพระอินทร์เหมือนสามเณรผู้อุปัฏฐาก ยามเมื่อพระพุทธองค์เจ็บป่วยไม่สบาย พระอินทร์จะมาอุปัฏฐาก หากพระองค์เสด็จไปจำพรรษาบนสวรรค์ชั้นดุสิต พระอินทร์ตลอดจนเทวดา ซึ่งเป็นบริวารของพระอินทร์จะไม่สามารถขึ้นไปฟังเทศน์ที่สวรรค์ชั้นดุสิตได้ เป็นธรรมดาว่าเทวดาที่อยู่ในสวรรค์ชั้นต่ำ จะขึ้นไปสวรรค์ชั้นสูงกว่าไม่ได้
แต่หากพระองค์ไปจำพรรษาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เทวดาในสวรรค์ชั้นสูงกว่า ก็สามารถลงมาฟังเทศน์ได้
หากจะเปรียบเทียบ ก็เหมือนพระเจ้าแผ่นดินจะเสด็จไปบ้านนอกบ้านนา ก็ย่อมได้ แต่ชาวนาจะเข้าวังก็คงยาก ต้องได้รับพระบรมราชานุญาติก่อน
นอกจากนั้น พระศรีอริยเมตไตรยที่จะลงมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าต่อจากพระพุทธเจ้าของเราในภัทรกัปนี้ก็สถิตอยู่บนสวรรค์ชั้นดุสิตนี้ด้วย ยังมีเรื่องที่จะทำความเข้าใจเกี่ยวกับคำว่า “ภัทรกัป” อีกเล็กน้อย
ในทางพระพุทธศาสนาได้กล่าวถึงช่วงระยะเวลาในโลกว่า มีอยู่ ๒ ช่วง แต่ ละช่วงจะมีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้มากน้อยแตกต่างกันไป คือ
- ช่วงระยะเวลาที่โลกเสื่อม
- ช่วงระยะเวลาที่โลกเจริญ
ช่วงระยะเวลาเจริญเรียกว่า “ภัทรกัป” ยุคที่เราอยู่ในปัจจุบันถือว่าอยู่ ในยุคภัทรกัป คือ ยุคข้างฝ่ายเจริญ ในภัทรกัปนี้จะมีพระพุทธเจ้า ตรัสรู้ ทั้งหมด ๕ องค์ คือ
(๑) พระกะกุสันธะพุทธเจ้า ได้มาตรัสรู้แล้ว
(๒) พระโกนาคมนะพุทธเจ้า ได้มาตรัสรู้แล้ว
(๓) พระกัสสปะพุทธเจ้า ได้มาตรัสรู้แล้ว
(๔) พระโคตมพุทธเจ้า คือ พระพุทธเจ้าของเราองค์ปัจจุบันที่เรานับถือพระพุทธศาสนา เข้าวัดฟังธรรม ทำบุญ ให้ทาน รักษาศีล ก็คือนับถือคำสอนของพระโคตมพุทธเจ้าพระองค์นี้ ศาสนาของพระองค์จะมีอายุประมาณ๕,๐๐๐ ปี หลังจากนั้นจะเป็นยุคมิคสัญญี คือยุคที่มนุษย์มองกันเป็นเพียง สัตว์ชนิดหนึ่ง สุดแต่ว่าใครจะมีกำลังเข่นฆ่าทำลายล้างกันได้ ช่วงนี้เป็นช่ วงว่างเว้นจากพระพุทธเจ้า เมื่อโลกก้าวเข้าสู่ภาวะปกติ ต่อจากนี้จึงจะมีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้อีกองค์ คือ พระศรีอริยเมตไตรยพุทธเจ้า
(๕) พระศรีอริยเมตไตรยพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าพระองค์นี้ยังไม่ได้มาตรัสรู้ ปัจจุบันพระศรีอริยเมตไตรยยังสถิตอยู่สวรรค์ชั้นดุสิต จะมาตรัสรู้ในภายภาคหน้า เป็นองค์ที่ ๕ และเป็นพระพุทธเจ้าองค์สุดท้ายในภัทรกัปนี้ ในยุคของพระองค์จะเป็นยุคที่ผู้คนอยู่เย็นเป็นสุข ไม่มีโรคภัย ไม่มีโจรผู้ร้าย ผู้ทำบุญให้ทานรักษาศีลเท่าจึงนั้นจะมาเกิดในยุคสมัยของพระองค์
นิมานรติภูมิโลกของเทวดาชั้นที่ ๕
สวรรค์ชั้นนี้จะไม่ขอกล่าวในรายละเอียด เพราะมีเรื่องเกี่ยวข้องกับพระพุทธเจ้าของเราโดยตรงน้อย อายุของเทพชั้นนี้มี ๘,๐๐๐ ปีทิพย์ เท่ากับ ๒๓๐ โกฏิ ๔ ล้านปีของมนุษย์ เรื่องของสวรรค์ชั้นนี้ ขอเล่าแต่เพียงเท่านี้
ธรรมนิพนธ์ เรื่อง “หลักการทำบุญและปฏิบัติธรรมในชีวิตประจำวัน” เขียนโดย พระราชกิจจาภรณ์ (เทอด ญาณวชิโร) ในขณะนั้น ฉบับธรรมทาน พิมพ์ครั้งที่ ๙ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๙ สำนักพิมพ์อนันตะ