“สร้างสันติให้ปรากฏในใจ”
พระสงฆ์นานาชาติ กับบทบาทในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในเกาหลีใต้ (๑)
โดย พระมหาอภิชาติ ธมฺมาภินนฺโท วัดพุทธารามเกาหลี เมืองอันซัน ประเทศเกาหลีใต้
จากคอลัมน์ จาริกบ้าน จารึกธรรม (หน้าพระไตรสรณคมน์ นสพ.คมชัดลึก วันพฤหัสบดีที่ ๑๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๒)
วันนี้จะพาเดินทางไปร่วมงานทอดกฐินวัดภาวนาคย็องจู ซึ่งเป็นวัดไทยแห่งเดียวที่อยู่ทางภาคใต้ของประเทศเกาหลีใต้ จากวัดพุทธารามเกาหลีไปมีระยะทางไกลพอสมควร จึงต้องเดินทางล่วงหน้า ๑ วันเพื่อให้ทันงานกฐินในวันรุ่งขึ้น
ในการเดินทางไปนั้น เราเลือกที่จะเดินทางไปด้วยรถบัสประจำทาง ซึ่งใช้เวลาจากสถานีขนส่งเมืองอันซัน ไปสถานีขนส่งเมืองคย็องจู ประมาณ ๔ ชั่วโมง เราถึงในวัดประมาณหนึ่งทุ่ม ช่วงนี้เป็นช่วงฤดูหนาวทำให้มืดเร็ว เวลาหกโมงครึ่งก็เริ่มมองไม่เห็นสองข้างทางแล้ว
ไปถึงวัดก็พักผ่อนจำวัดท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็น แม้ในห้องจำวัดจะมีฮีทเตอร์หรือเครื่องทำความร้อนแอร์อุ่น แต่ก็จำเป็นต้องทำให้มือ เท้า คอ ศีรษะอุ่นอยู่เสมอ ไม่อย่างนั้นร่างกายก็จะเป็นหวัดทันที พระอาจารย์นุกูล ธีรวโร เจ้าอาวาสวัดภาวนาคย็องจู ท่านบอกว่า ถึงอากาศจะหนาว ถ้าเรามีจิตใจเข้มแข็ง เราก็จะไม่หนาว ก็เลยแซวกันเล่นๆ ว่า อากาศหนาว ถ้าเรามีใจเข็มแข็ง เราก็จะไม่ต้องสรงน้ำ ฮ่าๆ
พูดถึงเรื่องงานสำคัญที่ตั้งใจมาร่วมในครั้งนี้ก่อน นั่นคืองานกฐิน วัดภาวนาคย็องจูเป็นวัดสุดท้ายที่จัดงานทอดกฐิน ซึ่งเป็นวัดไทยแห่งเดียวที่อยู่ทางภาคใต้ของเกาหลีใต้ ส่วน ๓ วัดที่เหลือก็อยู่ในโซนภาคกลาง วันจัดงานจึงมีผู้มาร่วมงานจำนวนมาก จากการจัดเก้าอี้ไว้ ๕๕๐ ตัวคนมานั่งเต็มหมด น้ำใจของคนไทยไม่ว่าจัดงานบุญอะไรก็จะไปร่วมบุญกันอย่างสุขใจ
ในการจัดงานในครั้งนี้ มีการใส่บาตรพระสงฆ์นานาชาติ มีการออกโรงทานของศรัทธาพี่น้องชาวไทย มีขบวนแห่ที่เรียบง่ายงดงามสมความเป็นไทย การจัดงานกฐินของวัดภาวนาคย็องจูในครั้งนี้พิเศษกว่าวัดอื่นๆ ทั่วไป เพราะจัดในมหาวิทยาลัยดงกุก ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่เปิดสอนพระพุทธศาสนาในเกาหลีใต้ด้วย ในฐานะที่พระอาจารย์นุกูล ธีรวโร เป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยก็เลยสามารถขอใช้สถานที่ได้
วันนั้นหลังจากร่วมงานทอดกฐินที่เสร็จแล้ว ผู้เขียนก็ออกเดินทางร่วมกับคณะที่เดินทางมาจากเมืองโซวไปทัศนะศึกษาชมสุสานหลวง เมืองคย็องจู แล้วผู้เขียนกับพระอาจารย์จิระศักดิ์ เกตุเมโธ เจ้าอาวาสวัดพุทธารามเกาหลี ก็ได้แยกทางกับคณะ ตั้งใจว่าจะเดินทางกลับวัดพุทธารามเกาหลี ก็ไปซื้อตั๋วรถบัสที่สถานีขนส่ง รถเต็มทุกอย่างทั้งรถวีไอพี รถธรรมดา วันอาทิตย์คนเดินทางเยอะ ระหว่างอยู่ที่สถานีขนส่งก็เจอพระอาจารย์ชาวเกาหลีใต้ที่ท่านไปบวชแบบเถรวาทที่พม่า ท่านอาสาเรียกแท็กซี่ให้ไปส่งที่สถานทีรถไฟฟ้าความเร็วสูง (KTX) ไปถึงก็ไม่มีตั๋ว แม้แต่ตั๋วยืนก็ไม่มี ที่มีตั๋วแต่ต้องรออีก ๗ ชั่วโมงถึงจะได้ขึ้นรถ ก็เลยตัดสินใจซื้อตั๋วกลับในวันรุ่งขึ้น
พระอาจารย์จิระศักดิ์ท่านก็เลยพานั่งรถชมเมืองคย็องจู เป้าหมายไปที่วัดพุลกุกซา (Bulguksa Temple) คำว่า “พุลกุกซา” นั้น หมายถึง ดินแดนแห่งพระพุทธศาสนา สร้างขึ้นในปี ค.ศ.๕๒๘ ปีที่พระพุทธศาสนาได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการโดยราชวงศ์ชิลลา (Silla) ปัจจุบันตั้งอยู่ในเมืองคย็องจู หรือ เคียงจู (Gyeongju) ของจังหวัดคย็องซังเหนือ (คย็องซังบุกโด, Gyeongsangbuk-do) และได้รับการบันทึกจากองค์การ UNESCO ในปี ค.ศ.๑๙๙๕ ให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม
(ติดตามตอนต่อไปสัปดาห์หน้า)
“สร้างสันติให้ปรากฏในใจ” พระสงฆ์นานาชาติ กับบทบาทในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในเกาหลีใต้ (๑) โดย พระมหาอภิชาติ ธมฺมาภินนฺโท วัดพุทธารามเกาหลี เมืองอันซัน ประเทศเกาหลีใต้ จากคอลัมน์ จาริกบ้าน จารึกธรรม (หน้าพระไตรสรณคมน์ นสพ.คมชัดลึก วันพฤหัสบดีที่ ๑๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๒)