"กัลยาณมิตรคือที่สุดของชีวิต" เขียนโดย พระปลัดปิยศักดิ์  ปิยสกฺโก
“กัลยาณมิตรคือที่สุดของชีวิต” เขียนโดย พระปลัดปิยศักดิ์ ปิยสกฺโก

จาริกบ้าน จารึกธรรม

กัลยาณมิตรคือที่สุดของชีวิต”

เขียนโดย พระปลัดปิยศักดิ์ ปิยสกฺโก

วัดแจ้ง สงขลา เลขาพระธรรมทูตอาสาจังหวัดสงขลา

"กัลยาณมิตรคือที่สุดของชีวิต" เขียนโดย พระปลัดปิยศักดิ์ ปิยสกฺโก วัดแจ้ง สงขลา เลขาพระธรรมทูตอาสาจังหวัดสงขลา จากคอลัมน์ "จาริกบ้านจารึกธรรม"หน้าพระไตรสรณคมน์ นสพ.คมชัดลึก วันพฤหัสบดีที่ ๒๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๐
“กัลยาณมิตรคือที่สุดของชีวิต” เขียนโดย พระปลัดปิยศักดิ์ ปิยสกฺโก วัดแจ้ง สงขลา เลขาพระธรรมทูตอาสาจังหวัดสงขลา จากคอลัมน์ “จาริกบ้านจารึกธรรม”หน้าพระไตรสรณคมน์ นสพ.คมชัดลึก วันพฤหัสบดีที่ ๒๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๐

ในช่วงบั้นปลายของชีวิตใครๆ ก็อยากพักผ่อนอยู่กับลูกหลานให้สบายใจ…แต่นี้เป็นเพียงแค่ความฝันของคนชรากลุ่มหนึ่ง

เช้าวันที่ ๑๕ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๖๐ เช้าแห่งวันที่สดใส คณะพระธรรมทูตอาสา และเยาวชนอาสา จังหวัดสงขลา และจังหวัดปัตตานี เดินทางไปลงพื้นที่ตามโครงการเยี่ยมพระพบปะโยม ที่บ้านพักคนชรา บ้านมุนี อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา เพื่อให้กำลังใจผู้สูงอายุ  มอบสิ่งของ และนำอาหารกลางวันไปเลี้ยงด้วย

ครั้งแรกกับการเดินทาง  เมื่อรถจอดสนิท ทุกคนก็เตรียมตัวลงจากรถ  รอบๆ ก็มีแต่ความเงียบ สงบ เยาวชนอาสาช่วยนำสิ่งของต่างใส่รถเข็น สักครู่หนึ่งเจ้าหน้าที่ที่ดูแลศูนย์มาตอนรับบอกให้ไปที่ศาลาโดยมีผู้สูงอายุมาพร้อมกันอยู่แล้ว

ในศาลา เจ้าหน้าที่กล่าวต้อนรับเราทุกคนที่ได้เดินทางมาถึง

ผู้เขียนมองไปรอบๆ มีผู้สูงอายุชายหญิงราว ๖๐ ท่านจากทั้งหมด ๙๐ กว่าคน ซึ่งเป็นผู้สูงอายุที่ไม่สามารถเดินได้ และเป็นผู้ป่วยติดเตียงต้องมีเจ้าหน้าที่ดูแลพิเศษ

ศูนย์แห่งนี้มีคนสูงอายุ อายุเฉลี่ย ๗๐ ปีขึ้นไป เจ้าหน้าที่เล่าว่า คุณตา คุณยาย ตื่นเต้นมากที่จะมีคนไปเยี่ยม บางท่านตื่นตั้งแต่ตีสาม ใจจดใจจ่อรอคอยการมาของพวกเรา  เพราะนานๆ จะมีคนมาเยี่ยม เนื่องจากที่นี่อยู่ห่างจากตัวเมือง แต่ละเดือนจึงมีคณะมาเยี่ยมเพียง ๑ ครั้ง

ซึ่งคณะของพระธรรมทูตอาสาเราได้มาจัดเลี้ยงอาหารกลางวันผู้สูงอายุด้วย

หลังจากรับประทานอาหารแล้ว เราในฐานะชาวพุทธมีพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง มีพระธรรมคำสอนเป็นแบบอย่าง มีพระสงฆ์เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ ก็ต้องไหว้พระอาราธนาศีลสมาทานศีลเป็นพื้นฐาน  

ชาวพุทธเรานิมนต์พระนำหน้า เพราะเป็นสิริมงคลให้กับตัวเองและครอบครัว  เสียงอาราธนาศีลดังบ่งบอกถึงความดีใจ และยินดี ที่ได้เจอพระภิกษุมาให้ศีลให้พรถึงที่ เพราะลำพังตัวเองจะไปวัดก็ลำบากอยู่ด้วยสังขารในวัยชรา

เมื่อรับศีลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตัวแทนพระธรรมทูต โดยพระปลัดนรุตม์ชัย อภินนฺโท ประธานเครือข่ายพระธรรมทูตอาสาจังหวัดสงขลา กล่าวให้ข้อคิดและพูดให้กำลังใจกับผู้สูงอายุ

ให้สู้ต่อไป ถึงไม่มีพี่น้อง หรือลูกหลาน ก็ยังมีเพื่อนที่อยู่คอยให้กำลังใจซึ่งกันและกัน”

หลังจากนั้นได้มอบสิ่งของที่ใช้ในการดำรงชีวิต เช่น ข้าวสาร เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค เป็นต้น ให้กับผู้สูงวัย

ขณะที่พระธรรมทูตประมาณ ๒๐ รูป นั่งฉันเพล เจ้าหน้าที่บอกให้เยาวชนจิตอาสานำอาหารเที่ยงไปให้ผู้ป่วยติดเตียง ๒ ตึกชายหญิง ที่ไม่สามารถเดินได้ โดยอาหารจัดเตรียมเอาไว้ในถาดหลุม ต่อมาในช่วงบ่ายพระธรรมทูตอาสาเดินไปเยี่ยมผู้ป่วยที่นอนติดเตียงและผู้สูงอายุที่ไม่สามารถเดินได้ พูดคุยให้กำลังใจ มีรอยยิ้ม มีเสียงหัวเราะ

ภาพที่เห็นคือ โยมคุณตา โยมคุณยาย บางคนก็รับประทานข้าวหกเลอะเทอะเพราะตามองไม่เห็น  หลายคนกำลังจะตาบอดเพราะต้อกระจก คณะเยาวชนอาสาจึงเข้าไปช่วยป้อนข้าว บางคนเป็นอัมพาต มือขยับไม่ได้ โยมคุณยายท่านหนึ่ง หลังงองุ้ม จนต้องใช้มือช่วยในการเดิน  บางคนเป็นเบาหวานจึงใช้ถุงพลาสติกหุ้มเท้าไว้กันติดเชื้อ

ผู้เขียนได้พูดคุยก็โยมผู้หญิงคนหนึ่งว่า ยมอายุเท่าไร โยมบอกว่า ๘๖ ปีแล้ว ผู้เขียนพูดแซวว่า ยังไม่แก่ที ยังสวยอยู่อีก อยู่ให้ได้สัก ๑๐๐ ปีนะ เสียงหัวเราะก็ตามมา

ผู้เขียนมาที่นี่เป็นครั้งแรก ได้สัมผัส กับความรู้สึก ที่โดดเดี่ยว เดียวดาย ชีวิตไร้ที่หวังจะมีใครพึ่งพาได้อีก  หลายๆคน ร้องไห้ คร่ำครวญ ว่าไม่มีลูกหลานมาเยี่ยม  มีอาการซึมเศร้า แต่ละคนก็มีเรื่องเล่ายาว ก่อนมาอยู่ที่นี่ เขียนเป็นนวนิยายได้เลย พวกเราเห็นรอยยิ้ม สายตาแห่งความปีติยินดี เสมือนเยาวชนจิตอาสานี้เป็นลูกหลานของท่านที่ค่อยดูแลเอาใจใส่ เป็นความรู้สึก ที่สัมผัสได้ด้วยความอบอุ่น

ผู้เขียนถามความรู้สึกของเยาวชนอาสาคนหนึ่งตอบว่า รู้สึกสังเวชใจ ที่ได้มาเจอกับผู้สูงอายุที่ถูกทอดทิ้ง สงสารที่ไม่มีใครมาดูแล ผู้เขียนก็ถามเยาวชนเพื่อให้ฉุกคิดว่า โตขึ้นหนูอยากให้พ่อแม่มาอยู่ที่นี้ไหม

เยาวชนตอบว่า ไม่หรอกค่ะ หนูจะตั้งใจเรียน ทำงานดีๆ แล้วเลี้ยงพ่อแม่อย่างดีเหมือนที่เคยเลี้ยงหนูมาเลยค่ะ

ผู้เขียน กล่าว อนุโมทนาสาธุ ดีแล้วลูก

ก่อนที่จะกลับผู้เขียนได้เดินมาเจอผู้สูงอายุคนหนึ่ง ก็เลยนั่งคุยสนทนากัน ผู้เขียนถามชื่อว่าโยมชื่ออะไร โยมตอบว่า ชื่อ รวย ถามต่อว่า อายุเท่าไรแล้ว คำตอบคือ “๘๒ ค่ะ” พร้อมยกมือไหว้

ผู้เขียนสังเกตเห็นดวงตาข้างหนึ่งมองไม่เห็น เห็นข้างเดียวแต่ไม่ได้ถามอะไร

ผู้เขียนก็เลยพูดว่า โยมชื่อรวย ทำไมต้องมาอยู่ที่นี่ล่ะ

โยมยายรวยพูดติดตลกว่า ให้สมบัติลูกมันหมด มันก็ทิ้งเลย แล้วก็หัวเราะ

"กัลยาณมิตรคือที่สุดของชีวิต" เขียนโดย พระปลัดปิยศักดิ์  ปิยสกฺโก
“กัลยาณมิตรคือที่สุดของชีวิต” เขียนโดย พระปลัดปิยศักดิ์ ปิยสกฺโก

ผู้เขียนถามว่า ดีใจไหมที่เห็นพระมาเยี่ยมหลายรูป โยมยายรวยบอกว่า เป็นบุญจริงๆ ที่ได้เจอพระ เพราะสองสามวันก่อนฝันว่านั่งคุยกับพระ วันนี้ได้พบพระถือว่ายังมีบุญอยู่ ผู้เขียนตอบว่า สาธุ

นั่งสนทนาสักพัก ถามโยมยายรวยต่ออีกว่า ได้สวดมนต์ไหว้พระบ้างไหม โยมยายรวยบอกว่า ยายอ่านหนังสือไม่ออกแต่ก็นั่งสมาธิไหว้พระก่อนนอนทุกครั้ง แล้วถามต่อว่า  โยมยายรวยเชื่อเรื่องกฎแห่งกรรมไหม ที่เราได้มาอยู่ในสถานที่แห่งนี้

โยมยายรวยนิ่งอยู่สักครู่แล้วน้ำตาของโยมก็ไหลออกมา แล้วตอบว่า เชื่อว่าเป็นกรรมของเรา ที่ได้ทำเอาไว้ แล้วโยมยายรวย ได้เล่าว่า ยายเป็นคนกระบี่ พ่อแม่เสียชีวิต ตั้งแต่เด็กๆ ก็เลยออกจากบ้าน ทำงานหนักมาตั้งแต่เด็ก มีครอบครัว อยู่ที่จังหวัดภูเก็ต มีลูก ๓ คน สามียายมีธุรกิจส่วนตัว ไม่นานสามีก็เสียชีวิต ด้วยโรคเบาหวาน

หลังจากนั้นไม่นานเมื่อลูกเรียนจบหนึ่งคนและไม่จบสองคน ก็เลยแบ่งสมบัติให้เพื่อให้ทำมาหากิน แต่ลูกบางคนก็เอาสมบัติของยายไปขายเล่นการพนันหมด ทำให้หมดตัว ยายก็หวังว่าจะได้อยู่กับลูก แต่ลูกกลับไล่ให้ไปอยู่อีกคน ยายก็เลยตัดสินใจมาอยู่ที่นี่ ได้ ๔ ปีแล้ว

ผู้เขียนถามว่า แล้วลูกได้รู้หรือติดต่อมาเยี่ยมบ้างไหม ยายตอบด้วยน้ำตาคลอเบ้า ไม่เลย ผู้เขียนให้กำลังใจบอกว่า ให้ตั้งจิตอธิฐาน สวดมนต์ ไหว้พระ ทุกวัน ให้ผลเวรกรรมชดใช้ให้หมดตั้งแต่ชาตินี้เถิด แล้วผู้เขียนล้วงไปในย่ามหยิบพระหลวงปู่ทวดวัดช้างให้ ยื่นให้โยมยายรวย เก็บไว้ให้พระคุ้มครอง แล้วผู้เขียนกล่าวกับโยมว่า โอกาสดีค่อยมาเยี่ยมอีกนะ โยมยายรวย ยิ้มด้วยความยินดี แล้วตอบ

“ขอบใจต้น (ต้น ความหมายคือ พระ) มากที่มาเยี่ยมคนแก่”

นี้คือความรู้สึก ส่วนหนึ่งที่ผู้เขียนได้รับและได้สัมผัส กับสังคมหนึ่งที่อยู่ด้วยน้ำตา ความเศร้า แต่มีรอยยิ้ม มีเสียงหัวเราะคอยกลบเกลื่อนความจริงที่อยู่ในใจ ก็มีแต่กำลังใจดวงน้อยๆ ทีให้ความหวัง เป็นพลัง ให้โยมคุณตา โยมคุณยาย อยู่ในโลกของความเป็นจริง ที่ได้ยืนอยู่ตรงนี้

หากเราชีวิตเรายังหายใจ ต้องไม่ยอมแพ้กับอุปสรรคที่ขว้างหน้า สู้ต่อไป เป็นกำลังให้ให้เสมอ…

หน้าพระไตรสรณคมน์ นสพ.คมชัดลึก วันพฤหัสบดีที่ ๒๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๐
หน้าพระไตรสรณคมน์ นสพ.คมชัดลึก วันพฤหัสบดีที่ ๒๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๐

จาริกบ้าน จารึกธรรม ตอน “กัลยาณมิตรคือที่สุดของชีวิต” เขียนโดย พระปลัดปิยศักดิ์ ปิยสกฺโก วัดแจ้ง สงขลา เลขาพระธรรมทูตอาสาจังหวัดสงขลา

"กัลยาณมิตรคือที่สุดของชีวิต" เขียนโดย พระปลัดปิยศักดิ์ ปิยสกฺโก วัดแจ้ง สงขลา เลขาพระธรรมทูตอาสาจังหวัดสงขลา
“กัลยาณมิตรคือที่สุดของชีวิต” เขียนโดย พระปลัดปิยศักดิ์ ปิยสกฺโก วัดแจ้ง สงขลา เลขาพระธรรมทูตอาสาจังหวัดสงขลา

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here