คนเหมือนกัน แต่วัดความสุขกันที่จิตใจ โดย พระครูสมุห์สุพัฒน์  อนาลโย
คนเหมือนกัน แต่วัดความสุขกันที่จิตใจ โดย พระครูสมุห์สุพัฒน์ อนาลโย

จาริกธรรมในอเมริกา ตอนที่ ๑๕

คนเหมือนกัน​ แต่วัดความสุขกันที่จิตใจ

โดย พระครูสมุห์สุพัฒน์ อนาลโย

คนหลายคนมีความใฝ่ฝันอยากมาต่างประเทศ​  โดยเฉพาะประเทศสหรัฐอเมริกา​ ว่าเป็นประเทศที่เจริญก้าวหน้าแนวหน้าของโลกเกือบทุกอย่าง​ มีหลากหลายวัฒนธรรม​ เผ่าพันธุ์​  เชื้อชาติศาสนา​ อยู่ด้วยกันอย่างสงบสุขภายใต้กฎหมายเป็นระบบระเบียบของบ้านเมือง​

         มันก็จริงเหมือนกับที่เขาว่า​เคารพสิทธิเสรีภาพภายใต้กฎหมาย​ มาอยู่ที่นี่ประมาณ​ ๖​  เดือน​  คำที่ได้ยินบ่อยเวลาที่เดินทางออกไปข้างนอก​  เข้าปั้มน้ำมันเข้าห้องน้ำ​  มีห้องน้ำของหญิงและชาย Restroom women and man

เมื่อเราเปิดประตูให้ ฝรั่งเขาก็จะทักทายขึ้นว่า​

“ขอบคุณ​ Thank​ you.”

เวลาที่เรายืนขวางทางเดินเขา​ หรือเวลาที่เขาจาม​ 

เขาจะกล่าวคำต่อท้ายว่า   ” Excuse me!​  ขอโทษ”  เสมอๆ

บางครั้งเห็นเด็กผู้ชายยืนเปิดประตูค้างไว้ให้เราเดินเข้าไปก่อน แล้วเขาเดินเข้ามาทีหลัง​ก็มี​   เห็นแล้วมีความสุขใจ นี่คือน้ำใจเด็กฝรั่งน้อยที่ให้เกียรติคนต่างชาติ​

ครั้งหนึ่งมีโอกาสได้สนทนาธรรมกับฝรั่งในโรงพยาบาล​ ไม่ได้ภาษาหรอก​

แต่ใช้เทคโนโลยีช่วยแปลศัพท์ให้แบบสนทนากัน​สลับกับการพูดคุยให้โทรศัพท์แปลความหมายให้นะ

ฝรั่งถาม “คุณมาจากไหน​”

พระตอบ​   “มาจากประเทศไทย”

ฝรั่ง​  “ฉันเคยไปฝึกสมาธิที่เมืองไทยอยู่บ่อยๆ ครั้ง​ และนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน​  คุณได้ฝึกสมาธิแบบไหนบ้าง”

พระ​ “อาตมาทำสมาธิแบบการเจริญสติแบบเคลื่อนไหว โยมรู้จักไหม​”

ฝรั่ง​  “ไม่รู้จัก”​

พระ​ “โยมทำตามอาตมานะ​  เริ่มจากมือขาวก่อน​  ให้เอามือซ้ายไปจับที่มือขวาใช้หัวนิ้วมือแตะที่แขนเบาๆ​  คุณรู้สึกที่แขนถูกแตะไหม​”

ฝรั่ง​  “รู้​” 

พระ​ก็ยื่นมือไปที่แขนฝรั่งเบาๆ​ แล้วบอกเขาว่า ให้ทำความรู้สึกแบบนี้ไปเรื่อยๆ​ 

อีกแบบหนึ่งคือให้คลึงนิ้วมือข้างใดข้างหนึ่ง​ เวลานอนก็ทำได้​  ลองทำดู

ฝรั่ง​ก็นั่งคลึงนิ้วมือขวา​ และนั่งหลับตาทำไปสักพัก​

พระ​ถาม  “เป็นอย่างไรบ้าง”

เขาบอกว่า​ “ทำให้ฉันผ่อนคลายมาก​”

พระก็บอกว่า​ “ถูกต้อง คุณทำถูกแล้ว​ จำความรู้สึกนี้ไว้​”        

เวลาที่เราเจริญสติแบบเคลื่อนไหวแบบ​นี้​ จะทำให้เราคิดสั้นลง​ ไม่คิดถึงอดีต​และไม่คิดถึงอนาคต​  เพราะใจเรามีที่ทำงาน​เรียกว่าอยู่กับปัจจุบัน  เขาก็ยิ้ม​  ก็บอกเขาว่ามีอะไรจะถามไหม

ฝรั่ง​  “คุณคิดว่าการดำรงชีวิตนอกจักรวาลมีหรือไม่”

พระ​ “ถ้าเราคิดว่ามีก็มี  ถ้าคิดว่าไม่มีก็ไม่มี​  เพราะโลกนี้สวยงามด้วยความคิด​  เขาก็ยิ้ม”​

และแล้วญาติเขาออกมาจากให้หมอตรวจพอดี ก็เลยหยุดการสนทนา ​ก่อนไปก็เขาขอถ่ายรูปด้วยและขอบคุณเรา​

จะเห็นได้ว่า  เราคนเอเชียเมืองไทยและเขาคนอเมริกันต่างเชื้อชาติศาสนา​ เมื่อได้พูดสนทนากันไขข้อสงสัยที่ค้างคาใจได้ก็กลับกลายมาเป็นกัลยาณมิตรกันได้​

เขาอยู่ที่อเมริกายังต้องเดินทางไปแสวงหาความสงบทางจิตวิญญาณที่ประเทศไทย​  ทำไมเขาต้องไปหาที่ความสุขทางจิตใจล่ะ​ 

เพราะว่าเขาเกิดมาก็พบเจอความเพียบพร้อมของความอำนวยสะดวกสบายทางกายทุกอย่าง​  สิ่งภายนอกส่งผลให้เกิดความสบายกายได้ช่วงระยะหนึ่ง เดี๋ยวก็เกิดความอิ่มตัวแล้วก็กลายมาเป็นความเบื่อหน่ายเเทนในที่สุด​ 

รู้เรื่องความสบายกายและความสุขทางกายแล้วยังไม่ใช่คำตอบของชีวิตที่แท้จริง​  จึงต้องแสวงหาความสงบสุขทางจิตใจบ้าง​ 

ที่เมืองไทยมีคำตอบ​ ความสุขทางจิตวิญญาณที่ได้มาจากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าคือ​ “สติสัมปชัญญะ”​

นั่นคือ รู้สึกตัวรู้เนื้อรู้ตัว​ ดำรงจิตใจให้ตั้งอยู่ในปัจจุบันธรรม​ หรือทำจิตใจให้ปกติ​ ไม่เดือดร้อนจิตใจ​ ประคับประคองจิตใจให้อยู่ปัจจุบันกับสิ่งที่ตนกำลังทำ​ พูด​ คิด​ ให้รู้เท่าทัน​ความนึกคิด​

อย่าไปหลงกับความคิดดีชั่ว​ เพียงแค่รู้เท่าทันพอ​ ใช้สติ​ สมาธิ​  ปัญญาในการดำรงชีวิต

สุดท้าย​  คนเหมือนกันไม่ว่าชาวเอเชียและชาวอเมริกัน​ มีธาตุสี่ขันธ์ห้า​ ความนึกคิด​ ความโลก​โกรธ​หลง​ กิเลสตัวเดียวกัน​  โศกเศร้าเสียใจ​ ความรักความเมตตา​ ชิงอำนาจ​ มีเหมือนกันหมดทุกคน​  

แต่วัดความสุขกันที่จิตใจ​  ความสงบสุข​  ความสันติภายใน​มันมีอยู่ภายในตัวเราทุกคน​ เพียงเราเจริญสติรู้สึกตัวอย่างแท้จริง​ รู้เป็นปกติธรรมชาติ​เข้าใจธรรมชาติภายใน​

 หรือเข้าใจระบบการทำงานของความคิดที่เป็นธรรมชาติ​  เกิดขึ้น​ ตั้งอยู่​และดับไปขณะหนึ่งๆ​ ใจรับรู้เห็นการเกิดดับของความคิด​ ใจเราก็ปล่อยว่างดูรู้อยู่เฉยๆ​  ใจปกติ​ ไม่หดหู่หวนกับคิดถึงอดีต​ ไม่กังวลความคิดอนาคต​ ใจปกติสงบสุขในปัจจุบันเป็นเรื่องๆ ไป​

ความสุขทางกายหาซื้อใส่ตัวได้ชั่วระยะหนึ่งเท่านั้น

แต่ความสุขทางใจที่แท้จริงคือ รู้จักปล่อยวางอดีต อนาคต ดำรงใจอยู่กับปัจจุบัน​   ความสุขที่แท้จริงมันสุขที่ใจ​  ทำใจเป็นปล่อยวางได้ก็สุขเพียงพอแล้ว

จาริกธรรมในอเมริกา ตอนที่ ๑๕ “คนเหมือนกัน แต่วัดความสุขกันที่จิตใจ” โดย พระครูสมุห์สุพัฒน์ อนาลโยากคอลัมน์ ธรรมลิขิต (หน้าธรรมวิจัย นสพ.คมชัดลึก วันอังคารที่ ๒๔ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๒)

 พระครูสมุห์สุพัฒน์  อนาลโย ผู้เขียน
พระครูสมุห์สุพัฒน์ อนาลโย ผู้เขียน

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here