
วันนี้วันพระ วันพุธที่ ๖ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ ขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๘
ศึกษาปฏิปทาพระเถระ ผู้นำพระพุทธศาสนาก้าวสู่โลกยุคใหม่
กับร่องรอยความทรงจำแห่งอดีต
บอกเล่าปฏิปทาในการครองตน ครองคน ครองงาน
ได้เป็นเครื่องจรรโลงความดีงาม ตามครรลอง “วิถีแห่งผู้นำ”
สำหรับสองตอนนี้ เล่าย้อนเกี่ยวกับพระวินัยเกี่ยวกับเงิน หรือ ปัจจัย ที่อยู่ในมหาปเทส ๔ ว่าสมเด็จพระสังฆราช (อยู่ ญาโณทยมหาเถร) พระองค์มีการเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อย่างไร ผ่านการบอกเล่าจากสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) และการห้ามเรี่ยไร ซึ่งเป็นกฎเหล็กของพระองค์

“ปูชา จ ปูชนียานํ เอตมฺมงฺคลมุตฺตมํ.
ขอนอบน้อมแด่ครู พระอุปัฌชาย์ อาจารย์
ผู้ให้ชีวิตในพระศาสนาของพระพุทธองค์ ด้วยเศียรเกล้าฯ”
วิถีแห่งผู้นำ
: สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสณมหาเถร)
๕๑.เงินเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช(อยู่)
๕๒.ห้ามเรี่ยไร
เรียบเรียงโดย พระครูอมรโฆสิต (ปรีชา สาเส็ง)

๕๑. เงินเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช(อยู่)

สมเด็จพระสังฆราช (อยู่ ญาโณทยมหาเถร) ซึ่งเป็นต้นแบบแห่งวัตรและปฏิปทาของสมเด็จพระพุฒจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) มีเรื่องราวที่น่าสนใจอีกเรื่องหนึ่งก็คือเรื่อง “เอกลาภ” หรือ ปัจจัยที่เขานํามาถวายให้ด้วยความศรัทธา
เป็นสิ่งธรรมดาที่พระในระดับสมเด็จพระสังฆราช ย่อมต้องมีญาติโยมศรัทธาปรารถนาอยากทําบุญกุศลด้วย ยิ่งพระองค์ท่านมีความรอบรู้ในศาสตร์หลายๆ ประการ ดังที่ได้กล่าวเป็นส่วนน้อยพอเป็นตัวอย่างนั้น เป็นต้น ปัจจัยลาภย่อมมีมาถึงท่านอย่างคาดไม่ถึงแน่นอน
การเงินของท่านเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราชนั้น สมเด็จพระพุฒาจารย์ผู้เป็นศิษย์ ได้อธิบายให้ฟังดังนี้

เรื่องการเงินท่านทําแบบโบราณ โดยมีกระถางลายครามอยู่ ๒ ใบ ตั้งอยู่ในกุฏินอกห้องพักของท่าน โดยท่านกําหนดว่า ใบหนึ่งสําหรับใส่ปัจจัยถวายท่าน อีกใบหนึ่งใส่ปัจจัยถวายสงฆ์ ซึ่งพอโยมคนใดจะทําบุญกุศลกับท่าน ท่านก็จะชี้บอกให้เขาเข้าใจ และทําบุญตามเจตนา
ตกตอนค่ำทุกวัน ท่านจะหยิบเงินจากที่บอกว่านี่เป็นกระถางของท่านใส่ในกระถางที่เป็นของสงฆ์วันละ ๑ บาท ทำไปไม่เคยขาด
“แล้วถ้าหากว่าท่านเห็นว่า เงินในกระถางไม่ว่าจะเป็นของท่าน หรือของสงฆ์มีมากแล้ว ท่าน จะเรียกไวยาวัจกรให้มานับ และรวบรวมไปเข้าบัญชีวัดเป็นของสงฆ์ทั้งหมด ซึ่งก็เท่ากับว่าไม่ว่าจะเป็นเงินที่เขาถวายให้ท่านเป็นพิเศษ หรือจงใจถวายสงฆ์ก็ตกเป็นสมบัติของวัด เป็นปัจจัยของสงฆ์ทุกบาททุกสตางค์ เพราะไม่ปรากฏว่าท่านจะเคยหยิบฉวยเงินทองไปใช้โดยส่วนตัวเลย แม้แต่บาทเดียว”

๕๒. ห้ามเรี่ยไร
เจ้าปประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ ได้พูดเกี่ยวกับประเพณีของวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ที่ได้ยึดถือปฏิบัติ ในเรื่องเงินๆ ทองๆ มาเป็นเวลานานแล้วว่า ที่วัดแห่งนี้ไม่มีการบอกบุญเรี่ยไรโดยเด็ดขาด การทำบุญไม่ว่าจะเป็นในเรื่องใดๆ ก็ตาม ญาติโยมต้องตั้งใจไปสละให้เองด้วยศรัทธาเท่านั้น
โดยเฉพาะในสมัยของท่านเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช (อยู่ ญาโณทยมหาเถร) กฎระเบียบนี้เคร่งครัดมาก เคยปรากฏมีตัวอย่างอยู่ครั้งหนึ่ง ซึ่งสมเด็จพระพุฒาจารย์ ท่านเล่าว่า

เมื่อก่อนเขามีกำหนดว่า วัดจะต้องสร้างโรงเรียน จึงได้สร้างโรงเรียนขึ้น เมื่อคํานวณงบประมาณ การสร้างก็ตกเกือบ ๓ ล้านกว่าบาท คนดําเนินงานเขาก็จัดตั้งคณะกรรมการขึ้น ด้วยหวังดีต่อสมเด็จอยากให้ท่านหมดภาระ คือ ประสงค์จะช่วยท่านหาเงินมาสร้างโรงเรียนให้
พอท่านรู้ข่าวเท่านั้น ท่านห้ามเลย ท่านว่าไม่ได้ ทำอย่างนี้ไม่ได้ ท่านขอ
การที่จะจัดตั้งกรรมการนั้นได้ แต่ที่จะให้มีการเรี่ยไรนั้นไม่ได้ ไม่ให้เรี่ยไร จะมีใบอนุโมทนานั้นได้ แต่ต้องหยุดทำการเรี่ยไรทั้งหมด ท่านบอกว่าเรี่ยไรผิดวินัย งานการสร้างที่นี่ทางวัดต้องทำเอง
คำสั่งห้ามเรี่ยไรนี้ ท่านสั่ง กําชับเสมอ จนกระทั่งท่านสิ้นพระชนม์ และท่านยังบอกอีกว่า หากท่านตายลงเมื่อไหร่ อย่าขอเงินคนเป็นอันขาด มีเท่าไรทำเท่านั้น เรื่องขอเงิน เรี่ยไรนี้ห้ามเด็ดขาด
สิ่งนี้จึงถือเป็นเรื่องพิเศษถึงปัจจุบันนี้ก็ต้องถือ คือห้ามเด็ดขาด ไม่ให้ออกฎีกาอะไรใดๆ ไม่ว่างานอะไรจะเรี่ยไรขอเงินขอทองไม่ได้ ต้องให้เขา (ผู้ศรัทธา) มาให้เอง ถ้าเขาจะให้
