เราไม่ได้มีเวลาชั่วนิรันดร์ (๑)

“ความตายที่ยังไม่รู้จัก”

โดย พระมหาอภิชาติ ธมฺมาภินนฺโท วัดพุทธารามเกาหลี  เมืองอันซัน ประเทศเกาหลีใต้

วันอาทิตย์ที่ผ่านมาหลังจากจัดกิจกรรมในวัดเสร็จ ผู้เขียนกับพระอาจารย์จิระศักดิ์ เกตุเมโธเจ้าอาวาสวัดพุทธารามเกาหลี ก็เดินทางไปสวดศพแรงงานคนไทยที่เสียชีวิตอยู่ทางภาคเหนือของเกาหลี วันอาทิตย์เป็นวันที่ญาติโยมมาร่วมกันทำวัตรสวดมนต์เจริญจิตตภาวนา พระสงฆ์ก็ถือโอกาสกล่าวธรรมะให้แง่คิดในการดำเนินชีวิต ทุกคนดีใจได้ใส่บาตรพระสงฆ์ ได้ถวายภัตตาหารเพล พระสงฆ์จะเดินทางไปทำธุระที่ไหนก็ต้องเสร็จกิจกรรมในวัดก่อน หรือไม่ก็ต้องมีพระอยู่ทำกิจกรรม

เราออกจากวัดในเวลาเที่ยงครึ่ง ถึงสถานที่ประกอบพิธีก็ราวๆ บ่ายสองครึ่ง ดีหน่อยวันอาทิตย์มีรถคนไทยที่หยุดงานคอยอาสาขับรถรับส่ง ถ้าให้นั่งรถไฟ รถประจำทางไปเองก็คงจะลำบากหน่อย เพราะสถานที่อยู่ห่างไกลพอสมควร ลำบากก็ไม่ใช่ว่าพระจะไม่ไปนะ ลำบากอย่างไรก็ต้องไป เพราะมันคือหน้าที่

           สถานที่ไปในครั้งนี้เป็นเฮ้าส์ทำการเกษตร ก็พึ่งรู้ว่าในเฮ้าส์มีที่พักให้แรงงานด้วย เป็นตู้คอนเทนเนอร์ มีห้องน้ำห้องครัวอยู่ในตัว ดูแล้วก็มีความสะดวกสบาย ดีกว่าที่พักของพระอีก พระอยู่ตู้คอนเทนเนอร์เหมือนกัน แต่ว่าห้องน้ำอยู่ด้านนอก ไม่มีห้องน้ำในตัว ฤดูหนาวอากาศติดลบจะเข้าห้องน้ำทีต้องสู้กับความหนาว หลายคนเห็นพระดีใจกันมาก ตอนก่อนกลับหลายคนมาขอถ่ายภาพด้วยบอกว่า ผมมาอยู่เกาหลี ๖ ปีแล้วไม่เคยได้เจอพระตัวเป็นๆ เลย มีแต่ได้แค่ระลึกถึงก่อนนอน วันนี้เจอตัวเป็นๆ ดีใจมาก

กล่าวถึงโยมที่เสียชีวิตรายนี้ เสียชีวิตด้วยโรคประจำตัว ไม่ได้เสียชีวิตจากการทำงาน ศพถูกนำไปที่โรงพยาบาลแล้ว เพื่อจะเตรียมนำส่งกลับไทย ตอนที่ผู้เขียนมาอยู่เกาหลีใหม่ๆ เคยถามคุณโยมท่านหนึ่งว่า คุณโยมประทับใจอะไรที่สุดในเกาหลี

คุณโยมตอบว่า ไม่มีอะไรประทับใจนอกจากเงินเดือน

ล้วอะไรที่ลำบากที่สุดในเกาหลี

คุณโยมตอบว่า ไม่อยากตายที่เกาหลี เพราะการตายที่เกาหลีลำบาก ค่าใช้จ่ายก็แพงมาก แค่ค่าเอาศพกลับไทยก็เป็นแสนกว่าบาทแล้ว ไม่มีเงินครึ่งล้าน ตายไม่ได้ แล้วโยมก็หัวเราะ จะว่าไปแล้วก็ไม่มีใครเลือกได้หรอกว่า จะตายที่ไหน 

         หลังจากประกอบพิธีทางศาสนาแล้วผู้เขียนก็ให้ธรรมะ พูดคุยกับคนไทย ที่มาร่วมพิธี ซึ่งมีทั้งเพื่อนร่วมอาชีพที่ทำงานใกล้ๆ กัน และก็ญาติพี่น้องที่ทำงานอยู่ในเกาหลี เมื่อรู้ข่าวก็มาร่วมพิธี หลายคนบอกว่า ยังไม่ได้บอกลากันเลย ก็จากกันไปแล้ว

ได้เล่าให้ฟังถึงธรรมะของพระพุทธองค์ที่ฝากเตือนทุกชีวิตว่า

สิ่งที่เราไม่สามารถจะรู้ได้เกี่ยวกับชีวิตมี ๕ อย่าง คือ

 ๑.เราไม่สามารถจะรู้ได้ว่า เราจะอายุสั้นหรืออายุยาว

๒.เราไม่สามารถจะรู้ได้ว่า เราจะป่วยด้วยโรคอะไร

๓.เราไม่สามารถจะรู้ได้ว่า เราจะตายเวลาไหน  เช้าสายบ่ายค่ำ

๔.เราไม่รู้แม้ที่ทอดกาย ตายที่ไหนแน่

๕.เราไม่รู้ว่าตายแล้วจะไปไหน        

พระอาจารย์จิระศักดิ์ เกตุเมโธ เจ้าอาวาสวัดพุทธารามเกาหลี ได้ปรารภถึงการมาทำหน้าที่ของพระสงฆ์ ท่านเล่าให้คณะญาติโยมได้ทราบว่า ทุกครั้งที่ไปร่วมงานศพไม่ว่าจะไปที่ไหน ในนามคณะสงฆ์วัดพุทธารามเกาหลี ก็ไปเพื่อจะอนุเคราะห์ญาติโยม ปัจจัยที่ญาติโยมได้ร่วมกันทำบุญถวายมา พระสงฆ์รับอนุโทนาให้พรเสร็จแล้ว ขอบุญได้ส่งถึงผู้ตายให้สำเร็จวิบากผลเป็นทิพยสุข ทิพยสมบัติ แล้วก็ได้มอบปัจจัยคืนเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดการงานศพต่อไป

ท่านเล่าว่า แต่ถ้าเป็นการทำบุญเปิดร้านใหม่ ทำบุญเปิดบริษัทใหม่อะไรเหล่านี้ พระก็ไม่ปฏิเสธศรัทธาญาติโยม หากโยมถวายมาก็รับ เพื่ออนุเคราะห์ให้ตามเจตนา เพราะเป็นสิ่งที่น่ายินดีน่าดีใจ ญาติโยมมีความเจริญก้าวหน้าในชีวิตในอาชีพ

เมื่อกล่าวถึงเรื่องความตาย ความเป็นจริงไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนเราก็ต้องตาย แต่ว่าการตายของเรานั้นเรามีความพร้อมขนาดไหน คำถามง่ายๆ ก็คือ เราเตรียมตัวตายหรือยัง นึกถึงในสมัยพุทธกาลที่พระพุทธเจ้าทำที่หน้าที่โค้ชสอนเรื่องความตายให้กับนางกีสาโคตมี ที่ลูกของนางตาย นางก็ร้องไห้แทบจะขาดใจที่ลูกรักตาย อุ้มลูกไปหาใคร ก็ไม่มีใครช่วยได้ จนมีคนบอกว่า มีพระพุทธเจ้าพระองค์เดียวที่จะรักษาได้

นางก็อุ้มลูกไปหาพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าไม่ตรัสสอนนะว่า คุณโยมความตายเป็นเรื่องธรรมดา ใครๆ ก็จะต้องตาย แต่พระองค์บอกว่า ให้เธอไปขอเมล็ดพันธุ์ผักกาดจากบ้านที่ไม่มีคนตายมาสักหยิบมือหนึ่ง

นางก็ไปขอบ้านหลังแรก เจ้าของบ้านบอกว่า มีเมล็ดพันธุ์ผักกาด แต่ว่าญาติพึ่งตายไปไม่นาน บ้านหลังที่สอง สาม สี่ ห้า ก็บอกว่า มีเมล็ดพันธุ์ผักกาด แต่ปู่ ย่า ตาย ยาย ลุง ป้า น้า อาลูก หลาน พึ่งตายไป

จนจวนเวลาค่ำนางก็กลับได้สติว่า ทุกคนต้องตาย แล้วก็คลายจากความเศร้าเสียใจ ก็จัดงานศพของลูกตัวเอง แล้วก็ไปเฝ้าพระพุทธเจ้า ได้ฟังธรรมแล้วก็บรรลุเป็นพระอรหันต์ในที่สุด

แล้วในชีวิตจริงเราจะมีใครโชคดีเหมือนพระนางกีสาโคตมีเถรีไหมล่ะ ที่มีพระพุทธเจ้าเป็นโค้ชสอนเรื่องความตายให้จนพ้นจากความทุกข์ ความจริงไม่มีใครช่วยเราได้ นอกจากตัวเราเองที่จะต้องช่วยตัวเอง ทำความเข้าใจ เรียนรู้ความตายอย่างผู้ตื่นรู้

(โปรดติดตามตอบจบวันพฤหัสบดีหน้า)

เราไม่ได้มีชีวิตอยู่ชั่วนิรันดร์ (๑) “เรียนรู้ความตายอย่างผู้ตื่นรู้”

โดย พระมหาอภิชาติ ธมฺมาภินนฺโท วัดพุทธารามเกาหลี  เมืองอันซัน ประเทศเกาหลีใต้

จากคอลัมน์ จาริกบ้าน จารึกธรรม (นสพ.คมชัดลึก หน้าพระไตรสรณคมน์ วันพฤหัสบดีที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๒)

พระมหาอภิชาติ ธมฺมาภินนฺโท พระธรรมทูต วัดพุทธารามเกาหลี เมืองอันซัน ประเทศเกาหลีใต้ ผู้เขียน
พระมหาอภิชาติ ธมฺมาภินนฺโท ผู้เขียน
พระธรรมทูต วัดพุทธารามเกาหลี เมืองอันซัน ประเทศเกาหลีใต้

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here