วันนี้วันพระ วันศุกร์ที่ ๙ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๖๔ แรม ๑๕ ค่ำ เดือน ๘ ขอน้อมธรรมะจากสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) มาฝาก จากธรรมนิพนธ์ “ธรรมะให้ลูกดี” หน้า ๒๙-๓๐ เรื่อง “ความร่มเย็นเป็นสุข”

“ความร่มเย็นเป็นสุข”

ประเทศไทยของเรา ทราบกันโดยทั่วไปว่า เป็นประเทศที่รักความสงบ และมีความร่มเย็นมาโดยลำดับ การที่เป็นอย่างนี้ ก็เพราะคนในบ้านเมืองเรา ตั้งแต่โบราณมา มีความรู้สึกต่อกันและกันในทางที่ดีงาม

แม้จะมีข้อผิดพลาดบกพร่องระหว่างกันและกัน ก็ถือในลักษณะเหมือนลิ้นกับฟัน คนอยู่ในประเทศเดียวกัน เหมือนลิ้นกับฟันอยู่ในปากเดียวกัน อาจมีกระทบกระทั่งกันบ้าง และที่เป็นอย่างนี้ ก็เป็นลักษณะธรรมดาของสังคม

º

แต่ที่ผ่านมา ประเทศไทยของเรา ก็รู้จักยับยั้งชั่งใจ รู้จักให้อภัยซึ่งกันและกัน ตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้ทรงแนะนำพระราชทานพระบรมราโชวาทไว้ ขอให้เราที่อยู่ร่วมกันในประเทศ ที่มีความสุขมาโดยลำดับได้พยายามปฏิบัติร่วมกัน เพื่อที่จะให้เกิดความร่มเย็นเป็นสุข

อย่าถือดี อย่าถือเด่น อย่าถือการแก่งแย่ง ว่าเป็นสิ่งประเสริฐ ให้ถือว่า ความสามัคคี ความปรองดองกัน ความรักกัน เป็นสิ่งประเสริฐ และเป็นคุณลักษณะพิเศษของไทยเรามาโดยลำดับ

ประเทศไทยของเรา ยอมรับนับถือพระพุทธศาสนา มาตั้งแต่แรกเริ่มเกิดประเทศไทยขึ้นในโลก จึงได้ถือตามหลักคำสอนในทางพระพุทธศาสนา มุ่งความสามัคคีปรองดอง ซึ่งกันและกัน ตามที่พระพุทธเจ้าตรัสสอน

ขอให้พี่น้องชาวไทย ไม่ว่าจะอยู่ส่วนใดๆ ของประเทศก็ตาม หรือแม้ในสามจังหวัดภาคใต้ ซึ่งเป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้ ได้มีความรู้สึกร่วมกันว่า

“เราจะต้องร่วมกันสร้างความสามัคคี ร่วมกันแก้ไขปัญหา ให้เกิดความสงบร่มเย็น”

เพราะว่าบ้านเมืองของเรา ไม่ได้ปรารถนาอย่างอื่น ปรารถนาอย่างเดียวว่า เราจะต้องอยู่กันด้วยความสงบสันติสุข และที่เป็นอย่างนั้นได้ ก็ต้องมีความสามัคคีปรองดอง ให้อภัยซึ่งกันและกัน ไม่ถืออารมณ์ชั่ววูบชั่วคราวเป็นเรื่องสำคัญ

ถ้าเราสามารถที่จะประคับประคองความคิดให้เป็นอย่างที่พระพุทธเจ้าสอน อย่างที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานพระบรมราโชวาท

“บ้านเราก็จะกลับมาสงบร่มเย็นเหมือนอย่างเดิม”

ขอให้เราทั้งหลายที่อยู่ร่วมกัน ในประเทศของเราได้ร่วมมือกัน ให้มีความสามัคคีปรองดองกัน ขอให้ความสงบสุขได้เกิดขึ้นในประเทศไทยของเรา เหมือนอย่างที่มีมาแต่ก่อน และยั่งยืนต่อไป ไม่มีที่สิ้นสุด ให้เป็นประเทศที่เป็นตัวอย่างแห่งการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข

ท่านทั้งหลายเป็นปัจจัยส่วนหนึ่ง ไม่ต้องมุ่งมองผู้อื่น คือตัวท่านเอง ต้องปฏิบัติให้เกิดความสามัคคี

“เพื่อความร่มเย็นแห่งบ้านเมืองเรานั่นเอง”

“ความร่มเย็นเป็นสุข” จากธรรมนิพนธ์ เรื่อง ” ธรรมะให้ลูกดี” : สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ)

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here